“ก้าวไกล” ประกาศเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก หวังผลเลือกตั้งรอบหน้า

รัฐสภา 22 ส.ค.- “ก้าวไกล” ประกาศเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก หวังผลเลือกตั้งรอบหน้า ระบุตั้งรัฐบาลรอบนี้ต่อลมหายใจคณะรัฐประหาร รับมีโอกาสยกตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านให้ ปชป. เพื่อรักษาตำแหน่งรอง ปธ.สภา ของ “หมออ๋อง”


นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงข่าวภายหลังโหวตเลือกนายกฯ ว่าพรรคก้าวไกลขอแจ้งว่า นายอานุภาพ ลิขิตอำนวยชัย ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคก้าวไกล ที่หมดสติกลางห้องประชุม พ้นขีดอันตรายแล้ว กำลังตรวจเช็กร่างกาย และทางพรรคได้ติดต่อทางภรรยาและครอบครัวแล้ว พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ และ สส.จากพรรคอื่นที่เป็นแพทย์ ที่เข้ามาช่วยดูแล

จากนั้นนายชัยธวัช ได้อ่านแถลงการณ์พรรคก้าวไกล ว่า วันนี้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าการเลือกนายกรัฐมนตรี และการจัดตั้งรัฐบาล หลังจากนี้มิได้เป็นไปตามเจตจำนงของประชาชนส่วนใหญ่ ที่ได้แสดงออกผ่านการเลือกตั้ง พรรคก้าวไกลขอย้ำว่าการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้มิใช่การสลายขั้ว สลายความขัดแย้ง โดยเอาวาระของประชาชนและประเทศเป็นตัวตั้ง แต่เป็นการสยบยอมและต่อลมหายใจให้กับระบบการเมือง ที่คณะรัฐประหารปี 2557 พยายามที่จะสถาปนาขึ้น เป็นการทำลายความหวัง ความศรัทธา และอำนาจของประชาชน ตามระบอบประชาธิปไตย ต่อจากนี้ไปพรรคก้าวไกลจะทำงานในฐานะพรรคฝ่ายค้าน โดยจะเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ทุกเสียงของประชาชนที่มอบให้ ต้องมีความหมาย ส.ส.ของพรรคก้าวไกลทุกคน จะทำงานสุดความสามารถ ทั้งการตรวจสอบฝ่ายบริหาร การผลักดันกฎหมายที่ก้าวหน้า รวมถึงวาระของประชาชนตามกลไกต่างๆ ของสภา รวมทั้งการทำงานกับประชาชนนอกสภา เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคมร่วมกันอย่างไม่ท้อถอย


แม้ในวันนี้จะมีความพยายามทำให้อำนาจของประชาชนไม่มีความหมาย แต่พรรคก้าวไกลยังยืนอยู่ข้างประชาชนอย่างมั่นคง ด้วยความเชื่อมั่นว่า พลังของประชาชนจะสามารถสร้างอนาคตแบบใหม่ให้แก่สังคมไทยได้ในที่สุด วันหนึ่งเราจะมีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง มีระบบเศรษฐกิจก้าวหน้าเท่ากันโลกและเป็นธรรม มีสังคมที่เคารพความแตกต่างหลากหลาย สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน ยึดถือความมั่นคงของประชาชนเป็นความมั่นคงของชาติ ด้วยความเคารพประชาชน ผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศ

เมื่อถามว่า ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านทางพรรคจะตัดสินใจอย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้จะพิจารณากันภายในพรรค ซึ่งยังมีเวลาอยู่ตามรัฐธรรมนูญ มีการกำหนดระยะเวลาว่าการแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านจะเกิดขึ้นเมื่อใด

เมื่อถามว่า เงื่อนไขการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะเกิดปัญหาหรือไม่ ต่อการเป็นผู้นำฝ่ายค้าน นายชัยธวัช กล่าวว่า แน่นอน แต่สิ่งสำคัญคือเราเรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด ในเมื่อคณะกรรมการไต่สวนสืบสวนของ กกต. มีความเห็นไปยัง กกต.ใหญ่ ให้ถอนฟ้อง ด้วยเหตุผลที่ชัดเจนว่า คณะกรรมการไต่สวนสืบสวนของ กกต.ในอีกคดีหนึ่ง ที่จะยื่นไปยังศาลอาญา เห็นว่าไอทีวีไม่ได้เป็นบริษัทสื่อแล้ว ดังนั้นในอีกคดีที่อยู่ในขั้นตอนของศาลรัฐธรรมนูญ เราหวังว่าศาลจะพิจารณาไต่สวนเรื่องนี้โดยเร็ว หลังจากที่ พรรคก้าวไกลยื่นเอกสารชี้แจงไปแล้ว เพื่อคืนความยุติธรรม ความเป็นธรรมให้กับนายพิธา


เมื่อถามว่า มีแผนยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเร็วที่สุดเมื่อใดนายชัยธวัช กล่าวว่า การทำงานในฐานะพรรคฝ่ายค้าน คงทำแบบสร้างสรรค์ ยึดหลักการและเหตุผลเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านที่คัดค้านไม่เห็นด้วย หรือจ้องจะล้มรัฐบาลทุกวัน คิดว่ารัฐบาลชุดนี้สิ่งที่จะล้มได้คือศรัทธาของพี่น้องประชาชน นอกจากนี้แม้ว่าเราจะเป็นฝ่ายค้าน แต่จะเดินหน้าทำงาน เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะบริหารประเทศให้ดีที่สุดในการเลือกตั้งครั้งหน้า นั่นคือเป้าหมายของเรา

เมื่อถามว่า จะผลักดันแก้ไขกฎหมาย มาตรา 112 อยู่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า กฎหมายที่เราได้หาเสียงกับประชาชนเราจะดำเนินการผลักดันทั้งหมด ตอนนี้ทยอยเสนอร่างกฎหมายไปแล้ว และจะดำเนินการให้ครบ ในส่วนพรรคฝ่ายค้านได้มีการพูดคุยกับพรรคอื่นหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ทุกพรรคที่ไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ต้องเป็นฝ่ายค้านหมด โดยภาระหน้าที่อยู่แล้ว ส่วนจะคุยพรรคประชาธิปัตย์แบ่งงานหรือไม่นั้น นายชัยธวัช มองว่าไม่จำเป็น แต่มีวาระที่ต้องทำงานร่วมกัน เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ การตรวจสอบฝ่ายบริหารในวาระต่างๆ และหลังจากที่มีการแต่งตั้งวิปฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลก็จะมีการพูดคุยกันถือเป็นกลไกปกติในสภา

ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ต้องลาออกหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังมีเวลา ต้องดูตามกรอบรัฐธรรมนูญ ส่วนจะโดนกดดันหรือไม่ คิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับฝ่ายบริหาร เป็นการตัดสินใจของพรรคก้าวไกลอย่างเดียว คงไม่มีเหตุผลอะไรที่ฝ่ายนิติบัญญัติจะมากดดันเรื่องนี้

เมื่อถามว่า มีโอกาส เอาตำแหน่งรองประธานสภาไว้ แล้วยกตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านให้พรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับพรรรคก้าวไกลตัดสินใจ หากไม่ยึดติดกับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ตนเข้าใจว่าโดยกลไกต้องถือว่าพรรคประชาธิปัตย์น่าจะเป็นพรรคฝ่ายค้านอย่างเป็นทางการ

เมื่อถามถึงกรณีข้อมูลของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติของ นายเศรษฐา ทวีสิน ว่าที่นายกฯ จะตรวจสอบหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ต้องดูข้อเท็จจริง ถ้ามีประเด็นที่สมควรว่านายกรัฐมนตรีต้องถูกตรวจสอบ ก็ทำอย่างตรงไปตรงมาอยู่แล้ว แต่ขอดูเนื้อหาให้ชัดเจน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ส่งชาวจีนกลับบ้าน

เสร็จสิ้นภารกิจส่ง 621 เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับจีน

จบภารกิจส่งชาวจีนเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา รวม 3 วัน 13 เที่ยวบิน ส่งกลับชาวจีน 621 คน ที่เหลือต้องรอการเจรจา 3 ฝ่าย ไทย จีน และเมียนมา กำหนดแนวทางรับตัวอีกครั้ง

ทำบุญครบรอบแตงโมเสียชีวิต

เพื่อนสนิททำบุญครบรอบ 3 ปี “แตงโม” เสียชีวิต

กลุ่มเพื่อนสนิทของ “แตงโม ภัทรธิดา” นักแสดงสาวผู้ล่วงลับ จัดพิธีทำบุญครบรอบ 3 ปี การเสียชีวิตของนางเอกคนดัง ที่วัดปากน้ำ ซ.พิบูลสงคราม 1 อ.เมือง จ.นนทบุรี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง