กรุงเทพฯ 17 เม.ย. – “เสี่ยหนู” ไม่ปฏิเสธ อนุทินโพล ได้เลข 3 หลัก มั่นใจแม่นที่สุด – ลั่นไม่เชื่อโพลอื่น – เย้ย “ชูวิทย์” เคลื่อนไหว ทำกระเเสภูมิใจไทยเพิ่มขึ้น
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงผลสำรวจความนิยมของพรรคภูมิใจไทยที่ตกลำดับลงมา ว่า เราก็ดูหลายโพล สำหรับพรรคภูมิใจไทยเราก็ดูโพลหัวหน้าพรรคเป็นหลัก ซึ่งยังมีความมั่นใจ และไม่มีโพลไหน ตรงเท่าโพล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ตนทำเองมาโดยตลอด คำนวนเองตรงเป๊ะที่สุด ตั้งแต่เป็นหัวหน้ามาและผ่านการเลือกตั้งมา 2 ครั้ง ยกตัวอย่างครั้งที่ผ่านมาคาดว่าจะได้ 52 ที่นั่ง แต่ได้มา 51 ที่นั่ง ดังนั้นตนเชื่อตัวเอง
เมื่อถามว่าโพลอนุทิน เป็นเลข 3 หลักใช่หรือไม่ นายอนุทินไม่ตอบคำถาม ก่อนที่จะตอบว่า การนิ่งเงียบ หมายความว่าอย่างไร ไม่ปฏิเสธ พร้อมกับหัวเราะออกมา แต่ตอนนี้เราไม่สามารถที่จะพูดอะไรออกไปได้ เพราะเกรงใจพี่น้องประชาชน เพราะ หากพูดว่าได้เท่าโน้นเท่านี้ เท่ากับไม่เห็นหัวประชาชน
ส่วนที่หลายโพล มีการวิเคราะห์ว่าพรรคภูมิใจไทยจะมาเป็นลำดับที่ 2 นายอนุทินระบุว่าตนไม่เคยพูดคำนั้นจากปาก แต่ตนก็ทำการศึกษา ติดตาม แก้ไข ปรับปรุง และในความที่เป็นหัวหน้าพรรค ก็ต้องดูแล เพราะมีทั้งเป้าหมายหลักและเป้าหมายรอง และดำเนินการแก้ไขอย่างดีที่สุด
นายอนุทินยังกล่าวต่อด้วยว่า หากดูโพลที่ออกมา ตนได้ 3% มันก็ได้ 12 คนแล้ว แล้วพรรคภูมิใจไทยจะมีแค่ 12 คนหรือ หากเป็นแบบนั้นก็ดี ตนจะได้หมดบทบาท ไม่ต้องเป็นหัวหน้าพรรคแล้วหลังการเลือกตั้ง ตนก็ต้องตัดสินใจหยุดทุกอย่างทางการเมือง
เมื่อถามว่า การเคลื่อนไหวของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โจมตีนโยบายของพรรคภูมิใจไทย มีส่วนทำให้กระแสของพรรคตกลงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตั้งแต่มีเรื่องเหล่านี้ขึ้นมา จำนวนความคาดหวัง และความแข็งแรงของผู้สมัครในแต่ละพื้นที่นั้นเพิ่มมากขึ้น ซึ่งก่อนที่จะมีการโจมตี เราคาดว่าจะได้ ส.ส.จำนวนหนึ่ง แต่พอมีเรื่องนี้เกิดขึ้นกลับได้มากขึ้น แต่เราจะพูดว่ามั่นใจเลยไม่ได้ เพราะพี่น้องประชาชนคือคนตัดสิน
เมื่อถามย้ำว่านายชูวิทย์จะเดินสายลงไปในพื้นที่ภาคใต้ ที่ถือเป็นฐานคะแนนของพรรคภูมิใจไทย จะกำชับให้ผู้สมัครทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ต้องกำชับ ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทยมี 400 คน ทุกวันนี้ยังไม่มีใครเดินเข้ามาหา แล้วบอกว่าเขามีปัญหาจากเรื่องพวกนี้ ไม่มีใครพูดถึงเลย
นายอนุทินยังกล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาล โดยย้ำว่ายังเร็วเกินไปที่จะพูดเรื่องนี้ คืนวันที่ 14 พฤษภาคม ค่อยมาตอบคำถามนี้ดีกว่า และอย่าเพิ่งไปคาดการณ์ว่าจะได้เป็นรัฐบาล เป้าหมายแรกของเราคือการสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน ให้ได้ ส.ส. เข้าสภาตามเป้าหมายให้ได้มากที่สุด เพราะการจัดตั้งรัฐบาลอยู่แค่ว่าเราจะวิ่งตามเขา หรือเขาวิ่งตามเรา การเมืองมีแค่นี้เอง .-สำนักข่าวไทย