ทลายแก๊งโรแมนซ์สแกม เงินหมุนเวียน 800 ล้าน

กรุงเทพฯ 25 ส.ค. – ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ทลายแก๊งโรแมนซ์สแกมชาวไนจีเรีย ลวงให้รัก ก่อนเชิดเงินหนี พบ 4 ปี หมุนเงินออกนอกประเทศกว่า 800 ล้านบาท


ตำรวจกองบังคับการปราบปรามเปิดปฏิบัติการทลายแก๊งโรแมนซ์สแกมชาวไนจีเรีย เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 14 จุด ใน 7 จังหวัดทั่วประเทศ เผื่อจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่ถูกออกหมายจับ 21 หมายจับ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 14 คน ในจำนวนนี้เป็นชายชาวไนจีเรีย อายุ 45 ปี และแฟนสาวชาวไทยอายุ 47 ปี ที่ทำหน้าที่รับโอนเงิน และบริหารจัดการการเงินทั้งหมด ก่อนจะโอนเงินไปฟอกที่ต่างประเทศ โดยพบว่า 4 ปีที่ผ่านมามีเงินหมุนเวียนออกนอกประเทศกว่า 800 ล้านบาท แล้วตำรวจยังสามารถยึดของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือ 21 เครื่อง บัญชีธนาคาร 20 เล่มและบัตร ATM 18 ใบ สมุดกองทุนรวมธนาคาร เอกสารโอนเงินไปต่างประเทศ ระหว่าง เดือนธันวาคม 2564 ถึงเดือนมีนาคม 2565 จำนวน 5 ชุด เครื่องคอมพิวเตอร์ ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ และกระเป๋าแบรนด์เนม 2 ใบ

โดยปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องมาจากการที่มีผู้เสียหายซึ่งเป็นแพทย์ วิศวกร และพระ เข้าแจ้งความกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามในช่วงเดือนธันวาคม 2564 ว่าถูกคนร้ายใช้ภาพโปรไฟล์ เป็นหญิงต่างชาติรูปร่างหน้าตาดี แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทหารหญิงชาวอเมริกันที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ในประเทศซีเรีย ได้ทักมาสนทนาหลอกให้หลงรักผ่านทางโซเชียลมีเดีย ก่อนจะอ้างว่าจะเดินทางมาหาผู้เสียหายที่ประเทศไทย แต่ระหว่างนี้ต้องการจะส่งพัสดุซึ่งภายในเป็นทรัพย์สินมีค่ามาให้กับผู้เสียหาย และขอให้ผู้เสียหายช่วยชำระค่าภาษีนำพัสดุออกจากสนามบินก่อน และเมื่อเดินทางมาถึงไทยก็จะโอนเงินคืนให้ภายหลัง


โดยระหว่างนี้ก็ให้คนร้ายอีกคนโทรศัพท์มาหลอกผู้เสียหาย อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของสนามบิน เพื่อให้ผู้เสียหายลงเชื่อโอนเงินให้โดยอ้างเหตุผลต่างๆนานา เช่น เป็นค่าดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกของเจ้าหน้าที่รัฐในประเทศไทย เนื่องจากทรัพย์สินที่นำเข้าเป็นเงินผิดกฎหมาย หรืออ้างว่าเป็นค่าประการที่ทำสัญญาไว้กับบริษัท ค่าทนายความ ถ้าประกันทรัพย์สิน จนสุดท้ายผู้เสียหายไม่มีเงินจ่าย คนร้ายก็จะตัดการติดต่อไป โดยพบว่าผู้เสียหายแต่ละรายสูญเงินไปกว่าล้านบาท

โดยตำรวจได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า เงินของผู้เสียหายจะถูกโอนเข้าบัญชีของคนร้ายหลายบัญชี ก่อนที่สุดท้ายจะโอนไปยังแฟนสาวของชายชาวไนจีเรีย และโอนต่อไปยังบัญชีธนาคารในต่างประเทศ เพื่อนำไปใช้ในการซื้อทรัพย์สินมีค่าในประเทศจีน และทรัพย์สินเหล่านั้นจะถูกส่งกลับไปยังไนจีเรีย โดยพบว่าตั้งแต่ปี 2561-2564 มีเงินหมุนเวียนออกไปยังบัญชีในต่างประเทศรวมกว่า 800 ล้านบาท

เบื้องต้นผู้ต้องหาบางส่วนให้การรับสารภาพ และมักจะอ้างว่าถูกแฟนหนุ่มชาวไนจีเรียที่เจอกันในสถานบันเทิง ว่าจ้างให้ร่วมขบวนการโทรศัพท์หลอกลวงผู้เสียหาย และจะได้รับส่วนแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์จากการหลอกลวง แต่สำหรับชายชาวไนจีเรียและแฟนสาวชาวไทย ซึ่งเป็นผู้ต้องหารายสำคัญของขบวนการนี้ ยังคงให้การปฏิเสธ


โดยจากการตรวจสอบประวัติชายชาวไนจีเรียรายนี้ยังพบว่าตั้งแต่ปี 2561 เคยถูกดำเนินคดีในความผิดลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่คาดว่าอาจอยู่ระหว่างการประกันตัวออกมา จึงกลับมาก่อเหตุซ้ำซาก ซึ่งผู้บังคับการปราบปราม ได้กำชับให้พนักงานสอบสวน คัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นการกระทำผิดซ้ำซากหลายครั้งและเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ต้องหากลับมาก่อเหตุซ้ำอีก .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง

กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วน กทม.-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 40% กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก