ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 19 พ.ย.-นายกฯ แถลงความสำเร็จการเป็นเจ้าภาพเอเปค 2022 ของไทยด้วยความภูมิใจ ประกาศแนวคิดเศรษฐกิจ BCG บรรลุผล ทุกฝ่ายพร้อมร่วมกันขับเคลื่อน เดินหน้า 3 ข้อ “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล”
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค แถลงความสำเร็จของการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก(เอเปค 2022) ระหว่างวันที่ 14-19 พฤศจิกายน 2565 โดยนายกรัฐมนตรี แสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออกทรงรับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค พร้อมคู่สมรสและแขกพิเศษ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ค่ำวานนี้ (18 พ.ย.) นำมาซึ่งความปลาบปลื้มปีติแก่คณะผู้เข้าร่วมประชุมและคนไทยทุกคน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 จบลงแล้วด้วยความสำเร็จอย่างงดงาม ถือเป็นความสำเร็จร่วมกันของสมาชิกเอเปคทั้งหมด เอเปคต้องยืนหยัดทำงานเพื่อสร้างการเจริญเติบโตและอนาคตของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก สัปดาห์ที่ผ่านมาไทยได้ต้อนรับคณะผู้นำ ผู้เข้าร่วมประชุมและสื่อต่างชาติ รวมกว่า 5,000 คน ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคได้ประชุมแบบพบหน้า
“การประชุมนี้ นอกจากจะเป็นเวทีให้การหารือระหว่างผู้นำ ยังได้แลกเปลี่ยนความเห็นกับแขกพิเศษ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และมกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย ผู้นำได้พูดคุยกับภาคเอกชน ในการหารือกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค และนายกฯ ยังได้รับฟังมุมมองของกลุ่มผู้แทนเยาวชนเอเปคจาก APEC Voices of the Future 2022 นอกจากนี้ที่ประชุมได้หยิบยกสถานการณ์การคุกคามด้านนิวเคลียร์ ไทยในฐานะเจ้าภาพเอเปคเข้าใจและมีความห่วงกังวลต่อผลกระทบ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ และพร้อมร่วมมือกับหุ้นส่วนต่าง ๆ เพื่อหาทางแก้ไขประเด็นปัญหาอย่างใกล้ชิดต่อไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมเอเปคได้รับรองปฏิญญาผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ค.ศ. 2022 ซึ่งการทำงานของเอเปค 2022 ตลอดทั้งปีที่มีแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพเศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว หรือแนวคิดเศรษฐกิจ BCG เป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อน ภายใต้หัวข้อหลัก “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” ซึ่งมีผลลัพธ์ดังนี้ 1. “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์” เอเปคได้เดินหน้าสานต่อการหารือเรื่องเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก FTAAP ผลงานที่เป็นรูปธรรม คือ จัดทำแผนงานต่อเนื่องเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของสมาชิก และเตรียมความพร้อมในการรับมือกับประเด็นการค้าการลงทุนใหม่ ๆ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า 2. “เชื่อมโยงกัน” เอเปคได้ฟื้นฟูการเดินทางข้ามแดนระหว่างกันอย่างปลอดภัย และไร้รอยต่อ เพื่อสร้างความพร้อมรับมือวิกฤติใหม่ในอนาคต 3. “สู่สมดุล” ผู้นำเอเปคทุกคนได้ร่วมกันรับรอง “เป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจบีซีจี” วางรากฐานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกอย่างครอบคลุม ยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ ซึ่งโอกาสนี้ เอเปคได้ร่วมเปิดตัวเว็บไซต์ bangkokgoals.apec.org อีกด้วย
“การเป็นเจ้าภาพเอเปคปี 2565 ของไทยได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ผมได้ส่งมอบหน้าที่นี้แก่สหรัฐอเมริกาที่จะเป็นเจ้าภาพเอเปคในปี 2566 เชื่อมั่นว่าสหรัฐ จะสานต่อการส่งเสริม การเติบโตอย่างครอบคลุมและยั่งยืนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย