กทม. 23 ธ.ค. – สน.ทองหล่อ นัดเจรจา 4 ฝ่าย เพื่อชดใช้ค่าเสียหายให้เจ้าของรถยนต์และจักรยานยนต์ รวม 42 คัน ที่ถูกผู้ต้องหาเมายาไอซ์ขับรถบรรทุกชนภายในซอยเอกมัย ด้านเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปฝากขังโดยแจ้งข้อหาเพิ่มเป็น 7 ข้อหา
เจ้าของรถยนต์ 34 คัน และรถจักรยานยนต์ 8 คัน ซึ่งถูกนายเอกพจน์ ยศศิริ ขับรถบรรทุก 6 ล้อ ชนภายในซอยเอกมัย หรือสุขุมวิท 63 เมื่อ 2 วันก่อน ซึ่งเป็นผู้เสียหายในพื้นที่ สน.ทองหล่อ และ สน.มักกะสัน เข้าเจรจากับตัวแทนบริษัทสินมั่นคงประกันภัย และพนักงานสอบสวน ส่วนบริษัท ชัยภิวัตร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทของผู้ต้องหา ได้มอบอำนาจให้นายสุภีร์ บุตรพรม หัวหน้าฝ่ายขนส่ง เป็นตัวแทนร่วมเจรจา โดยท้องที่ สน.ทองหล่อ มีรถได้รับความเสียหายมากที่สุด 32 คัน มูลค่าเสียหายกว่า 2 ล้านบาท ส่วนท้องที่ สน.มักกะสัน อยู่ระหว่างประเมินมูลค่าความเสียหาย ขณะที่รถบรรทุกคันก่อเหตุทำประกันชั้น 3 ต้นทุนประกัน 600,000 บาท
นายสุภีร์ กล่าวว่า บริษัทฯ ยินยอมจ่ายค่าเสียหายส่วนต่างให้กับผู้เสียหายทุกราย รวมทั้งค่าทำขวัญและค่าตกใจ พร้อมยืนยันก่อนรับนายเอกพจน์เข้าทำงาน ได้ตรวจปัสสาวะและตรวจประวัติอย่างละเอียด ไม่พบประวัติเสียหาย และเมื่อเข้ามาทำงานก็ขยันขันแข็งดี แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น และบริษัทฯ ได้ไล่นายเอกพจน์ออกแล้ว
ด้านนราวิศ แสงแจ่ม ผู้จัดการเขตสินไหมรถยนต์ บริษัท สินมั่นคงประกันภัย กล่าวหลังจากเจรจา 4 ฝ่ายว่า วันนี้เป็นการเจรจาชดใช้ค่าเสียหายเฉพาะรถยนต์ที่มีประกันชั้น 3 กับรถที่ไม่มีประกันภัย โดยเป็นรถยนต์ 3 คัน และจักรยานยนต์ 10 คัน
ส่วนรถยนต์ที่มีประกันภัยชั้น 1 จำนวน 12 คัน บริษัทประกันจะคุยชดใช้ค่าเสียหายกันเอง โดยได้ข้อยุติแล้ว 7 คัน การเจรจาวันนี้ได้ผลออกมาค่อนข้างดี คู่กรณีทุกรายพอใจ ส่วนค่าทำขวัญหรือค่าตกใจ ทางบริษัทยังไม่ได้พิจารณา โดยน่าจะจ่ายรวมไปกับค่าเสียหาย เนื่องจากมีคู่กรณีที่ต้องชดใช้จำนวนมาก
ทั้งนี้ มีรายงานว่าค่าเสียหายสูงสุดจากการขับชนของนายเอกพจน์ครั้งนี้ เป็นรถเบนซ์ ซึ่งบริษัทประกันฯ ประเมินราคาซ่อมสูงถึง 800,000 บาท
ขณะที่พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ได้ควบคุมตัวนายเอกพจน์ไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยผู้ต้องหามีอาการสงบ แต่สีหน้ายังมึนงง พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาจำหน่ายยาไอซ์เพิ่มเติมกับนายเอกพจน์อีก 1 ข้อหา จากเดิมแจ้งไว้ 6 ข้อหา พร้อมคัดค้านการประกันตัวและไม่ขอรับตัวกลับมาสอบสวนเพิ่มเติม. – สำนักข่าวไทย