สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 25 ม.ค.-นายกฯ ประชุม ก.ตร. ย้ำผู้บังคับบัญชาดูแลการทำงานผู้ใต้บังคับบัญชาใกล้ชิด ย้ำคนดีต้องให้กำลังใจ คนไม่ดีเอาออกไป บอกสื่อไร้สาระ ถามคดีตู้ห่าวเกี่ยวข้องคนชอบนาฬิกา รู้อยู่แล้วว่าดิสเครดิต
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชตำรวจแห่งชาติ (ก.ตร.) ว่า ที่ประชุมพูดคุยกันหลายเรื่องเพื่อให้สอดรับกับการใช้ พ.ร.บ.ฉบับใหม่ให้ถูกต้อง และพิจารณาเรื่องการอุทธรณ์ลงโทษต่าง ๆ ซึ่งมีสถิติการลงโทษจำนวนมากพอสมควร ในฐานะเป็นประธานก.ตร. สั่งย้ำให้ตำรวจทุกนายประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในกรอบวินัยอันดีงาม ปฏิบัติตามกฏหมาย ให้ความเป็นธรรมกับทุกคน เพราะตำรวจถือกฎหมายอยู่หลายฉบับ ขณะที่ผู้บังคับบัญชาต้องเอาใจใส่ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิดในการทำงาน คนดีต้องให้กำลังใจ คนไม่ดีให้เอาออกไป ซึ่งเป็นกติกาในระเบียบการปกครอง ของทุกหน่วยงานอยู่แล้ว ทหารกับตำรวจมีประมวลวินัย
เมื่อถามถึงความคืบหน้าคดีตู้ห่าว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตำรวจแถลงไปแล้ว ขอให้ฟังตำรวจ คดีนี้มีหลายหน่วยงานที่ทำคดีนี้ ทั้งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) เพราะมีการฟอกเงินต่าง ๆ ขอให้สื่อฟังเวลาที่แถลงรวมทุกหน่วยงานด้วย การทำงานต้องบูรณาการกับภาคส่วน แสดงให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีและรัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องนี้
“แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับเขา ในการต่อสู้คดีเช่นเดียวกับคดีอื่นในทุกคดี การทำคดีต้องรอบคอบ เพื่อให้เวลาทำสำนวนให้อัยการส่งฟ้องจะได้ไม่มีปัญหา ซึ่งกระบวนการยุติธรรมมีขั้นตอน หลายอย่างอาจไม่ทันใจ ต้องเห็นใจ การทำงานต้องมีหลักฐานประกอบ ผมย้ำเตือนว่าใครเกี่ยวข้องต้องถูกลงโทษ ถ้าตรวจสอบแล้วมีความผิดจริง ไม่มีละเว้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนที่โยงว่ามีนักการเมืองเกี่ยวข้อง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า บอกแล้วไง ถ้าสอบแล้วเจอเกี่ยวข้องมีความผิดจริง ทั้งพยานบุคคล พยานวัตถุหรือหลักฐานอื่น ๆ ทั้งหมด ก็ต้องถูกสอบสวน
เมื่อถามย้ำว่ามีคนที่ชอบนาฬิกาเกี่ยวข้องด้วย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไร้สาระ และว่า “ถามคำถามไร้สาระแบบนี้ ธรรมดาที่ผมต้องหงุดหงิดบ้างล่ะ ไร้สาระ คดีนี้ก็คดีนี้ จะไปยึดโยงอะไรกับใคร”
เมื่อถามว่าเป็นการดิสเครดิต นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “คุณรู้อยู่แล้วว่า เป็นการดิสเครดิตทางการเมือง แล้วคุณจะพูดทำไม การเมืองก็เรื่องของการเมือง”.-สำนักข่าวไทย