“บิ๊กโจ๊ก” นำร่องตั้งด่านตรวจรถบรรทุกน้ำหนักเกินใน กทม.

กรุงเทพฯ 15 พ.ย. – “บิ๊กโจ๊ก” นำร่องตั้งด่านตรวจรถบรรทุกน้ำหนักเกินในพื้นที่ กทม. กำชับตำรวจท้องที่กวดขันเวลาเร่งด่วนห้ามรถบรรทุกวิ่งเด็ดขาด พร้อมผลักดันพัฒนาแอปพลิเคชันรับแจ้งพบผู้กระทำผิดจราจรและเหตุฉุกเฉิน ให้ทันภายในเดือนนี้


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยกำลังตำรวจ บก.น.5 กทม. และกรมทางหลวง ร่วมบูรณาการตั้งจุดสุ่มตรวจชั่งน้ำหนักรถบรรทุก เพื่อป้องกันรถบรรทุกเกินพิกัดในเขตเมือง ที่บริเวณถนนสาทรใต้ ฝั่งตรงข้ามกับ บก.น.5 มุ่งหน้าไปสี่แยกสาทร-นราธิวาส โดยมีการใช้พื้นที่ 1 ช่องทางการจราจร ในการตั้งด่านสกัด เพื่อเรียกรถบรรทุกเกินพิกัดเข้ามาชั่งน้ำหนัก รวมทั้งมีการติดตั้งเครื่องชั่งน้ำหนักรถบรรทุกแบบเคลื่อนย้ายมาตรฐานของกรมทางหลวงเอาไว้เป็นการเฉพาะบนถนน ซึ่งเป็นไปตามมาตรการควบคุมเฝ้าระวังรถบรรทุกเกินพิกัดเข้ามาในกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ได้มีการสุ่มตรวจรถบรรทุก 6 ล้อ ขนส่งเข้ามาตรวจชั่งน้ำหนัก ซึ่งไม่พบว่ามีน้ำหนักเกินพิกัดตามกฎหมายแต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ปล่อยรถบรรทุกดังกล่าวออกไป

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และสืบเนื่องจากเหตุถนนทรุดที่พระโขนง ซึ่งสาเหตุหลักมาจากรถบรรทุกเกินพิกัด เรื่องนี้ตนในฐานะที่ดูแลงานด้านจราจร จึงได้เข้ามากำชับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับรถบรรทุกเกินพิกัด โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งยอมรับว่าที่ผ่านมา ตำรวจนครบาลไม่ได้มีการจับกุมรถบรรทุกเกินพิกัด เนื่องจากไม่มีอุปกรณ์เครื่องชั่งน้ำหนักเหมือนในต่างจังหวัดที่จะมีสถานีชั่งน้ำหนัก


ในเรื่องนี้จึงได้มีการประสานขอความร่วมมือไปยังกรุงเทพมหานครและกรมทางหลวง ในการจัดซื้อเครื่องชั่งน้ำหนักไว้ในแต่ละท้องที่ และจะกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรแต่ละท้องที่เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรา และสกัดทั้งรถบรรทุกเกินพิกัด และรถบรรทุกที่วิ่งในเวลาที่ห้ามวิ่ง เพื่อช่วยบรรเทาการจราจร ซึ่งในวันนี้เป็นการทดลองมาตรการการตั้งจุดตรวจสกัดรถบรรทุกเกินพิกัด โดยนำร่องที่ถนนสาทร เป็นจุดแรก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีโครงการก่อสร้างเป็นจำนวนมาก โดยผลการปฏิบัติงานในวันนี้ จากที่มีการตรวจรถบรรทุก 2 คัน ไม่พบว่ารถทั้ง 2 คัน มีน้ำหนักเกินพิกัดแต่อย่างใด หลังจากนี้จะให้แต่ละท้องที่ตั้งจุดสุ่มตรวจในลักษณะนี้ตามจุดต่าง ๆ ที่คาดว่ามีโครงการก่อสร้าง ซึ่งจุดมุ่งหมายหลักมิใช่เพื่อเป็นการดักจับรถบรรทุก แต่เป็นการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการรถบรรทุกในพื้นที่ ตระหนักเรื่องของการระวังไม่ให้บรรทุกน้ำหนักเกินพิกัด ซึ่งตั้งเป้าว่าจะดำเนินการตั้งจุดตรวจตามจุดที่มีพื้นที่ก่อสร้างต่าง ๆ ทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 วัน รวมทั้งได้ขอความร่วมมือไปยังบรรดาผู้ประกอบการรถบรรทุกและผู้จัดการโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ให้ช่วยกันตรวจตราและสกัดบรรดารถบรรทุกที่อาจจะมีการบรรทุกเกินพิกัด ซึ่งหากมีการแก้ไขปัญหาร่วมกันกับภาคเอกชน เชื่อว่าปัญหารถบรรทุกเกินพิกัดก็จะสามารถบรรเทาลงไปได้ และจะช่วยให้การจราจรในกรุงเทพฯ ดีขึ้น เพราะหากพบว่ารถบรรทุกเกินพิกัด นอกจากคนขับรถจะมีความผิดแล้ว เจ้าของรถก็ย่อมมีความผิดด้วย และหากโครงการก่อสร้างมีส่วนรู้เห็น ก็จะต้องมีส่วนรับผิดเช่นเดียวกัน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวอีกว่า ภายในสิ้นปีนี้จะพัฒนาระบบ Application สำหรับแจ้งปัญหาการจราจรหรืออุบัติเหตุต่าง ๆ บนท้องถนน ซึ่งจะเป็นการแจ้งมายังตนโดยตรง และตนจะดำเนินการสั่งการไปยังท้องที่ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาตามที่ประชาชนร้องเรียน ซึ่งสามารถแจ้งได้ทั่วประเทศตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนปัญหาการจราจรอื่น ๆ เช่น เรื่องรถจอดกีดขวางการจราจร เรื่องนี้ตนได้สั่งการไปยังแต่ละท้องที่ให้เข้มงวดตรวจตราและเพิ่มการเฝ้าระวังให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเคารพกฎจราจรมากขึ้น

ทั้งนี้ ในประเด็นเรื่องของสติกเกอร์รถบรรทุกที่พระโขนง ซึ่งผลตรวจของตำรวจระบุว่า ไม่ใช่สติกเกอร์ส่วย แต่สมาคมรถบรรทุกระบุว่า นี่คือสติกเกอร์ส่วย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้มีอำนาจดูเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องของคณะกรรมการที่ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติดำเนินการแต่งตั้งตรวจสอบ. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

หาชมยาก เปิดสะพานกรุงเทพให้เรือผ่าน แห่งเดียวในไทย

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – เป็นอีกครั้งที่สะพานกรุงเทพ ยกขึ้นเพื่อให้เรือผ่าน ปัจจุบันเป็นสะพานแห่งเดียวในไทยที่ยังคงใช้งานเปิด-ปิดได้ โดยเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สำคัญตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบันมีเรือที่ผ่านน้อยลง ทำให้การยกเปิดแต่ละครั้งได้รับความสนใจ เพราะเป็นภาพที่หาชมได้ไม่บ่อย.-สำนักข่าวไทย

“ฮุน มาเนต” ระงับนําเข้าน้ำมัน-ก๊าซจากไทย

กัมพูชา 22 มิ.ย. – “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศระงับนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง-ก๊าซทุกชนิดจากไทย เริ่มเที่ยงคืนนี้ มั่นใจบริษัทในกัมพูชาหาเชื้อเพลิงจากแหล่งอื่นให้ประชาชนได้เพียงพอ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊ก Hun Manet ระบุว่า บริษัทจัดจําหน่ายน้ำมันในประเทศกัมพูชามีความสามารถในการนําเข้าเชื้อเพลิงและก๊าซจากแหล่งอื่น เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการบริโภคภายในประเทศของประชาชน แม้จะเป็นเดือน แม้ตลอดไปก็ไม่ใช่ปัญหา เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนนี้ (22 มิ.ย.68) การนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซทั้งหมดจากประเทศไทยจะถูกหยุด.-สำนักข่าวไทย

กองกำลังบูรพาเข้มจุดตรวจ นำสุนัข K9 ร่วมลาดตระเวน

22 มิ.ย. – กองกำลังบูรพาเข้มจุดตรวจตลอดแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว นำสุนัข K9 ร่วมลาดตระเวน ป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนด่านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยากาศเงียบเหงา หลังชาวกัมพูชาปิดร้านขนของกลับประเทศ ที่ จ.สระแก้ว ตลอดแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติ บริเวณจุดตรวจ ค.04 อ.คลองหาด มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง กองกำลังบูรพา และกองร้อยทหารพราน พร้อมสุนัข K9 ยังคงเดินหน้าควบคุมพื้นที่อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อาจจะพากันทะลักเข้า-ออก หลังจากที่มีคำสั่งห้ามนักท่องเที่ยวและนักพนันข้ามไปยังประเทศกัมพูชา ซึ่งจุดนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่เสี่ยงที่มีการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่เดินเท้าลาดตระเวนตลอดแนวชายแดนกว่า 100 กิโลเมตร เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ บรรยากาศชายแดนหาดเล็กเงียบเหงาด้านบริเวณชายแดนด่านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา หลังชาวกัมพูชาปิดร้านขนของกลับประเทศ มีเพียงรถบรรทุกสินค้าทั่วไปรอคิวผ่านแดนข้ามฝั่งไปประเทศกัมพูชา เจ้าของร้านค้าในพื้นที่ เล่าว่า บรรยากาศเงียบเหงามาก วันๆ แทบไม่มีคนซื้อของ ถ้าถามความรู้สึกว่าเดือดร้อนไหม บอกเลยว่ายอมเดือดร้อนดีกว่าเสียดินแดนซ้ำอีก ถ้าจะปิดด่านก็ปิดได้เลย เอาดินแดนไว้ก่อนดีกว่า ส่วนบริเวณด่านถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายประสิทธิ์ ดีจงเจริญ นายด่านศุลกากรช่องสะงำ […]

“แพทองธาร” โพสต์พรรคร่วมฯ มีมติหนุนรัฐบาล ร่วมสร้างเสถียรภาพการเมือง

โรงแรมโรสวูด 22 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์พรรคร่วมรัฐบาลมีมติหนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ชี้ ความเป็นหนึ่งเดียว ช่วยก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหว เดินหน้ารับมือภัยคุกคามและความมั่นคง ภายหลัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญพรรคร่วมรัฐบาล หารือ ปรับคณะรัฐมนตรี แทนตำแหน่งที่ว่าง 8 ตำแหน่ง หลังภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 1 ชั่วโมง ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. รถบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและเลขาธิการพรรคได้เดินทางออกจากโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ขณะที่ นายกรัฐมนตรีได้ ยังอยู่ภายในโรงแรม ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี จะโพสต์ภาพถ่ายผ่านโซเชียลร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมระบุข้อความว่า “ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า สามัคคีประเทศไทย รวมพลังผลักดันนโยบาย แก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่าน ที่มีมติและประกาศแนวทางสนับสนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อรับมือต่อภัยคุกคามความมั่นคงของชาติจากภายนอก และขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกับกองทัพมีจุดยืนร่วมกัน ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและรวมพลังสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียวของพรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการผนึกกำลังกันของคนไทย ก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหวนี้ด้วยความมั่นคง และประสบผลสำเร็จในการปกป้องอธิปไตย ธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศชาติและประชาชน ดิฉันเชื่อมั่นว่าไม่มีภัยคุกคามใดจะเหนือกว่าพลังสามัคคีของคนไทย […]