รวบ “ดาวเด่นแก๊งคอลเซ็นเตอร์” หลอกเงินหมอสูญ 100 ล้าน

กรุงเทพฯ 29 ต.ค. – ตำรวจ PCT รวบหนุ่มวัย 32 ปี ฉายา “ดาวเด่นแก๊งคอลเซ็นเตอร์” หลอกแพทย์อายุรกรรม จ.ชุมพร สูญเงินกว่า 100 ล้านบาท สืบสวนพบหลอกเชือดเงินข้าราชการเกษียณเสียหายรวม 150 ล้านบาท


พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 2 หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 5 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ PCT แถลงข่าวจับกุม นายชลวิชา หรือเบียร์ อายุ 32 ปี ฉายา “ดาวเด่นแก๊งคอลเซ็นเตอร์” หลังก่อเหตุหลอกเป็นตำรวจระดับผู้กำกับการ สภ.เชียงราย หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงิน มูลค่าความเสียหายรวม 150 ล้านบาท ในผู้เสียหาย 3 คน

ในช่วงปี 2565 เริ่มต้นเดือนเมษายน หลอกลวงนางอำภา ข้าราชการครูเกษียณจำนวน 11 ล้านบาท เดือนกรกฎาคม นายชาญชัย นักลงทุนหุ้น จำนวน 41 ล้านบาท และรายล่าสุดต้นเดือนตุลาคม นางรัชณี แพทย์ จำนวน 101 ล้านบาท


โดยหลังเกิดเหตุตำรวจ PCT ได้สืบสวนสอบสวนจนพบหลักฐานว่า นายเบียร์ ถือเป็นผู้เชือด ที่หลอกลวงให้โอนเงินในขั้นตอนสุดท้าย และยังสืบทราบว่า นายเบียร์ ก่อเหตุอยู่ที่ตึกประตูดำ 8 หรือที่เรียกว่า ตึกประตูดำ เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา จึงวางแผนเปิดปฏิบัติการทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ประตูดำ เมื่อ 17 ตุลาคม พบมีชาวไต้หวัน เป็นหัวหน้า ได้พาพนักงานคอลเซ็นเตอร์คนไทย รวมถึงนายเบียร์ หลบหนีออกจากช่องทางลับกลับมาที่ไทย ก่อนที่ตำรวจ PCT จะติดตามจับกุมได้ที่อำเภอวังน้อย พระนครศรีอยุธยา

เบื้องต้นนายเบียร์ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ระบุว่า เริ่มต้นข้ามไปประเทศกัมพูชาทางช่องทางธรรมชาติ เพื่อทำงานเป็นแอดมินเว็บพนัน ที่เมืองปอยเปต ตั้งแต่ปี 2564 ก่อนที่ปี 2565 จะย้ายมาทำงานที่ตึกประตูดำ และเริ่มอ้างเป็นผู้กำกับการ สภ.เมืองเชียงราย โดยทำมาได้สักระยะหนึ่งหัวหน้าชาวไต้หวันเห็นถึงความสามารถในการเชือด จึงเลื่อนขั้นจากพนักงานคอลเซ็นเตอร์สาย 2 เป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์สาย 3 ซึ่งเป็นคนปิดเคสให้โอนเงิน และทำรายได้จากการหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินได้ 7-8 ล้านบาท และเคสใหญ่ 3 เคสในช่วงปีนี้

เบื้องต้นตำรวจดำเนินคดีข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น ร่วมกันอั้งยี่ ร่วมกันเป็นซ่องโจร ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และร่วมกันฟอกเงิน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย