ปักกิ่ง 24 ก.ย. – “อาลีบาบา” บริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีน แถลงวันพุธว่า บริษัทมีแผนจะเปิดศูนย์ข้อมูลแห่งแรกในบราซิล ฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์ เพื่อเร่งกลยุทธ์ระดับโลกในด้านปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ (AI)
อาลีบาบาระบุในแถลงการณ์ว่า บริษัทจะเพิ่มศูนย์ข้อมูลในเม็กซิโก ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย และดูไบ ในปีหน้า ซึ่งจะขยายเครือข่ายปัจจุบันที่มีอยู่ 91 แห่งใน 29 ภูมิภาค การขยายตัวครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่อาลีบาบาวางตำแหน่งเอไอ ซึ่งรวมถึงบริการคลาวด์ ให้เป็นธุรกิจหลักควบคู่ไปกับการดำเนินงานอีคอมเมิร์ซแบบดั้งเดิม
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้ประกาศแผนลงทุน 380 พันล้านหยวน (53.40 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.96 ล้านล้านบาท) ในโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับเอไอ ในอีกสามปีข้างหน้า เนื่องจากบริษัทเทคโนโลยีจีนมีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้นเพื่อพัฒนาขีดความสามารถด้านเอไอขั้นสูง
ในงานประชุม “อัปสรา” (Apsara) ซึ่งเป็นงานประชุมประจำปีด้านเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ของบริษัทเมื่อวันพุธที่ผ่านมา นายเอ็ดดี้ อู๋ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ กล่าวว่า อาลีบาบาจะเพิ่มการใช้จ่ายเพิ่มเติมโดยไม่ได้ระบุมูลค่าที่แน่นอน เขากล่าวว่า ความเร็วของการพัฒนาอุตสาหกรรมเอไอ นั้นเกินความคาดหมายของบริษัทอย่างมาก และความต้องการของอุตสาหกรรมสำหรับโครงสร้างพื้นฐานเอไอ ก็เกินความคาดหมายอย่างมากเช่นกัน
นอกจากนี้ ในวันนี้ อาลีบาบายังได้เปิดตัวโมเดลภาษาปัญญาประดิษฐ์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา นั่นคือ “เคว็นทรี-แม็กซ์” (Qwen3-Max) โมเดลภาษาปัญญาประดิษฐ์ (AI language model) ขนาดใหญ่และทรงพลังที่สุดเท่าที่บริษัทอาลีบาบาเคยพัฒนามา
นายโจว จิงเหริน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ “อาลีบาบา คลาวด์” (Alibaba Cloud) บริษัทในเครืออาลีบาบาที่ให้บริการด้านคลาวด์คอมพิวติ้ง กล่าวในการประชุมว่า โมเดล “เคว็นทรี-แม็กซ์” นี้มีพารามิเตอร์หรือตัวแปรมากกว่า 1 ล้านล้านตัว ซึ่งเป็นตัวกำหนดว่าระบบเอไอจะประมวลผลข้อมูลอย่างไร และแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่โดดเด่นเป็นพิเศษในการสร้างโค้ดและคุณสมบัติของเอเจนต์อัตโนมัติ (autonomous agent)
คุณสมบัติของเอเจนต์อัตโนมัติหมายความว่า ระบบเอไอต้องการคำสั่งจากมนุษย์น้อยกว่าแชตบอตอย่าง “แชตจีพีที” (ChatGPT) และสามารถตัดสินใจและดำเนินการได้อย่างอิสระเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ผู้ใช้กำหนดไว้
อาลีบาบาอ้างอิงจากเกณฑ์มาตรฐานของบุคคลที่สาม เช่น “ทาวทู-เบนช์” (Tau2-Bench) โดยกล่าวว่าโมเดลนี้มีประสิทธิภาพเหนือกว่าผลิตภัณฑ์คู่แข่งอย่าง “โคล้ด” (Claude) ของ “แอนโทรปิก” (Anthropic) และ “ดีปซีค-วี-3.1” (DeepSeek-V3.1) ในบางเกณฑ์
บริษัทอาลีบาบาได้ปล่อยโมเดล “เคว็นทรี” (Qwen 3) เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ผลิตภัณฑ์เอไอเพิ่มเติมที่เปิดตัวในวันพุธยังรวมถึง”เคว็นทรี-ออมนิ” (Qwen3-Omni) ซึ่งเป็นระบบมัลติโมดอล ซึ่งหมายถึงโมเดลเอไอที่สามารถประมวลผลและทำความเข้าใจข้อมูลได้มากกว่าหนึ่งประเภทในเวลาเดียวกัน เช่น ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ และเสียง ที่ใช้ประโยชน์ได้ดีในแอปพลิเคชันเสมือนจริงและปัญญาประดิษฐ์ เช่น แว่นตาอัจฉริยะและห้องนักบินอัจฉริยะ
นอกจากนี้ อาลีบาบายังได้เปิดเผยความร่วมมือกับ “เอ็นวิเดีย” (Nvidia) เพื่อพัฒนาความสามารถด้านเอไอ ทางกายภาพ ซึ่งครอบคลุมการสังเคราะห์และการประมวลผลข้อมูล การฝึกอบรมโมเดล การเรียนรู้แบบเสริมแรงจากการจำลองสภาพแวดล้อม และการทดสอบการตรวจสอบโมเดล.-813.-สำนักข่าวไทย