เร่งหาทางออกปมคอนโดหรู “แอชตัน อโศก”

กทม. 28 ก.ค.-หลังจากเมื่อวานนี้ ศาลปกครองสูงสุดอ่านคำพิพากษาให้ถอนใบแจ้งและใบอนุญาตก่อสร้างคอนโดหรูย่านอโศก เจ้าของโครงการเร่งหาทางออก และมีความเห็นจากหลายฝ่าย

บรรยากาศที่หน้าคอนโดฯ หรู “แอชตัน อโศก” หลังวานนี้ ศาลปกครองสูงสุดสั่งเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างโครงการ เนื่องจากการก่อสร้างผิดเเบบที่ขออนุญาต เเละพื้นที่ทางออกของคอนโดฯ เป็นของ รฟม. ซึ่งคำสั่งศาลดังกล่าวทำให้มีลูกบ้านในคอนโดฯ ร่วม 580 ครอบครัว ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ได้รับผลกระทบ โดยบริเวณทางเข้าหน้าคอนโดฯ มีสื่อมวลจำนวนมากมาติดตามความคืบหน้าของเจ้าของโครงการ เเต่พนักงานรักษาความปลอดภัยเเละนิติบุคคลไม่อนุญาตเข้าไปภายในเขตคอนโดฯ ผู้สื่อข่าวจึงอยู่ตรงบริเวณทางเข้ารถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสุขุมวิท เเละพยายามขอข้อมูลพูดคุยกับผู้อยู่อาศัย เเต่ส่วนใหญ่เลี่ยงที่จะตอบคำถาม หรือให้ความเห็นใดๆ


ด้านนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานติดต่อจากทางบริษัท อนันดาฯ ผู้พัฒนาโครงการ หลังบริษัทแถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่า จะขอให้ รฟม. และ กทม. ร่วมรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น และถึงแม้จะติดต่อมา ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยได้อย่างไร เนื่องจากคำพิพากษาของศาลฯ ไม่ได้หมายรวมถึงการเพิกถอนใบอนุญาตให้ใช้พื้นที่ของ รฟม.เป็นทางผ่านเข้า-ออกโครงการ แต่เป็นการเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ที่ทางผู้พัฒนาโครงการ คือ บริษัท อนันดาฯ จะต้องไปหาทางออกร่วมกับผู้ให้ใบอนุญาต คือ กทม. ซึ่งไม่เกี่ยวกับ รฟม.แต่อย่างใด ใบอนุญาตใช้พื้นที่ผ่านทางของ รฟม.ไม่สามารถนำไปประกอบการขออนุญาตก่อสร้างโครงการได้ เพราะถนนมีความกว้างเพียง 6.40 เมตร และเป็นถนนของ รฟม. ไม่ใช่ถนนสาธารณะ จึงไม่นับเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ

นอกจากนี้ การที่บริษัทอ้างว่ามีการจ่ายเงินให้ รฟม.เป็นค่าใช้พื้นที่เป็นทางผ่านเข้า-ออกโครงการ จำนวน 97 ล้านบาทนั้น ทาง รฟม.ยังไม่ได้รับเงินจำนวนดังกล่าวแต่อย่างใด เนื่องจากโครงการมีปัญหา ส่วนจะรับเงินจำนวนนี้ได้หรือไม่ ต้องดูข้อกฎหมายอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ หากทางบริษัทจะยื่นฟ้องก็เป็นสิทธิที่ทำได้ ซึ่งต้องต่อสู้กันไปตามข้อกฎหมาย โดยทาง รฟม.ยึดถือคำพิพากษาเป็นหลัก 


ส่วนคำพิพากษาของศาลครั้งนี้ จะผูกพันไปถึงอีก 13 โครงการที่มีลักษณะเดียวกันนี้หรือไม่ เบื้องต้นมองว่าคำพิพากษาจะผูกพันเฉพาะคู่ความ แต่ก็เป็นกรณีศึกษาให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต้องนำไปพิจารณาประกอบการตัดสินใจ

ขณะที่นางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ รองผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า การสร้างอาคารผิดกฎหมายเกิดจากรัฐไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ ไม่บังคับใช้กฎหมายตั้งแต่ต้น เมื่อศาลสั่งเพิกถอนใบอนุญาตฯ จึงก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้บริโภค เพราะฉะนั้นผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบคืนเงินพร้อมดอกเบี้ยให้ผู้บริโภคในทุกกรณีก่อน ส่วนผู้ประกอบการจะไปเรียกร้องกับหน่วยงานที่อนุญาตก่อสร้างนั้นเป็นเรื่องคนละส่วนกัน

ส่วนนายเฉลิมพงษ์ กลับดี หัวหน้าศูนย์ทนายความเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า กรณีนี้ถือว่าผู้ประกอบการเป็นฝ่ายผิดสัญญา ผู้บริโภคซื้อห้องแล้วอยู่อาศัยไม่ได้ตลอดไปตามวัตถุประสงค์ ผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อนมีสิทธิยกเลิกสัญญา และขอให้บริษัทคืนเงินทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ย ซึ่งมูลนิธิฯ จะช่วยเหลือในเรื่องการดำเนินคดีกับบริษัทที่เป็นเจ้าของโครงการ ผู้บริโภคสามารถร้องเรียนมาที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ผ่านช่องทางการรับเรื่องร้องเรียนต่างๆ


ขณะที่นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า ตามคำพิพากษาชี้ให้เห็นว่า เจ้าพนักงานท้องถิ่นของ กทม. ซึ่งมีหลายหน่วยงาน ทั้งเขตวัฒนา กองควบคุมอาคาร สำนักการโยธา กทม. สำนักการจราจรและขนส่ง ที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อพื้นที่ที่ใช้เป็นทางเข้า-ออกคอนโดฯ ซึ่งขัดกับกฎหมาย ผู้ที่รับรองการเปิดใช้อาคารและพิจารณาแบบก่อสร้าง ต้องถูกเอาผิดทางวินัยและอาญา รวมถึงความผิดทางแพ่ง จึงเตรียมไปยื่นร้องเรียนต่อนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 4 ส.ค.นี้

สำหรับโครงการแอชตัน อโศก เป็นคอนโดมิเนียมสูง 50 ชั้น ตั้งอยู่ติดถนนสุขุมวิท ซอย 21 (ถนนอโศกมนตรี) เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ใกล้สถานีรถไฟฟ้ามหานคร (MRT) สายสีน้ำเงิน สถานีสุขุมวิท เมื่อวานนี้ ศาลปกครองสูงสุดอ่านคำพิพากษาให้ถอนใบแจ้งและใบอนุญาตก่อสร้างคอนโดมิเนียมแอชตัน อโศก ทั้งหมด หลังโครงการนี้ถูกร้องเรียนว่าได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างถูกต้องหรือไม่ เพราะพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 กำหนดว่าจะต้องมีที่ดินด้านใดด้านหนึ่งติดถนนสาธารณะไม่น้อยกว่า 12 เมตร แต่ที่ดินผืนดังกล่าวไม่มี และการอ้างว่าใช้ที่ดินของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. หรือรถไฟฟ้า MRT เป็นทางเข้าออกแทนนั้น ทำได้หรือไม่

คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดระบุว่าที่ดินของรฟม.จะนำมาให้เอกชนทำโครงการไม่ได้ทำให้หน่วยงานของรัฐซึ่งก็คือกรุงเทพมหานครออกใบอนุญาตก่อสร้างให้ไม่ได้ด้วยโดยการออกใบอนุญาตที่เกิดขึ้นมาแล้วจึงผิดกฎหมาย

ด้านอนันดา เอ็มเอฟ อโศก บริษัทในเครือ อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ที่ดำเนินงานโครงการคอนโดมิเนียมดังกล่าว ได้ออกแถลงการณ์หลังจากมีคำพิพากษาดังกล่าวว่า ก่อนการก่อสร้างมีการตรวจสอบประเด็นทางกฎหมายเกี่ยวกับข้อกำหนดและการขออนุญาตอย่างรัดกุมแล้ว ทั้งยังผ่านการพิจารณาและอนุมัติจากหน่วยงานของรัฐไม่ต่ำกว่า 8 หน่วยงาน จึงยืนยันว่าบริษัทดำเนินโครงการนี้อย่างสุจริต และยังระบุอีกว่า “หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้ต่อเจ้าของร่วมอาคารชุดและบริษัทฯ”

ขณะที่นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า บริษัทต้องการขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐในการเยียวยา และหาทางออกเพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับลูกบ้านที่อยู่อาศัยในโครงการฯ พร้อมมองว่าเหตุการณ์นี้กระทบต่อโครงการอื่นๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อวงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ ที่ขายไปแล้ว 68 ยูนิต และทางออกของโครงการที่ตั้งอยู่บนที่ดินเวนคืนของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย มีการให้ค่าตอบแทนที่ถูกต้องแก่ รฟม.เกือบ 100 ล้านบาท ในส่วนของลูกบ้านที่เป็นเจ้าของร่วมและพักอาศัยในโครงการขณะนี้ หลังจากมีคำพิพากษาจากศาลปกคครองออกมาแล้วก็ยังสามารถพักอาศัยต่อได้ เพราะต้องมีขั้นตอนการรอเอกสารการเพิกถอนก่อสร้างอาคารจากทางราชการออกมา

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้บริษัทต้องมีการตั้งสำรองความเสียหายตามสัดส่วนการถือหุ้นที่บริษัทร่วมลงทุนในโครงการแอชตัน อโศก มีมูลค่าที่จะต้องตั้งสำรองฯเข้ามาในงบการเงินของบริษัทราว 250-300 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันโครงการแอชตัน อโศก ขายไปแล้ว 87% จากมูลค่าโครงการ 6,480 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร