ศาลปกครองสั่งยกเลิกถอนพาสปอร์ต จาตุรนต์

ศาลปกครอง 31 มี.ค.- ศาลปกครอง สั่งยกเลิกคำสั่งถอนพาสปอร์ต  “จาตุรนต์ ฉายแสง” เหตุ ศาล-คสช. อนุญาตให้ไปนอกหลายครั้ง  ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี-หลีก เลี่ยงการดำเนินคดี


สำนักงานศาลปกครอง เมื่อเวลา 10.00 น.  ศาลปกครองกลางได้อ่านคำพิพากษาในคดีที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย ฟ้องกระทรวงการต่างประเทศกรมการกงสุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ  ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ  อธิบดีกรมการกงสุล  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  กรณีกระทรวงการต่างประเทศมีคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางเลขที่ N9239922 เลขที่ AA5523514 และหนังสือเดินทางทูตเลขที่ CD1001417  โดยอ้างว่านายจาตุรนต์เป็นบุคคลที่มีหมายจับและห้ามเดินทางไปต่างประเทศ  

ศาลเห็นว่าแม้นายจาตุรนต์จะเป็นผู้ต้องหาในในคดีอาญา  เนื่องจากฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)   ที่ไม่เข้ารายงานตัว และข้อหากระทำการยุยง  ปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบหรือละเมิดกฎหมายแผ่นดิน  ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116   ซึ่งนายจาตุรนต์ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาและอยู่ระหว่างสู้คดีในชั้นศาล  โดยศาลได้อนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราว  แต่ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล 


ประกอบกับนายจาตุรนต์ถูกห้ามเดินทางออกนอกประเทศตาม ประกาศหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 21/2557  แต่ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า นายจาตุรนต์ได้รับอนุมัติจากหัวหน้า คสช. และศาลทหารกรุงเทพฯให้เดินทางออกไปต่างประเทศ ทั้งจีน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และเยอรมันนี รวมหลายครั้ง  จึงชัดเจนว่านายจาตุรนต์ไม่ใช่ผู้ที่ศาลหรือพนักงานฝ่ายปกครองเห็นว่าไม่ควรจะออกหนังสือเดินทางให้

เนื่องจากได้รับอนุมัติให้เดินทางออกนอกประเทศอยู่เป็นประจำ  และเดินทางกลับมาในระยะเวลาตามกำหนดไว้ในคำสั่งอนุมัติทุกครั้ง   ไม่มีท่าทีหรือพฤติการณ์ว่าจะหลบหนีคดี เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดี

ดังนั้นจึงยังไม่อาจถือได้ว่ามาตรการยกเลิกหนังสือเดินทาง ทั้ง 3 ฉบับของนายจาตุรนต์มีความเหมาะสมหรือสมควร  ตรงกันข้ามกลับมีผลกระทบต่อความมั่นคงในการใช้สิทธิ  และใช้หนังสือเดินทางเพื่อการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร  ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างรุนแรง  เท่ากับว่าประโยชน์ที่จะได้รับจากมาตรการนี้มีน้ำหนักน้อยกว่าผลเสียที่เกิดแก่นายจาตุรนต์  และไม่ปรากฏว่ามีการยกเลิกหนังสือเดินทางกับบุคคลอื่นที่มีพฤติการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้  จึงเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม  ศาลจึงพิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว  โดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่มีคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทาง


หลังฟังคำวินิจฉัย  นายจาตุรนต์ ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกดีใจที่ได้รับความเป็นธรรม  และสิทธิของคนไทยขั้นพื้นฐานกลับคืนมาจากการร้องต่อศาลปกครอง  เพื่อให้กระทรวงการต่างประเทศ  ยกเลิกคำสั่งเพิกถอนหนังสือเดินทาง  ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศจะต้องดำเนินการชี้แจงต่อสถานทูต และกงสุลทั่วโลก  ส่วนจะดำเนินการทางคดีกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหรือไม่นั้น  ตนเห็นว่ายังเร็วเกินไปที่จะดำเนินการ  เพราะต้องรอศึกษารายละเอียดก่อน

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า การพิพากษาของศาลในวันนี้  เป็นเครื่องยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องทบทวนการใช้อำนาจ  เพื่อไม่ให้เกิดการใช้อำนาจโดยมิชอบ  หรือเลือกปฏิบัติ เพื่อไม่ให้กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น  ทั้งนี้การที่กระทรวงการต่างประเทศจะเพิกถอนหนังสือเดินสามารถทำได้  ในกรณีเหตุจำเป็น เป็นบุคคลล้มละลาย  บุคคลที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศ  และเป็นบุคคลหลบหนีคดีและตามตัวไม่ได้ แต่กระทรวงการต่างประเทศมาอ้างว่าตนมีหมายจับซึ่งเป็นเท็จทั้งสิ้น  

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่มีความจำเป็นใดๆ   ที่จะมากีดกันที่จะให้ตนไปต่างประเทศ  และไม่ใช้ภาระหน้าที่อะไรของตำรวจที่จะให้ยกเลิกหนังสือเดินทาง  เพราะตนได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจากศาลทหาร  แม้จะสั่งห้ามไม่ให้เดินทางไปต่างประเทศ  แต่หากมีความจำเป็นก็สามารถขออนุญาตศาลทหาร ซึ่งที่ผ่านมาได้รับอนุญาตทุกครั้ง และกลับมารายงานตัวตามกำหนด.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย