ยธ.เดินหน้าสอบผู้ต้องหาตัวจริงเพิ่มคดีภารโรงแพะ

แจ้งวัฒนะ 27 มี.ค.-กระทรวงยุติธรรม เดินหน้าสอบผู้ต้องหาตัวจริงอีก 2 คนคดีปล้นทรัพย์ เป็นหลักฐานใช้รื้อคดีภารโรงแพะ


พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม  กล่าวถึงความคืบหน้าการช่วยรื้อฟื้นคดีนายกมล แพเขียว อดีตนักการภารโรง โรงเรียนในจังหวัดชัยนาท ผู้ต้องขังคดีปล้นทรัพย์รถกระบะป้ายแดง ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ปี 2549 ซึ่งคดีถึงที่สุดศาลมีคำพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ให้จำคุก 20 ปี ว่า คดีนี้นายสาคร ขาวพันธุ์ เคยรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุปล้นทรัพย์ร่วมกับเพื่อนอีก 4 คนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังถูกจับกุมในคดีอื่นเมื่อปี 2551  เมื่อเจ้าหน้าที่ไปขอออกหมายจับ ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากเห็นว่ามีเพียงคำรับสารภาพของผู้ต้องหาเท่านั้นไม่มีหลักฐานอื่นประกอบ การดำเนินคดีจึงหยุดไป กระทั่งผู้ต้องหาได้เขียนจดหมายรับสารภาพทางตำรวจภูธรภาค 7 จึงจะสอบสวนต่อไป


โดยคำรับสารภาพของผู้ต้องหาอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ เจ้าหน้าที่ต้องหาหลักฐานอื่นประกอบเพิ่มเติม โดยเบื้องต้นมีแผนที่ ที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงที่ผู้ต้องหาเขียนขึ้นเอง เนื่องจากจำเหตุการณ์ทุกอย่างได้ทั้งหมดทั้งการจับผู้เสียหายมัดมือ การบังคับเอาทรัพย์สิน นอกจากนี้ หลังเกิดเหตุผู้เสียหายจดจำคนร้ายได้ 1 คน ซึ่งมีรูปร่างลักษณะอ้วน เจ้าหน้าที่จึงสเกตภาพคนร้ายไว้ และได้ให้นายสาครดู ซึ่งนายสาครยืนยันว่าเป็นเพื่อนที่ร่วมก่อเหตุ


พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวอีกว่า ขณะนี้นายกมล และนายสาครผ่านเครื่องจับเท็จแล้ว และ เจ้าหน้าที่จะได้ไปสอบปากคำผู้ต้องหาตัวจริงอีก 2 ราย หากมีหลักฐานเพิ่มเติมจะส่งให้ทางตำรวจภูธรภาค 7 เป็นผู้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา และเมื่อศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่านายสาครกับพวกเป็นคนร้ายตัวจริงที่ปล้นทรัพย์ ทางกระทรวงยุติธรรมจะรื้อฟื้นคดีให้กับนายกมล 

โดยสัปดาห์หน้าจะร่วมประชุมกับทางตำรวจภูธรภาค 7 คาดว่า เรื่องนี้น่าจะมีความคืบหน้าอีกระดับหนึ่ง ส่วนการประกันตัวนายกมลนั้น ต้องรอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 7 รับคำร้องรื้อฟื้นคดีก่อน กระทรวงยุติธรรมจะยื่นประกันตัวให้ โดยระหว่างนี้นายกมลยังถือเป็นนักโทษต้องจำคุกตามคำพิพากษาของศาลฎีกา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง