ประจวบคีรีขันธ์ 23 ธ.ค. – โฆษกกองทัพเรือ ยืนยันพบร่างกำลังพลเพิ่มอีก 1 นาย ใกล้จุดเรือหลวงสุโขทัยอับปาง เรือหลวงบางระจันนำขึ้นฝั่งบางสะพานเรียบร้อยแล้ว ก่อนส่งพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ส่วน “พลทหารชนัญญู” วันนี้ย้ายไปรักษาตัวต่อที่สัตหีบ ขณะการค้นหากำลังพลที่สูญหายยังปฏิบัติการ 24 ชม.
โฆษกกองทัพเรือ ยืนยันพบร่างกำลังพลเพิ่มอีก 1 นาย ใกล้กับจุดเรือหลวงสุโขทัยอับปาง เรือหลวงบางระจันนำขึ้นฝั่งบางสะพานเรียบร้อยแล้ว ก่อนส่งพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ทำให้ขณะนี้เหลือผู้สูญหายอีก 22 นาย โดยพบแล้ว 83 นาย เสียชีวิต 7 นาย ขณะที่ครอบครัวผู้สูญหายต่างมาเฝ้ารอ บางคนภาวนาขอให้ไม่ใช่คนในครอบครัวของตัวเอง
ส่วนช่วงบ่ายที่ผ่านมา พลทหารชนัญญู แก่นศรียา ผู้รอดชีวิตจากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ที่ได้รับการช่วยเหลือและส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลบางสะพาน เช้าวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา วันนี้สภาพร่างกายแข็งแรงมากขึ้นแล้ว แพทย์จึงอนุญาตให้ย้ายไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยเครื่องบินลำเลียงของกองทัพเรือ จากกองบิน 5 อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์
ส่วนความคืบหน้าการค้นหากำลังพลที่สูญหาย 23 นาย กองทัพเรือและหน่วยงานต่างๆ ยังคงระดมค้นหา 24 ชั่วโมง พล.ร.ต.รังสรรค์ บัวเผือก รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 เปิดเผยว่าแม้จะเพิ่มความเข้มข้นในการค้นหาทั้งทางอากาศ บนผิวน้ำ ใต้น้ำ รวมถึงภาคพื้นดิน แต่ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าจะพบผู้สูญหาย
อย่างไรก็ตาม การพบวัตถุ สิ่งของต่างๆ จากเรือหลวงสุโขทัย ระหว่างช่วงการค้นหาตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค. จนถึงวันนี้ (23 ธ.ค.) ไม่ว่าจะเป็นชูชีพ หรือแพชูชีพ ย่อมแสดงว่าการค้นหามาถูกทางแล้ว โดยพบแพชูชีพทั้งหมด 4 แพ ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นแพของเรือหลวงสุโขทัย 3 แพ ส่วนอีก 1 แพ คาดว่าเป็นของเรือสินค้า เพราะมีสภาพเก่า และยังพบสิ่งของอื่นๆ อีก รวมถึงชูชีพจำนวนหนึ่ง
โดยหนึ่งในนั้นเป็นของ จ.อ.จักร์พงค์ พูลผล 1 ใน 6 กำลังพลที่เสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำร่างขึ้นฝั่งบางสะพานเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่พบใกล้กับเกาะแห่งหนึ่งในช่วงตอนล่างของ จ.ชุมพร ค่อนไปทางตอนบนของ จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่เตรียมส่งมอบคืนให้กับครอบครัวของ จ.อ.จักร์พงค์ ต่อไป
ส่วนการค้นหาผู้สูญหายซึ่งอาจจะติดค้างภายในเรือหลวงสุโขทัย รวมถึงแผนกู้เรือขึ้นจากก้นทะเล เพื่อหาสาเหตุการจม ยังไม่สามารถทำได้
แม้ว่ายานสำรวจใต้น้ำ sea fox ของเรือหลวงบางระจัน จะสามารถสแกนเป้าจำลองเป็นภาพ 3 มิติ ทำให้เห็นสภาพตัวเรือที่จมอยู่ใต้น้ำในลักษณะปกติ คล้ายกำลังจอดนิ่งอยู่ ไม่มีองศาการเอียง แต่เนื่องจากมีเพียงกระดูกงูเรือเท่านั้นที่ตั้งอยู่กับพื้น ท้องเรือทั้ง 2 ข้างไม่ติดพื้น นักประดาน้ำจึงยังไม่สามารถเข้าใกล้เรือได้ เพราะเกรงว่าเรือจะล้มทับ เนื่องจากเรือมีความยาวมากถึง 77 เมตร และความสูงทั้งหมดของเรือกว่า 60 เมตร ประกอบกับบริเวณดังกล่าวกระแสน้ำแรงและขุ่น ระยะการมองเห็นเพียง 2 ฟุตเท่านั้น
เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ปิด “ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ซึ่งตั้งอยู่ที่มูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถาน อ.บางสะพาน เนื่องจากเห็นว่าเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปางผ่านมาหลายวัน กรณีเลวร้ายที่สุดผู้สูญหายอาจจะเสียชีวิต ศพน่าจะเปลี่ยนแปลงสภาพไปมากแล้วจนไม่สามารถตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือได้ ประกอบกับกระแสน้ำอาจพัดร่างผู้สูญหายออกไปไกล จึงได้อำนวยความสะดวกให้กับครอบครัวผู้สูญหายที่ยังไม่ได้เข้ามาเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ดำเนินการเก็บดีเอ็นเอครอบครัวผู้สูญหายได้แล้ว 17 ราย ยังเหลืออีก 6 รายที่ยังไม่ได้เข้าเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ ประกอบด้วย 1.พลทหาร วรพงษ์ บุญละคร สอ.รฝ.
2.จ.ท.ธวัชชัย สาพิราช นย.
3.จ.อ.ชูชัย เชิดชิด ร.ล.สุโขทัย
4.จ.ต.นพณัฐ คำวงศ์ ร.ล.สุโขทัย
5.พลฯ ปรีชา วงษาภักดี ร.ล.สุโขทัย
6.พลฯ ชลัช อ้อยทอง ร.ล.สุโขทัย
หลังจากนี้ครอบครัว 6 ผู้สูญหาย สามารถเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.บางสะพาน เพื่อลงแจ้งความคนหายและให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.บางสะพาน จากนั้นพนักงานสอบสวนจะส่งตัวไปที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ
ส่วนครอบครัวผู้สูญหายที่อยู่ต่างพื้นที่ ไม่สามารถเดินทางมาที่ อ.บางสะพาน สามารถเข้าเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอในภูมิลำเนาได้เช่นกัน โดยให้ประสานกองทัพเรือ เพื่อพาเข้าแจ้งความคนหายกับพนักงานสอบสวนในภูมิลำเนา เพื่อให้พนักงานสอบสวนส่งตัวไปเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัด ก่อนจะส่งต่อไปยังกลุ่มงานพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เมื่อพบผู้เสียชีวิตที่สงสัยว่าอาจจะเป็น 1 ใน 23 ผู้สูญหายจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัย ในพื้นที่ใดก็ตาม พนักงานสอบสวนท้องที่สามารถร่วมกับแพทย์ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น ก่อนส่งร่างผู้เสียชีวิตไปยังนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อตรวจดีเอ็นเอ ก่อนรวบรวมข้อมูลส่งให้กับคณะกรรมการปล่อยศพ เพื่อทำการเปรียบเทียบยืนยันตัวบุคคล เมื่อยืนยันตัวบุคคลได้จะแจ้งไปยังกองทัพเรือ เพื่อพาญาติมารับศพ แต่หากตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นผู้สูญหายที่มีครอบครัวมารออยู่ที่ศูนย์ประสานความช่วยเหลือแห่งนี้ จำนวน 12 ครอบครัว ก็จะต้องส่งศพมาที่บางสะพาน.-สำนักข่าวไทย