แฟนบอลอินโดฯ ไว้อาลัยเหตุจลาจลในสนามฟุตบอล เสียชีวิต 125 ราย

อินโดนีเซีย 3 ต.ค. – ชาวอินโดนีเซียจำนวนมากร่วมจุดเทียนไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากเหตุจลาจลและเหยียบกันตายในสนามฟุตบอลที่จังหวัดชวาตะวันออก เมื่อค่ำวันเสาร์ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ถูกปรับลดลงมาเหลือ 125 ราย


แฟนบอลชาวอินโดนีเซียหลายร้อยคนรวมตัวกันที่จัตุรัสใจกลางกรุงจาการ์ตา เมื่อช่วงค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อจุดเทียนไว้อาลัยและแสดงความรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ รวมถึงมีการตะโกนร้องเพลงสร้างขวัญกำลังใจ หลายคนชูผ้าพันคอสโมสรที่ตนเองสนับสนุน เช่นเดียวกับในอีกหลายเมืองทั่วอินโดนีเซียก็จัดพิธีลักษณะดังกล่าว เพื่อร่วมไว้อาลัยในเหตุการณ์ที่กลายเป็นโศกนาฏกรรมด้วย

ด้านโฆษกตำรวจท้องถิ่นแถลงยืนยันยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้อยู่ที่ 125 ราย ลดลงจากช่วงเย็นเมื่อวานนี้ที่ระบุจำนวนผู้เสียชีวิตไว้ 175 ราย เนื่องจากมีการนับจำนวนผู้เสียชีวิตซ้ำกัน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ที่กว่า 180 คน


สำหรับต้นเหตุของความวุ่นวายภายในสนามฟุตบอลคันจูรูฮาน สเตเดี้ยม ในเมืองมาลัง จังหวัดชวาตะวันออก เกิดขึ้นภายหลังแฟนบอลทีมเอฟซี อารีมา ซึ่งเป็นเจ้าบ้าน แพ้ให้กับทีมคู่ปรับสำคัญอย่างเปอร์เซบายา สุราบายา 2-3 ในศึกฟุตบอลลีกสูงสุดของอินโดนีเซีย เมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ ส่งผลให้แฟนบอลทีมเจ้าบ้านไม่พอใจ ขว้างปาสิ่งของลงไปในสนาม บางส่วนกรูกันลงไปในสนามเพื่อก่อความวุ่นวายเพิ่ม แต่ถูกตำรวจที่ดูแลความปลอดภัยรอบสนามยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ จนแฟนบอลต่างแตกฮือตื่นตกใจวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง

แฟนบอลจำนวนมากรวมตัวบริเวณทางออกจากสนาม ซึ่งมีเพียงทางเดียว จนเกิดการเบียดเสียดและเหยียบกันบริเวณคอขวดใกล้ทางออก เหยื่อเกือบทั้งหมดเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ อวัยวะภายในบอบช้ำ หรือกระดูกหักไปทั้งตัว

ก่อนหน้านี้สมาคมฟุตบอลอินโดนีเซียออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจ และสั่งให้มีการสืบสวนสอบสวนเหตุการณ์นี้แล้ว รวมถึงสั่งระงับการแข่งขันฟุตบอลลีกสูงสุดในประเทศ 1 สัปดาห์ และห้ามทีมเจ้าบ้าน คือ เอฟซี อารีมา ใช้สนามแห่งนี้ไปจนถึงจบฤดูกาลนี้ เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งกระทบต่อภาพลักษณ์ของวงการฟุตบอลอินโดนีเซียอย่างมาก แต่ยอมรับว่ามีมาตรการป้องกันแล้วก่อนหน้านี้ คือห้ามแฟนบอลของทีมเยือนซื้อตั๋วเข้าชมในสนาม หวังไม่ให้เกิดการปะทะกับแฟนบอลทีมเจ้าบ้าน แต่สุดท้ายก็เกิดเหตุสลดขึ้นจนได้ ส่วนหนึ่งเชื่อว่ามีการขายตั๋วเกินความจุของสนาม คือมีแฟนบอลเข้าไปในสนามกว่า 42,000 คน แม้สนามแห่งนี้จะมีความจุเพียง 38,000 ที่นั่ง
ขณะที่ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย แนะว่าควรระงับการแข่งขันฟุตบอลลีกสูงสุดแบบไม่มีกำหนดไปจนกว่าการสืบสวนจะแล้วเสร็จ และภาวนาขอให้เหตุความรุนแรงในสนามฟุตบอลครั้งนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย


ด้านจิอันนี อินแฟนติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อเหตุจลาจลและเหยียบกันตายภายในสนามฟุตบอลที่อินโดนีเซีย เมื่อค่ำวันเสาร์ ระบุถือเป็นโศกนาฏกรรมเลวร้าย และเป็นวันแห่งความอัปยศของวงการลูกหนังโลก พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก

สำหรับอินโดนีเซียจะเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกอายุต่ำกว่า 20 ปี ในเดือน พ.ค. และ มิ.ย. ปีหน้า และยังเป็น 1 ใน 3 ประเทศที่เสนอตัวจัดการแข่งขันเอเชียน คัพ ปีหน้า แต่คาดว่าโศกนาฏกรรมครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันของอินโดนีเซีย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

บิ๊กอ๊อดรอดคุก

“บิ๊กอ๊อด” รอดคุก คดี “บอส อยู่วิทยา” อัยการเนตร คุก 3 ปี

“บิ๊กอ๊อด-ตร.” ทำคดี “บอส” รอดคุก ศาลยกฟ้อง ส่วน “อัยการเนตร” ศาลสั่งจำคุก 3 ปี และ “อัยการชัยณรงค์” จำคุก 2 ปี

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เตรียมเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา และการส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ปัญหาและการพัฒนาของสองประเทศ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

9 ทันโลก : เตรียมเริ่มกระบวนการเลือกโป๊ปองค์ใหม่

หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งศาสนจักรสิ้นพระชนม์ รายงาน 9 ทันโลกวันนี้จะพาไปรำลึกถึงพระองค์และติดตามกระบวนการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่

พิพากษาแก๊งช่วยแก้ความเร็วรถ “บอส”

วันนี้คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุกอดีตรองอัยการสูงสุด และอดีตอัยการอีก 1 คน ฐานความผิดแก้ความเร็วรถคันเกิดเหตุ หวังช่วยผู้ต้องหา