พม.21 มี.ค.-รมว.พัฒนาสังคมฯ นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุมสหประชาชาติว่าด้วยสถานภาพสตรี สมัยที่ 61 เน้นย้ำความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการส่งเสริมสิทธิสตรี ความเท่าเทียมและพัฒนาศักยภาพสตรี ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ สหรัฐอเมริกา
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยสถานภาพสตรี สมัยที่ 61 (UN Commission on the Status of Women–UNCSW 61) ระหว่างวันที่ 13-15 มีนาคม ที่ผ่านมา ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่ง การประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมด้านสตรีระดับสากล โดยมีหัวข้อหลัก คือ “การส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจของสตรี” และหัวข้อรอง คือ “ข้อท้าทายและการดาเนินการตามเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษเพื่อสตรีและเด็กหญิง”
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ ตนได้กล่าวถ้อยแถลงถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพสตรีในทุกมิติ เพื่อให้สตรีเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นหัวข้อหลักของการประชุมครั้งนี้ เพื่อให้สตรีมีส่วนร่วมสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ สร้างความเป็นอยู่ที่ดีของสังคมและครอบครัวคนไทย โดยประเทศไทยได้ดำเนินงานด้านการพัฒนาสตรีมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้พัฒนาศักยภาพอย่างเต็มที่ เช่น ด้านการศึกษาขณะนี้เด็กผู้หญิงมีโอกาสเข้าถึงระบบการศึกษาพื้นฐานเท่ากับเด็กผู้ชาย ส่งผลให้เกิดความก้าวหน้าด้านกำลังแรงงาน ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม สตรียังมีอัตราส่วนที่น้อยในภาคการเมือง ในขณะที่ประเทศไทยกำลังจะมีรัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งผ่านการลงประชามติเรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนสิงหาคม 2559 และอยู่ระหว่างการจัดการเลือกตั้งเร็วๆ นี้ นับเป็นโอกาสดีที่จะผลักดันบทบาทสตรีในการเมือง ซึ่งรัฐบาลไทย โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้เตรียมแผนที่จะดำเนินโครงการส่งเสริมสตรีในภาคการเมือง โดยจัดอบรมและการสัมมนา นอกจากนี้ได้จัดสรรงบประมาณที่คำนึกถึงมิติความเสมอภาคระหว่างเพศ ซึ่งถูกบรรจุลงในรัฐธรรมนูญนี้ด้วย เพื่อเป็นแนวทางในการบูรณาการประเด็นความเสมอภาคระหว่างเพศอย่างยั่งยืนในทุกภาคส่วน
รมว.พัฒนาสังคมฯ กล่าวต่อไปว่า เพื่อเป็นการต่อยอดการส่งเสริมบทบาทสตรีในภาคเศรษฐกิจและในสังคมในระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ ประเทศไทยได้เป็นผู้ริเริ่มในการร่างปฏิญญากรุงเทพว่าด้วยความเสมอภาคระหว่างเพศและการพัฒนาครอบครัว ซึ่งได้รับการลงมติรับรองในการประชุมระดับรัฐมนตรีเอเชียตะวันออกด้านครอบครัวและความเสมอภาคระหว่างเพศ เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.พ.ศ.2559 ณ กรุงเทพฯ ในการนี้ประเทศไทยขอยืนยันในความมุ่งมั่นที่จะทำงานกับภาคีเครือข่ายต่างๆ ทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ ซึ่งมั่นใจว่าความร่วมมือนี้จะนำไปสู่ความสำเร็จในการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศและการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างแน่นอน ภายหลังการประชุมดังกล่าวตนยังได้เป็นประธานพิธีเปิดการอภิปรายในกิจกรรมคู่ขนาน ในหัวข้อ “Women’s economic empowerment in fragile communities” จัดโดยประเทศไทยร่วมกับสถาบันสันติภาพนานาชาติ (International Peace Institute) ณ นครนิวยอร์ก
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวอีกว่า การเดินทางไปเยือนสหรัฐฯครั้งนี้ นอกจากการเข้าร่วมประชุมดังกล่าว ตนพร้อมคณะ ยังได้พบปะรัฐมนตรีในกลุ่มประเทศอาเซียน ประชุมร่วมกับเครือข่ายหญิงไทยในนครนิวยอร์ก และประชุมหารือกับเอกอัครราชทูตเกี่ยวกับสถานการณ์และการพัฒนางานด้านสตรีในต่างประเทศ อีกทั้งได้เยี่ยมกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา และนครแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา เพื่อหารือด้านความร่วมมือและการพัฒนาเครือข่ายหญิงไทยในต่างประเทศ นอกจากนี้ ได้เยี่ยมเยือนและประชุมร่วมกับเครือข่ายหญิงไทยในลอสแอนเจลิส และแวนคูเวอร์ และได้เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความตกลงร่วมกัน (MOU) การให้ความช่วยเหลือหญิงไทยในนครลอสแองเจลิสและสหรัฐอเมริกา
“การดำเนินงานทั้งหมดดังกล่าวของกระทรวงฯ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนประเด็นด้านสตรีของรัฐบาลไทยตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนเป้าหมายที่ 5 หรือSDG Fiveในการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศในประเทศไทยต่อไป” พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย