สหพันธ์ขนส่งฯ เสนอเพิ่มมาตรการแก้ปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกิน

กรุงเทพฯ  27 ธ.ค. –  สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยเสนอมาตรการเพิ่มเติม แก้ไขบรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมาย แนะตั้งจุดตรวจเช็คน้ำหนักตั้งแต่ต้นทาง-ปลายทางที่สถานีขนส่งและสถานประกอบการทุกแห่ง เชื่อประสบผลสำเร็จภายใน 90-180 วัน


นายทองอยู่ คงขันธ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการเพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาการบรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนดของผู้ประกอบการขนส่ง โดยระบุว่าหลังจากรัฐบาลตั้งใจเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเห็นว่าการบรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายเป็นสาเหตุทำให้ถนนพังชำรุดเสียหายต้องใช้งบประมาณมหาศาลแต่ละปีเพื่อดำเนินการ

ทั้งนี้ เบื้องต้นรัฐบาลมีคำสั่งบูรณาการความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมการขนส่งทางบก เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง และตำรวจในพื้นที่ เพื่อกวดขันจับกุมผู้ประกอบการที่บรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนด  อย่างไรก็ตาม  การแก้ไขปัญหาดังกล่าวยังไม่สามารถทำให้ปัญหาหมดไปอย่างเบ็ดเสร็จ  โดยการไล่จับกุมเปรียบเสมือนการขี้ช้างไล่จับตั๊กแตนที่ยังไม่ตรงจุด


นายทองอยู่  กล่าวว่า  ทางสหพันธ์การขนส่งทางบกฯ จึงมีข้อเสนอเพิ่มเพื่อแก้ไขปัญหาให้เห็นผลเป็นรูปธรรม สามารถเห็นผลได้ภายใน  90 -180 วัน โดยมีข้อเสนอให้ชั่งน้ำหนักจากต้นทางและเข้มงวดตรวจสอบหากรถน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนดจะไม่สามารถออกจากต้นทาง หรือตรวจรับปลายทางได้  โดยพื้นที่สำคัญสามารถตั้งด่านชั่งน้ำหนักก่อนรถออกต้นทาง-ปลายทาง ประกอบด้วย ด่านก่อนออกจากพื้นที่ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) หรือตามนิคมแห่งสำคัญต่าง ๆ ทางเข้าและออกของท่าเรือภายในการกำกับดูแลของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) คลังสินค้าของท่าอากาศยานในการกำกับดูแลของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. จุดขนถ่ายสินค้าของสถานีขนถ่าย การรถไฟแห่งประเทศไทย  (รฟท.) หรือ ICD ลาดกระบัง สถานีขนถ่ายสินค้าของกรมการขนส่งทางบกทั้ง 3 แห่ง สถานประกอบการและคลังสินค้าทัณฑ์บนในการกำกับดูแลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้นนอกจากนี้ ผู้ประกอบการขนส่งเห็นว่าควรมีการกำหนดบทลงโทษชัดเจน เพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุดต่อผู้ประกอบการที่กระทำผิดกฎหมายเริ่มตั้งแต่การออกหนังสือเตือนการพักใช้ใบครับคีย์และใบอนุญาตประกอบการและหากมีการกระทำผิดซ้ำมากกว่า  3 ครั้ง  ขอให้มีการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการขนส่งทันที ซึ่งจะทำให้เกิดมาตรฐานในการแก้ไขปัญหาและการดำเนินการประสบผลสำเร็จ

ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการสหพันธ์การขนส่งทางบกประเทศไทย คณะกรรมการฯ ได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบและให้สมาชิกทุกคนบรรทุกน้ำหนักตามกฎหมายกำหนด  โดยให้ปฎิเสธลูกค้าที่ยื่นข้อเสนอให้บรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมาย เพื่อให้ลูกค้าทุกคนต้องว่าจ้างและกำหนดจำนวนเที่ยวรถที่เหมาะสมสอดคล้องกับปริมาณสินค้าและน้ำหนักในการขนส่งแต่ละครั้ง เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายมีผลจริงจัง และการขนส่งฯ กลับมาเข้าสู่ระบบโดยถูกต้อง โดยย้ำว่าผู้ประกอบการขนส่งไม่จำเป็นต้องแบกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายเพื่อใคร. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน