หนุ่มขับรถคุรุสภายิง ขรก. สาวซี4 ดับคา ก.ศึกษาฯ

กทม. 28 มี.ค.- พนักงานขับรถยิงเจ้าหน้าที่สาว ซี 4 เสียชีวิตบริเวณสนามหญ้าในสำนักงานคุรุสภา เขตดุสิต ปมชู้สาว 


ตำรวจ สน.ดุสิต พร้อมกองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบหลังรับแจ้งเหตุยิงกันบริเวณสนามหญ้าในสำนักงานคุรุสภา เขตดุสิต โดยที่สนามหญ้าหน้าอาคารสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) พบร่างหญิงอายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่ซี 4 ฝ่ายเจ้าหน้าที่ทะเบียนคลังของ สกสค. ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่ขมับขวา 1 นัด หัวไหล่ 1 นัด แพทย์กู้ชีพนเรนทรช่วยปั๊มหัวใจ แต่ไม่สำเร็จและได้เสียชีวิตลง ใกล้กันพบรถยนต์ฮอนด้า สีดำ จอดอยู่ โดยล้อหน้าซ้ายแบน มีล้ออะไหล่วางอยู่


จากการสอบสวนหญิงอายุ 47 ปี  น้าสะใภ้ผู้ตาย ทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุเป็นพนักงานขับรถคุรุสภา อายุ 45 ปี มาติดพันหลานสาวนาน 2-3 ปี แต่เมื่อเดือนกว่าๆ ฝ่ายหญิงจับได้ว่าฝ่ายชายมีครอบครัวอยู่ก่อนแล้ว จึงของแยกทาง แต่ฝ่ายชายมาตามง้อ เคยเอาปืนมาขู่ให้คืนดีหลายครั้ง โดยก่อนเกิดเหตุขณะรอช่างมาเปลี่ยนยางรถยนต์ที่แบน ฝ่ายชายได้เข้ามาพูดคุยกับหลานสาวว่ามีคนใหม่หรือไม่ แต่ตนเองช่วยยืนยันว่าไม่มี แต่คุยกันไม่เข้าใจจากนั้นฝ่ายชายชักอาวุธปืนมายิงก่อนหลบหนีไป


ด้านพลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ตำรวจยังคงมุ่งไปที่ประเด็นเรื่องส่วนตัว เนื่องจากญาติยืนยันว่าผู้ตายมีปัญหาส่วนตัวกับคนร้ายเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตามตัวผู้ก่อเหตุ เนื่องจากพฤติกรรมน่าจะมีการวางแผนมาก่อเหตุ ทั้งการเตรียมการนำอาวุธปืน หรือการที่รถของผู้ตายยางแบน ซึ่งน่าจะเป็นการเตรียมการของผู้ก่อเหตุที่จะเข้ามาก่อเหตุกับผู้ตาย แต่ทั้งนี้ต้องติดตามตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งทราบรายละเอียดทั้งหมดแล้ว จากการตรวจสอบประวัติยังไม่พบว่าเคยก่อคดีหรือมีพฤติกรรมการก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว ซึ่งเมื่อได้ตัวมาจะสอบสวนถึงมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุที่แท้จริงต่อไป

ทั้งนี้ จากการสอบสวนพบว่าทั้งคู่เคยมีครอบครัวกันก่อนแล้ว แต่สามีของฝ่ายหญิงเสียชีวิตไปแล้ว จากนั้นทั้งคู่มาคบกันโดยฝ่ายชายเคยให้ทรัพย์สินแกฝ่ายหญิงไปจำนวนหนึ่งเพื่อเอาใจ แต่เมื่อฝ่ายหญิงรู้ว่าฝ่ายชายมีครอบครัวแล้ว จึงเริ่มตีตัวออกห่างไปหาแฟนใหม่ ทำให้ฝ่ายชายโกรธ และหึงหวง และพยายามขอทรัพย์สินคืน จนกระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์

เร่งล่าฆาตกรโหดตัดนิ้วชิงทรัพย์หญิงวัย 67 ทิ้งศพกลางสวนปาล์ม

ตำรวจเร่งล่าฆาตกรโหดฆ่าตัดนิ้วหญิงวัย 67 ปี ชิงทรัพย์ ก่อนทิ้งศพกลางสวนปาล์ม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยพบรถเก๋งต้องสงสัยสีขาววิ่งเข้าไปในจุดพบศพ

จับนายก อบต.นาบัว

คอมมานโดบุกจับนายก อบต.นาบัว-พวก รวม 16 คน

คอมมานโดกองปราบฯ บุกจับฟ้าผ่า! นายก อบต.นาบัว อ.นครไทย ประธาน “ธนาคารหมู่บ้าน” พร้อมพวก รวม 16 คน ฐานร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันกู้ยืมเงิน มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

มนุษย์ ภัยคุกคามพะยูน ?

ช่วงนี้พบพะยูนในทะเลฝั่งอันดามันตายเพิ่มขึ้นแบบถี่ยิบ จนน่าเป็นห่วงว่าพะยูนอาจสูญพันธุ์ไปในอนาคต โดยเฉพาะล่าสุดเมื่อมีการพบพะยูนตายในทะเลภูเก็ต อยู่ในสภาพถูกตัดหัว คาดนักล่าหวังเอาเขี้ยว

typhoon Man-Yi barrels through the Philippines

ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” เข้าฟิลิปปินส์

มะนิลา 17 พ.ย.- ซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ พัดเข้าเกาะลูซอนที่เป็นเกาะหลักและมีประชากรอยู่หนาแน่นที่สุดของฟิลิปปินส์แล้วในวันนี้ เสี่ยงทำให้เกิดฝนตกหนักในกรุงมะนิลาที่เป็นเมืองหลวง หม่านหยี่ เป็นภาษาจีนกวางตุ้ง เป็นชื่อของอ่างเก็บน้ำในฮ่องกง นับเป็นพายุลูกที่ 6 ที่พัดเข้าฟิลิปปินส์ในรอบ 1 เดือน มีความเร็วลม 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อ่อนกำลังลงเล็กน้อยหลังจากขึ้นฝั่งเมืองปางานีบัน จังหวัดคาตันดัวเนส ที่เป็นเกาะขนาดเล็ก เมื่อคืนวันเสาร์ ข้ามมาจนถึงจังหวัดคามารีเนส นอร์เต บนเกาะลูซอน ในเช้าวันนี้ ไต้ฝุ่นลูกนี้มีแนวโน้มจะทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วเขตมหานครมะนิลา ซึ่งมีการอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงแล้วกว่า 1 ล้านคน แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แม้ว่ากระแสลมแรงได้สร้างความเสียหายให้แก่สิ่งปลูกสร้างในจังหวัดคาตันดัวเนสก็ตาม.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ดอยอินทนนท์คึกคักรับลมหนาว สัมผัสหมอกหนายามเช้า

นักท่องเที่ยวแห่ขึ้นดอยอินทนนท์รับลมหนาว สัมผัสหมอกหนายามเช้าวันหยุด หลายคนบอกไม่ผิดหวัง เพราะพระอาทิตย์สาดแสงเป็นประกายประทับใจ