ก.เกษตรฯ สั่งเฝ้าระวังสุขภาพสัตว์หน้าร้อน

กรุงเทพฯ  22 มี.ค. – กระทรวงเกษตรฯ ย้ำเกษตรกรเฝ้าระวังสุขภาพสัตว์ช่วงอากาศแปรปรวนเข้าสู่ฤดูร้อน พร้อมเร่งปรับระบบเลี้ยงสัตว์ปีกรายย่อย


นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยาระหว่างวันที่ 20 – 25 มีนาคม 2560 พบว่าสภาพอากาศมีความแปรปรวน ภาคเหนือมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างภาคตะวันออกและภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น  ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพสัตว์โดยตรง ทำให้อ่อนแอ เนื่องจากสัตว์ต้องมีการปรับตัวกับสภาพอากาศ จึงมีความเสี่ยงเกิดโรคระบาดได้  กระทรวงเกษตรฯ ขอให้เกษตรกรเฝ้าระวังดูแลสุขภาพสัตว์อย่างใกล้ชิด ประกอบกับ รายงานขององค์การสุขภาพสัตว์โลก (OIE) เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา พบการระบาดของโรคไข้หวัดนก สายพันธุ์ H5N6 และ H5N1ที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งหน่วยงานทางสัตวแพทย์ของประเทศเวียดนามได้สั่งให้ทำลายสัตว์และซากสัตว์ พร้อมทั้งรณรงค์ทำวัคซีนและพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในพื้นที่ที่พบโรคดังกล่าวแล้ว

นายสัตวแพทย์อภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็วเกือบทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีอากาศร้อนจัดในตอนกลางวัน มีลมกระโชกแรงและเกิดพายุฤดูร้อนบางพื้นที่ ส่งผลกระทบให้สัตว์ได้รับความเดือดร้อนทั้งด้านสุขภาพ ที่อยู่อาศัย และด้านอาหาร กรมปศุสัตว์จึงขอให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ที่ไม่ได้เลี้ยงในฟาร์มถูกสุขลักษณะให้ซ่อมแซมคอกและดูแลโรงเรือนให้อยู่ในสภาพดี เพื่อไม่ให้ลมและฝนสาดเข้ามาในโรงเรือนได้ โดยเฉพาะสัตว์ปีกที่ไม่ยอมนอนในโรงเรือน ควรจับมานอนในโรงเรือนให้ได้ พร้อมจัดเตรียมอาหารและน้ำสะอาดให้เพียงพอ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะเข้าไปดูแลอย่างทั่วถึง ทั้งการฉีดวัคซีนและการดูแลสุขภาพต่าง ๆ ในภาพรวมเรียกว่าการปรับระบบการเลี้ยงสัตว์ปีกรายย่อย อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันประเทศไทยมีการส่งออกสินค้าโดยเฉพาะสัตว์ปีกค่อนข้างสูง เหตุผลหนึ่งมาจากเป็นโอกาสที่ประเทศอื่น ๆ เกิดปัญหาเรื่องไข้หวัดนกและยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ประเทศไทยจึงต้องรักษามาตรฐานการเลี้ยงสัตว์ปีกไว้ เพื่อการส่งออกของสินค้าสัตว์ปีกที่มีคุณภาพต่อไป


นอกจากนี้ ขอให้เกษตรกรเฝ้าระวังในส่วนของโค-กระบือและสุกร เพราะจะมีในเรื่องโรคปากและเท้าเปื่อย และคอบวมในกระบือ แต่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน ซึ่งมีการฉีดวัคซีนพร้อมกันทั่วประเทศ อีกทั้งเกษตรกรเข้าใจดีขึ้น และกำลังจะมีการฉีดวัคซีนพร้อมกันอีกเป็นรอบที่ 2 จึงจะเห็นการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อทั้งในส่วนของโค-กระบือและสัตว์ปีก โดยจะมีการรณรงค์พ่นยาฆ่าเชื้อปีละ 4 ครั้ง หรือ 3 เดือน/ครั้ง ถือเป็นหลักการที่กรมปศุสัตว์ดำเนินการมาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2547 นอกจากนี้ ยังมีการตั้งด่านตรวจ หรือการรณรงค์ตามภาวะการเสี่ยงต่าง ๆ ด้วย  ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มีการสุ่มเก็บตัวอย่างนกที่อพยพหรือนกประจำถิ่นเป็นประจำทุกปี ๆ ละกว่า 3,200 ตัวอย่าง ซึ่งยังไม่ตรวจพบโรคระบาดสำคัญโดยเฉพาะไข้หวัดนก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง