นนทบุรี 21 มี.ค. – พาณิชย์เตรียมดึงสินค้าภูมิปัญญาต่อยอดสร้างมูลค่าการค้า เชื่อสินค้าศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นเฉพาะด้านสามารถสร้างรายได้ควบคู่การท่องเที่ยง
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่าเร็ว ๆ นี้ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ได้มอบหมายให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาเตรียมหารือกับทางกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ถึงแนวทางการต่อยอดนำศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นเฉพาะด้าน ทั้งสาขาการแพทย์แผนไทย สาขาด้านพันธุ์พืช ซึ่งแต่ละหน่วยงานมีกฎหมายและวิธีปฎิบัติในการคุ้มครองสิ่งเหล่านี้อยู่แล้วมาดำเนินการต่อยอดในเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างไร และสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนานวัตกรรมให้ก้าวไปสู่การพัฒนาในเชิงอุตสหกรรมไทยแลนด์ 4.0 ตามที่รัฐบาลได้วางกรอบเอาไว้
ทั้งนี้ เชื่อว่ากระทรวงพาณิชย์ในฐานะกำกับด้านทรัพย์สินทางปัญญาและกำลังเดินหน้าพัฒนาตลาดชุมชนทั่วประเทศให้เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าที่ควบคู่ด้านท่องเที่ยวศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นเฉพาะด้านของไทยให้สอดคล้องและไปในทิศทางเดียวกัน จึงต้องการให้ทุกฝ่ายมาร่วมกันในฐานะให้ความคุ้มครองที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหลายหน่วยงาน ได้แก่ ด้านศิลปวัฒนธรรม ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงวัฒนธรรม ด้านภูมิปัญญาท้องถิ่นสาขาการแพทย์แผนไทยภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงสาธารณสุข ด้านพันธุ์พืช ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ด้านทรัพย์สินทางปัญญาภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพาณิชย์ โดยแต่ละหน่วยทึ่ได้ดำเนินการคุ้มครองและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยให้เป็นรูปธรรมภายเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้นและไม่เกิดปัญหาการทับซ้อนหรือขัดแย้งกันซึ่งจะเป็นปัญหาในการอ้างสิทธิ์
นอกจากนี้ ยังมอบหมายกรมทรัพย์สินทางปัญญาเดินหน้าส่งเสริมการคุ้มครองศิลปวัฒนธรรมหรือภูมิปัญญาที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดจนเข้าข่ายเป็นงานทรัพย์สินทางปัญญาประเภทต่าง ๆ เช่น ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร ความลับทางการค้า สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เครื่องหมายการค้า โดยที่ผ่านมากรมฯ ได้ดำเนินการจัดทำโครงการประกวดการพัฒนาภูมิปัญญาสู่นวัตกรรม เพื่อพัฒนาสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่การเป็นสินค้านวัตกรรม โดยใช้ข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญาประเภทสิทธิบัตรเป็นเครื่องมือในการพัฒนาต่อยอด และนำผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการต่อยอดพัฒนาดังกล่าวเข้าสู่ระบบการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาและไปในเชิงพาณิชย์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในตัวของสินค้าดังกล่าวที่เหมาะสมกันต่อไป.-สำนักข่าวไทย
