เชียงใหม่ 28 พ.ย. – ศิลปากรฯ เชียงใหม่ รุดตรวจสอบเจดีย์เก่าแก่ หลังดราม่าหนักจุดพลุยิ่งกว่าแสดงหนัง ชาวบ้านตกใจหวั่นทำเจดีย์โบราณล้านนาพัง
โลกโซเชียลแห่แชร์คลิปจากเฟซบุ๊กของ “พระสมพร ฐิตตฺโสภโณ (วิชามล)” พระลูกวัดเจดีย์เหลี่ยม ตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ในคลิปเป็นภาพจุดพลุอย่างยิ่งใหญ่ อลังการณ์ยิ่งกว่าการแสดงหนัง โดยพลุถูกจุดตั้งแต่บริเวณชั้นล่างขององค์พระธาตุเจดีย์เหลี่ยม จนถึงยอดพระธาตุ ซึ่งองค์พระธาตุแห่งนี้อยู่ในเขตโบราณสถานเวียงกุมกาม และมีอายุเก่าแก่ก่อนสร้างเมืองเชียงใหม่ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทั้งเคารพ กราบไหว้บูชา และกระแสดราม่า ที่เกรงว่าจะเกิดผลกระทบกับองค์พระธาตุเก่าแก่แห่งนี้
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดเจดีย์เหลี่ยมเข้าพบพระครูสังฆพิชัย เจ้าอาวาส ให้ข้อมูลว่าวันที่ 9 พฤศจิกายน เป็นวันจัดงานประเพณียี่เป็งเชียง ทางวัดได้จัดถวายพุทธบูชาด้วยการจุดถางประทีป 9,999 ดวง มีคณะศรัทธาประชาชนจากใกล้เคียงและต่างจังหวัดเดินทางมาร่วมงานจุดถางประทีปรอบองค์เจดีย์ ส่วนเรื่องการจุดพลุนั้น เป็นความคิดของคณะกรรมการวัดและคณะศรัทธาที่ไปจ้างช่างทำพลุมาจัดทำกันเอง เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา กระทั่งมีคลิปปรากฏออกไป
นายเทอดศักดิ์ เย็นจุระ ผู้อำนวยการกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ เดินทางมาตรวจสอบและเข้าพบเจ้าอาวาสวัด โดยระบุว่าจากการตรวจสอบโดยรอบพบว่าเป็นพลุหรือภาคเหนือเรียกว่า “บอกไฟดอก” เป็นพลุที่ถูกนำมาห้อยโยงกัน เมื่อมีการจุดจะไปตามสายชนวนและจุดตามแต่ละชั้นที่วางไว้ มองจากคลิปที่ปรากฏพบว่าใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที ก็ดับหมดแล้ว
ส่วนพลุที่มีขนาดใหญ่ด้านบน พบว่าเป็นการจุดที่ด้านนอกองค์เจดีย์ เพียงแต่มุมกล้องที่ถ่ายทำให้เหมือนภาพซ้อนว่าจุดจากองค์เจดีย์ ซึ่งผลจากการตรวจไม่พบร่องรอยความเสียหายของตัวองค์พระธาตุเจดีย์ และพลุที่จุดก็ไม่ได้ติดตั้งแบบถาวร แต่เป็นการนำไปห้อยไว้ตามจุดต่างๆ ของตัวองค์พระธาตุเจดีย์ และเศษชิ้นส่วนที่พบเห็นเหมือนว่าแตกจากองค์เจดีย์ออกมา ตรวจสอบแล้วพบเป็นเศษชิ้นส่วนเก่าที่เคยหลุดลอกออกมาก่อนหน้านี้แล้ว เพราะตัวองค์พระธาตุเคยบูรณะมาก่อน ยังมีเศษตกหล่นอยู่บริเวณโดยรอบอยู่บ้าง
สำหรับวัดเจดีย์เหลี่ยม หรือ วัดกู่คำ เป็นวัดที่สร้างก่อนสร้างเมืองเชียงใหม่ โดยตรวจพบข้อมูลว่าสร้างเมื่อ พ.ศ. 1831 โดยพญามังราย ซึ่งโปรดให้นำดินที่ขุดได้จากหนองใกล้กับคุ้มของพระองค์ในเวียงกุมกามมาทำอิฐเพื่อก่อกู่คำ .-สำนักข่าวไทย