กรุงเทพฯ 4 เม.ย.-ศปถ.รณรงค์อุบัติเหตุทางถนนสงกรานต์ 2560 ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ เน้นหลัก 4 ห้าม 2 ต้อง พร้อมสืบสานวัฒนธรรมประเพณีเล่นน้ำสงกรานต์
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประธานคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงที่มีสถิติอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าปกติ รัฐบาลห่วงใยความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน ศปถ.ได้ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและหน่วยงานภาคีเครือข่ายจัดกิจกรรมรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2560 ภายใต้แนวคิด “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” โดยมุ่งรณรงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด และมีน้ำใจแก่ผู้ร่วมใช้เส้นทาง ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ฝากถึงผู้ใช้รถใช้ถนนให้ปฏิบัติตามหลัก “4 ห้าม 2 ต้อง” ได้แก่ 4 ห้าม คือ ห้ามขับรถเร็ว ห้ามดื่มแล้วขับ ห้ามโทรแล้วขับ ง่วงห้ามขับ และ 2 ต้อง คือ ต้องสวมหมวกกันน็อก และต้องคาดเข็มนิรภัยทุกครั้งที่เดินทาง เพื่อสร้างความตระหนักและปลูกฝังจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนน ควบคู่กับการรณรงค์การเล่นน้ำสงกรานต์ตามวิถีไทย เพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามให้อยู่คู่สังคมไทย
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการจัดกิจกรรมรณรงค์ในครั้งนี้ ถือเป็นการส่งสัญญาณถึงความพร้อมของรัฐบาลในการบูรณาการทุกภาคส่วนดูแลความปลอดภัยในการเดินทางแก่ประชาชนในทุกเส้นทาง รวมถึงเป็นการสร้างกระแสให้ประชาชนมีความตื่นตัวในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย มีจิตสำนึก และมีส่วนร่วมในการสร้างความปลอดภัยทางถนน เพื่อให้เทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2560 เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในสังคมไทย
“อย่างไรก็ตาม มาตรการลดอุบัติเหตุทางถนน ทั้งการบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด การออกคำสั่งตามมาตรา 44 ที่บังคับให้คาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง การกวดขันอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะ และการคุมเข้มผู้ขับขี่ที่ดื่มแล้วขับ โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี และผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตขับรถ รวมถึงการจัดตั้งจุดตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์และตรวจจับความเร็ว จะบรรลุเป้าหมายในการลดอุบัติเหตุทางถนนได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนและผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน โดยขับรถอย่างมีวินัย เคารพกฎหมายจราจร และมีน้ำใจต่อผู้ร่วมใช้เส้นทาง จะทำให้ทุกการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2560 เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย