นายกฯ เปิดโครงการ “SML” สานต่อสมัย “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์”

อิมแพ็ค 21 เม.ย.-นายกฯ เปิดโครงการ “SML ส่งตรงโอกาสถึงชุมชน โดยชุมชน เพื่อชุมชน” สานต่อสมัย “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” สร้างชุมชนเข้มแข็ง โปรยยาหอมทำดีมีเพิ่ม

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานและมอบนโยบาย โครงการ SML “ส่งตรงโอกาสถึงชุมชน โดยชุมชน เพื่อชุมชน” ภายใต้โครงการสนับสนุน เสริมสร้าง ศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอย่างมั่นคง โดยคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.) มีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง คณะกรรมการ กทบ. ตัวแทนสมาชิก กทบ.และประชาชน ที่พร้อมใจสวมเสื้อแดงสกรีนโลโก้ กทบ.ร่วมงาน


ภายในงานจัดบอร์ดแสดงวัตถุประสงค์และที่มาของโครงการ “SML ส่งตรงโอกาสถึงชุมชน” เริ่มตั้งแต่ปี 2547 ที่มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ริเริ่มโครงการภายใต้แนวคิด ร่วมคิด ร่วมทำ เพื่อประชาชน ฃโดยประชาชน ต่อมาปี 2555 สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี ดำเนินการสานต่อโครงการ จนมาถึงปี 2568 ในรัฐบาล น.ส.แพทอง ชินวัตร เป็นผู้เดินหน้าต่อยอดโครงการให้ต่อเนื่อง พร้อมตั้ง
สแตนดี้ 3 นายกฯ ให้ผู้สนใจได้ถ่ายรูป พร้อมจัดบูธแสดงผลิตภัณฑ์ของหมู่บ้านที่ได้รับจัดสรรงบ SML ตามขนาดหมู่บ้านวางจำหน่าย ทั้งนี้เมื่อนายกฯ มาถึง ได้ทักทายกับประชาชนและถ่ายรูปเซลฟี่เป็นที่ระลึก

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้เป็นอีกวันสำคัญ ที่เราได้มาร่วมกันยืนยันว่าประเทศไทยของเราจะก้าวไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็ง เพราะถ้าชุมชนเข้มแข็ง เราก็จะเข้มแข็งไปด้วยทั้งประเทศ การทำให้ประชาชน ชุมชนต่างๆ เข้มแข็งมากขึ้นทำได้โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนมีสิทธิ์ในการตัดสินใจร่วมกันเพื่อชุมชนของตัวเอง นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด รัฐบาลตั้งใจกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นเราจะให้โอกาสประชาชน


อย่างไรในเมื่อประเทศไทยมีหลายจังหวัด หลายชุมชนหลายหมู่บ้าน ดังนั้นประชาชนในที่ต่างๆ รู้ปัญหาของตัวเองดีที่สุดและต้องเป็นผู้นำเสนอ ส่วนรัฐบาลเป็นผู้สนับสนุน ถ้าประชาชนแต่ละชุมชนมีโอกาสร่วมกันตัดสินใจเป็นประชาคมคือทางออกแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด และเป็นสิ่งที่เราอยากเห็น จึงอยากให้ประชาชนมารวมตัวกันช่วยกันคิดว่าอะไรจะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อชุมชนของตัวเอง โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนให้ทุกชุมชนเข้มแข็งก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน

กองทุนหมู่บ้านเป็นโครงการที่เริ่มต้นปี 2544 นำโดยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ปีนี้ปีที่ 24 ได้เห็นบทบาทของกองทุนช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากฐานราก สร้างโอกาสและอาชีพเพิ่มให้กับประชาชน แก้ปัญหาหลักของประชาชนทั่วไปได้ ปัจจุบันมีกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองกว่า 79,610 แห่ง มีสมาชิกกว่า 13 ล้านคน มีเงินทุนหมุนเวียนรวมกว่า 3 แสนล้านบาท และเรามีโครงการสนับสนุนและเสริมสร้างกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอย่างมั่นคง หรือโครงการ SML ที่เรารู้จักกันโครงการนี้จะถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งด้วยเสียงเรียกร้องจากประชาชน ว่าสามารถตอบโจทย์แก้ไขปัญหาชุมชนได้จริง และหัวใจของโครงการนี้ไม่ใช่ต้องแจกตังให้ชุมชน แต่เรามองเห็นโครงการเล็กๆที่มีผลต่อประชาชนจริง โดยเริ่มจากการดูจำนวนพี่น้องประชาชนในแต่ละหมู่บ้าน เพื่อกำหนดงบประมาณในการช่วยเหลือ เช่น 200,000 บาท และ 400,000 บาท เงินเหล่านี้ไปตกลงกันเองในหมู่บ้าน รวมตัวกันทำประชาคมว่าจะทำอะไร เช่น ทำกล้องซีซีทีวีติดในหมู่บ้าน หรือเลือกว่าอะไรดีที่สุดสำหรับชุมชนของเรา

“มั่นใจว่าทุกท่านรู้ปัญหาหมู่บ้าน และชุมชนว่าคืออะไร และปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับลูกหลานในอนาคตคืออะไร ถ้าแต่ละชุมชนสามารถทำตรงนี้ได้ ตอบโจทย์และช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ ทำดีมีเพิ่มจะมีอยู่จริง ไม่ได้แค่พูดขึ้นมาเฉยๆและหวังว่าจะมีโอกาสให้ชุมชนเล็กๆได้ช่วยกันผลักดันเศรษฐกิจในจุดเล็กๆ เพิ่มเป็นจุดที่ใหญ่ขึ้น จนถึงระดับประเทศ หวังว่าทุกชุมชนจะสามารถหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชุมชนของตัวเองได้อย่างดีและมั่นคงต่อไป” นางสาวแพทองธาร กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมจะส่งตรงโอกาสถึงชุมชน โดยชุมชน เพื่อชุมชน และนี่คือจุดเริ่มต้นอีกครั้งที่จะทำให้ชุมชนแต่ละที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น และไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ต้องขอบคุณทีมงานที่ทำโครงการดีๆ ร่วมกัน มาตั้งแต่ระยะเริ่มจนวันนี้ได้กลับมาทำอีกครั้ง ขอให้กำลังใจพร้อมกับให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลจะเป็นผู้สนับสนุนที่ดีให้กับประชาชนทุกคน เพื่อที่จะมีฐานะความเป็นอยู่ดี มีอาชีพและสามารถดูแลครอบครัวของตัวเองได้ดียิ่งขึ้นต่อไปอย่างมั่นคง

นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนากยรัฐมนตรี กล่าวรายงานความเป็นมาของการดำเนินโครงการว่า “การดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน ชุมชน หรือ SML ริเริ่มขึ้น เมื่อปี พ.ศ 2547 นโยบายของโครงการเกิดจากพรรคไทยรักไทยและพบว่าสิ่งที่ประชาชนต้องการ คือ งบประมาณ ในการแก้ไขปัญหาของหมู่บ้าน/ชุมชน จึงได้ริเริ่ม โครงการเพื่อต้องการให้มีการจัดสรรงบประมาณโดยตรง จะได้นำไปแก้ไขปัญหาส่วนรวม เพื่อการดำรงชีวิตประจำวันโดยประชาชนเป็นผู้บริหารจัดการเอง ถือเป็นอีกขั้นหนึ่งของการพัฒนาประชาธิปไตย สำหรับปี 2568 รัฐบาลได้เดินหน้าโครงการ ซึ่งเป็นการกระจายเม็ดเงินจากส่วนกลางลงสู่หมู่บ้าน/ชุมชนโดยตรง ให้ประชาชนเป็นคนบริหารจัดการเงิน ช่วยกันคิดโครงการ ให้ตอบโจทย์ในการแก้ไขปัญหาให้กับชุมชน

นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความเป็นมาของการดำเนินโครงการว่า “การดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน หรือ SML ริเริ่มขึ้น เมื่อปี พ.ศ 2547 ภายใต้การนำของนายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น โดยจุดเริ่มต้นโครงการเกิดจากการเดินทางไปตรวจราชการทั่วประเทศ และพบว่าสิ่งที่ประชาชนต้องการ คือ งบประมาณ ในการแก้ไขปัญหาของหมู่บ้าน ชุมชน จึงได้ริเริ่ม โครงการโดยมีวัตถุประสงค์สำคัญ คือ ต้องการให้มีการจัดสรรงบประมาณโดยตรง จะได้นำไปแก้ไขปัญหาส่วนรวม เพื่อการดำรงชีวิตประจำวัน โดยประชาชนเป็นผู้บริหารจัดการเอง ถือเป็นอีกขั้นหนึ่งของการพัฒนาประชาธิปไตย

ต่อมา ปี 2555 รัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น ได้สานต่อโครงการ SML อีกครั้ง ภายใต้แนวคิดเดิม สำหรับปี 2568 รัฐบาลได้เดินหน้าโครงการ ซึ่งเป็นการกระจายเม็ดเงินจากส่วนกลางลงสู่หมู่บ้าน ชุมชนโดยตรง ให้พี่น้องประชาชนเป็นคนบริหารจัดการเงิน ช่วยกันคิดโครงการ ให้ตอบโจทย์ในการแก้ไขปัญหาให้กับชุมชน

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ได้รับมอบหมายให้ดำเนินโครงการ วงเงินงบประมาณ 11,392,200,000 บาท เพื่อจัดสรรงบประมาณให้กับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ตามขนาดประชากรของกองทุนหมู่บ้าน ชุมชนเมือง เพื่อให้การขับเคลื่อนโครงการสนับสนุน เสริมสร้างศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอย่างมั่นคง บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เล็งเห็นว่าคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และภาคีพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของโครงการให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ จึงได้จัดงานส่งตรงโอกาสถึงชุมชน โดยชุมชน เพื่อชุมชน ภายใต้โครงการสนับสนุน เสริมสร้างศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอย่างมั่นคง เพื่อสร้างการรับรู้การดำเนินงานโครงการสนับสนุน เสริมสร้าง ศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอย่างมั่นคงขึ้นในวันนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างการรับรู้การดำเนินโครงการให้คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และภาคีพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง มีความรู้ ความเข้าใจ ทั้งระเบียบวิธีปฏิบัติ และเพื่อเตรียมความพร้อมการดำเนินงานโครงการสนับสนุน เสริมสร้าง ศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอย่างมั่นคง ของคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย