กรุงเทพฯ 7 เม.ย. – เลขาฯ กรศ.แจงกรณีอาลีบาบาลงทุนในมาเลย์และไทยไม่ใช่แข่งขัน แต่เพื่อเชื่อมโยงฐานการค้าในอาเซียนย้ำชัดไทยเป็นการฐาน e-commerce และโลจิสติกส์ไปประเทศเพื่อนบ้าน
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ สำนักงานระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ( กรศ.) กล่าวถึงกรณีผู้ดำเนินรายงาน overview ระบุว่าโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เป็นรองมาเลเซียอยู่มาก พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าการที่ไทยให้ข้อมูลว่าอีอีซีเหนือกว่ามาเลเซียไม่สะท้อนข้อเท็จจริง เนื่องจากพบว่าบริษัทอาลีบาบามีการตั้งศูนย์ธุรกิจในกัวลาลัมเปอร์ ขณะที่ประเทศไทยมีแค่บริษัทลาซาดานั้น
เลขาฯ กรส.ชี้แจงว่าไทยและมาเลเซียอยู่ในอาเซียนและพัฒนาคู่ขนานกัน เสริมสร้างซึ่งกันและกันและไม่ควรมองในแง่การแข่งขัน ในตรงกันข้ามการลงทุนเพื่อสร้างความก้าวหน้าของมาเลเซียและไทยจะเป็นประโยชน์ซึ่งกันและกันในอนาคต และจะช่วยให้อาเซียนและเอเชียดีขึ้น อีกทั้งเป็นเรื่องปกติที่บริษัทใหญ่ ทั่วโลกจะลงทุนหลายประเทศตามความเหมาะสมของประเทศนั้น ไม่ใช่ลงทุนประเทศเดียว จึงไม่น่าแปลกสำหรับกรณีนี้จะมีการลงทุนคู่ขนานหลายประเทศ
นายคณิศ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีการลงทุนของอาลีบาบาและลาซาดานั้น ข้อเท็จจริง คือ อาลีบาบาซื้อ ลาซาดาไปแล้ว จึงเป็นกลุ่มบริษัทเดียวกันและใช้ลาซาดาเป็นบริษัทนำในประเทศไทย เพราะมีธุรกิจเชื่อมโยงมานานแล้วและใช้เจ้าหน้าที่อาลีบาบามาช่วยและได้รับการยืนยันว่า กรณีของไทยเป็นการลงทุน 5th Generation E-commerce Park เน้นการทำธุรกิจอี-คอมเมิร์ซและโลจิสติกส์ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนการลงทุนของอาลีบาบาในมาเลเซีย เน้นด้านอี-คอมเมิร์ซเพื่อขยายธุรกิจการค้าภายในมาเลเซียเป็นหลัก.-สำนักข่าวไทย