นายกฯ เปิดโครงการ “SML” สานต่อสมัย “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์”

อิมแพ็ค 21 เม.ย.-นายกฯ เปิดโครงการ “SML ส่งตรงโอกาสถึงชุมชน โดยชุมชน เพื่อชุมชน” สานต่อสมัย “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” สร้างชุมชนเข้มแข็ง โปรยยาหอมทำดีมีเพิ่ม

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานและมอบนโยบาย โครงการ SML “ส่งตรงโอกาสถึงชุมชน โดยชุมชน เพื่อชุมชน” ภายใต้โครงการสนับสนุน เสริมสร้าง ศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอย่างมั่นคง โดยคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.) มีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง คณะกรรมการ กทบ. ตัวแทนสมาชิก กทบ.และประชาชน ที่พร้อมใจสวมเสื้อแดงสกรีนโลโก้ กทบ.ร่วมงาน


ภายในงานจัดบอร์ดแสดงวัตถุประสงค์และที่มาของโครงการ “SML ส่งตรงโอกาสถึงชุมชน” เริ่มตั้งแต่ปี 2547 ที่มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ริเริ่มโครงการภายใต้แนวคิด ร่วมคิด ร่วมทำ เพื่อประชาชน ฃโดยประชาชน ต่อมาปี 2555 สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี ดำเนินการสานต่อโครงการ จนมาถึงปี 2568 ในรัฐบาล น.ส.แพทอง ชินวัตร เป็นผู้เดินหน้าต่อยอดโครงการให้ต่อเนื่อง พร้อมตั้ง
สแตนดี้ 3 นายกฯ ให้ผู้สนใจได้ถ่ายรูป พร้อมจัดบูธแสดงผลิตภัณฑ์ของหมู่บ้านที่ได้รับจัดสรรงบ SML ตามขนาดหมู่บ้านวางจำหน่าย ทั้งนี้เมื่อนายกฯ มาถึง ได้ทักทายกับประชาชนและถ่ายรูปเซลฟี่เป็นที่ระลึก

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้เป็นอีกวันสำคัญ ที่เราได้มาร่วมกันยืนยันว่าประเทศไทยของเราจะก้าวไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็ง เพราะถ้าชุมชนเข้มแข็ง เราก็จะเข้มแข็งไปด้วยทั้งประเทศ การทำให้ประชาชน ชุมชนต่างๆ เข้มแข็งมากขึ้นทำได้โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนมีสิทธิ์ในการตัดสินใจร่วมกันเพื่อชุมชนของตัวเอง นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด รัฐบาลตั้งใจกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นเราจะให้โอกาสประชาชน


อย่างไรในเมื่อประเทศไทยมีหลายจังหวัด หลายชุมชนหลายหมู่บ้าน ดังนั้นประชาชนในที่ต่างๆ รู้ปัญหาของตัวเองดีที่สุดและต้องเป็นผู้นำเสนอ ส่วนรัฐบาลเป็นผู้สนับสนุน ถ้าประชาชนแต่ละชุมชนมีโอกาสร่วมกันตัดสินใจเป็นประชาคมคือทางออกแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด และเป็นสิ่งที่เราอยากเห็น จึงอยากให้ประชาชนมารวมตัวกันช่วยกันคิดว่าอะไรจะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อชุมชนของตัวเอง โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนให้ทุกชุมชนเข้มแข็งก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน

กองทุนหมู่บ้านเป็นโครงการที่เริ่มต้นปี 2544 นำโดยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ปีนี้ปีที่ 24 ได้เห็นบทบาทของกองทุนช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากฐานราก สร้างโอกาสและอาชีพเพิ่มให้กับประชาชน แก้ปัญหาหลักของประชาชนทั่วไปได้ ปัจจุบันมีกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองกว่า 79,610 แห่ง มีสมาชิกกว่า 13 ล้านคน มีเงินทุนหมุนเวียนรวมกว่า 3 แสนล้านบาท และเรามีโครงการสนับสนุนและเสริมสร้างกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอย่างมั่นคง หรือโครงการ SML ที่เรารู้จักกันโครงการนี้จะถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งด้วยเสียงเรียกร้องจากประชาชน ว่าสามารถตอบโจทย์แก้ไขปัญหาชุมชนได้จริง และหัวใจของโครงการนี้ไม่ใช่ต้องแจกตังให้ชุมชน แต่เรามองเห็นโครงการเล็กๆที่มีผลต่อประชาชนจริง โดยเริ่มจากการดูจำนวนพี่น้องประชาชนในแต่ละหมู่บ้าน เพื่อกำหนดงบประมาณในการช่วยเหลือ เช่น 200,000 บาท และ 400,000 บาท เงินเหล่านี้ไปตกลงกันเองในหมู่บ้าน รวมตัวกันทำประชาคมว่าจะทำอะไร เช่น ทำกล้องซีซีทีวีติดในหมู่บ้าน หรือเลือกว่าอะไรดีที่สุดสำหรับชุมชนของเรา

“มั่นใจว่าทุกท่านรู้ปัญหาหมู่บ้าน และชุมชนว่าคืออะไร และปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับลูกหลานในอนาคตคืออะไร ถ้าแต่ละชุมชนสามารถทำตรงนี้ได้ ตอบโจทย์และช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ ทำดีมีเพิ่มจะมีอยู่จริง ไม่ได้แค่พูดขึ้นมาเฉยๆและหวังว่าจะมีโอกาสให้ชุมชนเล็กๆได้ช่วยกันผลักดันเศรษฐกิจในจุดเล็กๆ เพิ่มเป็นจุดที่ใหญ่ขึ้น จนถึงระดับประเทศ หวังว่าทุกชุมชนจะสามารถหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชุมชนของตัวเองได้อย่างดีและมั่นคงต่อไป” นางสาวแพทองธาร กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมจะส่งตรงโอกาสถึงชุมชน โดยชุมชน เพื่อชุมชน และนี่คือจุดเริ่มต้นอีกครั้งที่จะทำให้ชุมชนแต่ละที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น และไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ต้องขอบคุณทีมงานที่ทำโครงการดีๆ ร่วมกัน มาตั้งแต่ระยะเริ่มจนวันนี้ได้กลับมาทำอีกครั้ง ขอให้กำลังใจพร้อมกับให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลจะเป็นผู้สนับสนุนที่ดีให้กับประชาชนทุกคน เพื่อที่จะมีฐานะความเป็นอยู่ดี มีอาชีพและสามารถดูแลครอบครัวของตัวเองได้ดียิ่งขึ้นต่อไปอย่างมั่นคง

นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนากยรัฐมนตรี กล่าวรายงานความเป็นมาของการดำเนินโครงการว่า “การดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน ชุมชน หรือ SML ริเริ่มขึ้น เมื่อปี พ.ศ 2547 นโยบายของโครงการเกิดจากพรรคไทยรักไทยและพบว่าสิ่งที่ประชาชนต้องการ คือ งบประมาณ ในการแก้ไขปัญหาของหมู่บ้าน/ชุมชน จึงได้ริเริ่ม โครงการเพื่อต้องการให้มีการจัดสรรงบประมาณโดยตรง จะได้นำไปแก้ไขปัญหาส่วนรวม เพื่อการดำรงชีวิตประจำวันโดยประชาชนเป็นผู้บริหารจัดการเอง ถือเป็นอีกขั้นหนึ่งของการพัฒนาประชาธิปไตย สำหรับปี 2568 รัฐบาลได้เดินหน้าโครงการ ซึ่งเป็นการกระจายเม็ดเงินจากส่วนกลางลงสู่หมู่บ้าน/ชุมชนโดยตรง ให้ประชาชนเป็นคนบริหารจัดการเงิน ช่วยกันคิดโครงการ ให้ตอบโจทย์ในการแก้ไขปัญหาให้กับชุมชน

นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความเป็นมาของการดำเนินโครงการว่า “การดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน หรือ SML ริเริ่มขึ้น เมื่อปี พ.ศ 2547 ภายใต้การนำของนายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น โดยจุดเริ่มต้นโครงการเกิดจากการเดินทางไปตรวจราชการทั่วประเทศ และพบว่าสิ่งที่ประชาชนต้องการ คือ งบประมาณ ในการแก้ไขปัญหาของหมู่บ้าน ชุมชน จึงได้ริเริ่ม โครงการโดยมีวัตถุประสงค์สำคัญ คือ ต้องการให้มีการจัดสรรงบประมาณโดยตรง จะได้นำไปแก้ไขปัญหาส่วนรวม เพื่อการดำรงชีวิตประจำวัน โดยประชาชนเป็นผู้บริหารจัดการเอง ถือเป็นอีกขั้นหนึ่งของการพัฒนาประชาธิปไตย

ต่อมา ปี 2555 รัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น ได้สานต่อโครงการ SML อีกครั้ง ภายใต้แนวคิดเดิม สำหรับปี 2568 รัฐบาลได้เดินหน้าโครงการ ซึ่งเป็นการกระจายเม็ดเงินจากส่วนกลางลงสู่หมู่บ้าน ชุมชนโดยตรง ให้พี่น้องประชาชนเป็นคนบริหารจัดการเงิน ช่วยกันคิดโครงการ ให้ตอบโจทย์ในการแก้ไขปัญหาให้กับชุมชน

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ได้รับมอบหมายให้ดำเนินโครงการ วงเงินงบประมาณ 11,392,200,000 บาท เพื่อจัดสรรงบประมาณให้กับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ตามขนาดประชากรของกองทุนหมู่บ้าน ชุมชนเมือง เพื่อให้การขับเคลื่อนโครงการสนับสนุน เสริมสร้างศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอย่างมั่นคง บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เล็งเห็นว่าคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และภาคีพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของโครงการให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ จึงได้จัดงานส่งตรงโอกาสถึงชุมชน โดยชุมชน เพื่อชุมชน ภายใต้โครงการสนับสนุน เสริมสร้างศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอย่างมั่นคง เพื่อสร้างการรับรู้การดำเนินงานโครงการสนับสนุน เสริมสร้าง ศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอย่างมั่นคงขึ้นในวันนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างการรับรู้การดำเนินโครงการให้คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และภาคีพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง มีความรู้ ความเข้าใจ ทั้งระเบียบวิธีปฏิบัติ และเพื่อเตรียมความพร้อมการดำเนินงานโครงการสนับสนุน เสริมสร้าง ศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอย่างมั่นคง ของคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.ออกแถลงการณ์กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

30 ก.ค.- กองทัพบกออกแถลงการณ์ กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงเป็นครั้งที่สอง บ่อนทำลายการคลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธี ขอประณามการกระทำอันไม่รับผิดชอบ ย้ำจะดำเนินการอย่างเหมาะสม เด็ดขาด เพื่อปกป้องอธิปไตยไทย ตามที่รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันในการประกาศหยุดยิง เพื่อยุติการปะทะทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยข้อตกลงดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 นาฬิกา ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 นั้น กองทัพบกขอยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด โดยได้ระงับการใช้กำลังทุกรูปแบบ และลดกิจกรรมทางทหารในพื้นที่ เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดบรรยากาศแห่งสันติภาพ ความไว้เนื้อเชื่อใจ และความร่วมมือที่สร้างสรรค์ระหว่างทั้งสองประเทศ อย่างไรก็ตาม กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ว่า ในวันที่ 29 – 30 กรกฎาคม 2568 กองทัพกัมพูชาได้กระทำการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้ง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ การกระทำของกองทัพกัมพูชาในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างร้ายแรง นับเป็นครั้งที่สองภายหลังจากที่ข้อตกลงมีผลบังคับใช้ และสะท้อนถึงพฤติกรรมที่ไม่เคารพต่อพันธกรณีระหว่างประเทศ ตลอดจนเป็นการบ่อนทำลายความพยายามในการคลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธี อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและความไว้วางใจที่ควรมีระหว่างสองประเทศ กองทัพบกขอประณามการกระทำอันไม่รับผิดชอบของกองทัพกัมพูชาอย่างถึงที่สุด และขอแจ้งให้ทราบว่า ฝ่ายไทยจะยังคงดำรงตนอยู่บนหลักแห่งความอดกลั้น สันติภาพ และมนุษยธรรมอย่างสูงสุด อย่างไรก็ดี หากมีการละเมิดต่อเนื่อง กองทัพบกจะดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมและจำเป็นอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนไทยโดยไม่ละเว้น จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน -สำนักข่าวไทย

กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เปิดแนวปะทะพื้นที่ “อานม้า-ภูมะเขือ”

30 ก.ค. – กัมพูชากลับกลอก ละเมิดข้อตกลงอีก เปิดแนวปะทะ 2 พื้นที่ “อานม้า และภูมะเขือ” ขณะที่ ทบ.เผยทหารกัมพูชาใช้ปืนเล็ก สลับระเบิดขว้าง เมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.) กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยก่อนอีกแล้ว ละเมิดข้อตกลงถึง 2 ครั้ง โดยเปิดแนวปะทะ 2 พื้นที่ที่ อานม้า และภูมะเขือ ทบ.เปิดเผยว่า ทหารกัมพูชาใช้ปืนเล็กสลับระเบิดขว้าง โดยเมื่อเวลา 20.45 น. แหล่งข่าวฝ่ายมั่นคงรายงานว่า ช่องอานม้า มีเหตุปะทะ กัมพูชาเปิดฉากยิง หวังยึดพื้นที่ ฝ่ายไทยตอบโต้ ขณะที่ช่วงเวลา 22.19 น. พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบขั้นต้นเกิดเหตุปะทะที่ภูมะเขือ และช่องอานม้า โดยมีปืนเล็กกับระเบิดขว้างเข้ามาที่ฐานฝั่งไทย ประมาณ 30 นาที ขณะที่เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์ไม่ต้องนอน ตามคาด! กัมพูชาละเมิดอีกแล้ว อานม้าปะทะภูมะเขือ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสาน-กลาง-ตอ.ฝนตกหนัก กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วน กทม.-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบน มีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย