กรุงเทพฯ 6 เม.ย. – กรมโรงงานฯ ผนึกยูเอ็น เอ็นไวรอนเมนท์ พลิกโฉมภาคอุตสาหกรรมประมง ระดมนักวิชาการทั่วโลกจัดประชุมหาแนวทางบริหารจัดการเทคโนโลยีสารทำความเย็นอุตสาหกรรมประมงอย่างยั่งยืน
นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมประมงมีบทบาทสำคัญต่อภาคอุตสาหกรรมทั่วโลก โดยเฉพาะไทยถือว่าประสบความสำเร็จในการเป็นหนึ่งในสิบของโลกที่มีผลผลิตสูง ติดอันดับต้น ๆ ของผู้ส่งออกสินค้าประมง เช่น อาหารทะเลแช่แข็ง อาหารทะเลกระป๋อง และอาหารทะเลแปรรูปต่าง ๆ สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการเพิ่มขึ้นของประชากรทั่วโลก ซึ่งจากสาเหตุดังกล่าวจึงทำให้ประเทศไทยใช้เครื่องทำความเย็นและสารทำความเย็นจำนวนมหาศาล ทั้งห้องเย็นที่ใช้ในเรือประมง ห้องเย็นที่ใช้ในเรือเดินทะเล เพื่อส่งอาหารแช่แข็งไปจำหน่ายในต่างประเทศ รถห้องเย็นที่ใช้ขนส่งผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งระหว่างโรงงานผลิตไปยังผู้จัดจำหน่าย ซึ่งการใช้เครื่องทำความเย็นและสารทำความเย็นมีส่วนผสมของสารที่เป็นสาเหตุทำลายชั้นโอโซนของโลกก่อให้เกิดภาวะเรือนกระจก และเป็นตัวการสำคัญทำให้เกิดภาวะโลกร้อน โดยสารที่นำมาใช้กันแพร่หลายในอุตสาหกรรมประมง คือ ไฮโดรคลอโรฟลูออโรคาร์บอน หรือ HCFCs ก่อให้เกิดผลกระทบหลายด้าน อาทิ ผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร ผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ และเกิดความเปลี่ยนแปลงต่อระบบนิเวศวิทยา
นายสมชาย กล่าวต่อว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรมร่วมกับโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก หรือยูเอ็น เอ็นไวรอนเมนท์ จัดการประชุมนานาชาติในภาคอุตสาหกรรมประมงเป็นครั้งแรกของโลกแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ เพื่อช่วยประเทศภาคีสมาชิกภายใต้พิธีสารมอนทรีออลสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดลดและเลิกการใช้สารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อแนวทางการดำเนินงานในอนาคตของประเทศกำลังพัฒนาอย่างไทยในการเตรียมความพร้อมเพื่อลดการใช้สารทำความเย็น HCFCs ในอุตสาหกรรมประมงและห้องเย็นอย่างจริงจัง
นางอนงค์ ไพจิตรประภาภรณ์ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากข้อมูลของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบว่า ประเทศในอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ มีปริมาณการจับปลามากถึงหนึ่งในสี่ของปริมาณการจับปลาทั่วโลก ซึ่ง 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ถือเป็นประเทศที่มีการจับปลามาก 10 ลำดับแรกของโลก ซึ่งครั้งนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรมก็จะนำความรู้ที่ได้จากการแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากหลายประเทศไปช่วยผู้ประกอบการอุตสาหกรรมประมง กิจการทำห้องเย็น และเรือประมงให้สามารถพัฒนาและใช้สารทดแทน เพื่อลดการทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน และพัฒนาประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับประโยชน์สูงสุด ปัจจุบันไทยมีอุตสาหกรรมที่เป็นห้องเย็นกว่า 881 โรงทั่วไทย.-สำนักข่าวไทย