กทม. 26 ก.พ.-กรมปศุสัตว์ ยกระดับมาตรการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกอย่างเข้มงวด หลังพบประเทศเพื่อนบ้านเสียชีวิต
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา ออกแถลงการณ์ยืนยันการตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก ชนิด A สายพันธุ์ H5N1 โดยผู้ป่วยและเสียชีวิตเป็นเด็กหญิงวัย 11 ปี จำนวน 1 ราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังโรคสัตว์ปีกตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด
นางสาวรัชดา กล่าวว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการหน่วยงานในสังกัดเตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวังและป้องกันโรค ไข้หวัดนก เข้าสู่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยกรมปศุสัตว์ได้ให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เข้าตรวจเยี่ยมเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกอย่างใกล้ชิด พร้อมสุ่มเก็บตัวอย่างสัตว์ปีกในพื้นที่เสี่ยง เช่น พื้นที่ตามแนวชายแดน พื้นที่นกอพยพ พื้นที่นกวางไข่ พื้นที่มีการเลี้ยงสัตว์ปีกหนาแน่น เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังเข้มงวดการเคลื่อนย้ายสัตว์ และซากสัตว์ปีกภายในประเทศ รวมถึงให้ชะลอการนำเข้าสัตว์และซากสัตว์ปีกจากประเทศที่เกิดโรคไข้หวัดนก สำหรับการเลี้ยงสัตว์ปีกในระบบฟาร์ม ได้เข้มงวดความปลอดภัยทางชีวภาพขั้นสูงสุด เช่น การทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในโรงเรือนและบริเวณโดยรอบอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง สัตวแพทย์ควบคุมฟาร์มต้องรักษาระบบความปลอดภัยภายในฟาร์ม ควบคุมการเข้า-ออกฟาร์ม ให้ฉีดพ่นยานพาหนะทุกคัน เป็นต้น
รวมถึงต้องทำความสะอาดและพ่นยาฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ตลอดจนผลักดันระบบการเลี้ยงสัตว์ปีกให้เข้าระบบมาตรฐาน GAP หรือ GFM รวมถึงประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภายในประเทศ อาทิ กระทรวงสาธารณสุข กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตลอดจนหน่วยงานระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
“รัฐบาล บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขอความร่วมมือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกสังเกตอาการสัตว์อย่างใกล้ชิด หากพบสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติ อย่านำสัตว์ปีกไปจำหน่ายจ่ายแจก หรือนำไปประกอบอาหารโดยเด็ดขาด ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอ อาสาปศุสัตว์ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และเจ้าหน้าปศุสัตว์ในพื้นที่ทันทีเพื่อให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ลงพื้นที่ตรวจสอบและดำเนินมาตรการควบคุมโรคทันที” นางสาวรัชดา ย้ำ.-สำนักข่าวไทย