เริ่มแล้วจับปรับไม่คาดเข็มขัดโดนทั้งคนขับ คนนั่ง

กรุงเทพฯ 5 เม.ย.- ตำรวจลงพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สุ่มตรวจรถไม่คาดเข็มขัดนิรภัย พบผู้ฝ่าฝืนทั้งรถตู้ รถแท๊กซี่รวมทั้งผู้โดยสาร สั่งปรับขั้นต่ำ 100 บาท เตือนให้มีป้ายแจ้งผู้โดยสารทุกคัน


พล.ต.ท.วิทยา ประยงค์พันธ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงพื้นที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ รณรงค์กวดขันจับกุม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ตามมาตรการบังคับใช้กฎหมายเป็นวันแรก  หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งเพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่ใช้รถส่วนบุคคล รถกระบะ รถแท็กซี่ รถตู้โดยสารสาธารณะ โดยกำหนดให้คนขับ และผู้โดยสาร จะต้องรัดเข็มขัดนิรภัย เพื่อความปลอดภัยทุกที่นั่ง หากผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500บาท 

เบื้องต้นพบว่ามีผู้ฝ่าฝืนหลายราย  เช่น  รถแท็กซี่สีชมพู ทะเบียน  ทส 9763 ของนายไสว แก้วเกล้า   รับผู้โดยสาร 2 คน มาจากย่านดินแดง ไปส่งที่สายใต้ใหม่ แต่ผู้โดยสารไม่คาดเข็มขัดนิรภัย  สอบถาม นายพีรพงษ์ วงษ์ศรี ผู้โดยสาร  ทราบว่าคนขับแท็กซี่ไม่ได้แจ้งให้ทราบว่าต้องคาดเข็มขัด  ขณะที่นายไสว คนขับกล่าวว่าไม่รู้ว่ามีการบังคับใช้กฎหมายในวันนี้  เพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้ขับแท็กซี่มาเป็นเวลาสองเดือนเนื่องจากบุตรชายป่วย และยอมรับว่าไม่ได้แจ้งให้ผู้โดยสารทราบ เบื้องต้นตำรวจจับปรับทั้งคนขับในข้อหา ไม่จัดให้ผู้โดยสารทราบ และผู้โดยสาร ในข้อหา ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย คนละ100 บาท 


นอกจากนี้ยังมีรถตู้โดยสารสาธารณะ สายอนุสาวรีย์ – มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต  มีผู้โดยสาร ที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยตำรวจจึงจับปรับคนขับขั้นต่ำ 100 บาท ในข้อหา ไม่จัดให้ผู้โดยสาร คาดเข็มขัดนิรภัย ซึ่งเรื่องดังกล่าว สร้างความเดือดร้อนให้กับคนขับรถตู้อย่างมาก เนื่องจาก ได้แจ้งให้ผู้โดยสารทราบแล้ว แต่ผู้โดยสารไม่ปฎิบัติตาม

พลตำรวจโทวิทยา เปิดเผยว่า วันนี้ ผู้ขับขี่และผู้โดยสารคงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าไม่รู้กฎหมาย และตำรวจยืนยันว่า จะต้องจับปรับอย่างจริงจัง โดยจะมีการทำความเข้าใจกับพนักงานสอบสวน เพื่อให้ทราบถึงรายละเอียดในการใช้ดุลยพินิจเกี่ยวกับกฎหมายนี้ ในการป้องกันไม่ให้เกิดการโต้แย้งกันขึ้น 

สำหรับคนขับรถโดยสารสาธารณะ ควรต้องมีป้ายแจ้งเตือนให้ผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัยติดไว้ภายในรถ เพราะบางครั้ง เมื่อรถวิ่งไปถึงกลางทาง ผู้โดยสารอาจเอาเข็มขัดนิรภัยออก เมื่อถูกจับปรับ คนขับรถสามารถโต้แย้งได้ว่า มีการแจ้งเตือนแล้ว ซึ่งในกรณีนี้ ผู้โดยสารจะต้องชำระค่าปรับ 


ส่วนรถกระบะที่ติดแคป และจดทะเบียนป้ายตัวหนังสือสีเขียว ยังคงยืนยันว่า ผิดกฎหมายขนส่งไม่สามารถบรรทุกคนได้อยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมา มีการผ่อนผันกันมาเนิ่นนานจนเป็นวิถีชีวิตของคนไทย ซึ่งหากรถกระบะประเภทป้ายสีเขียว จะสามารถบรรทุกคนได้ ต้องไปจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อเปลี่ยนประเภทให้ถูกต้อง 

สำหรับยอดในการจับปรับวันแรก ในความผิดตามกฎหมายจราจรนี้ ทั่วประเทศยังไม่ได้มีการรายงานเข้ามา ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาสรุปผลอีกระยะ จึงจะทราบผลการปฏิบัติงาน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว

ช้างพลายขุนเดช

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” ไปสถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” สู่สถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง จบดราม่า หลังฝากเลี้ยงที่มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่