กรุงเทพฯ 10 พ.ย. – “ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” นำเจ้าหน้าที่ กทม. ร่วมกับกรมทางหลวง ลุยจับรถบรรทุกน้ำหนักเกินวิ่งกลางคืน ยึดสิบล้อ 2 คัน คุมตัวคนขับพร้อมรถบรรทุก ส่งดำเนินคดี
เจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง พร้อมด้วยตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจนครบาล 5 และสภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ วสท. ร่วมกันเปิดฝาบ่อและสูบน้ำออกให้หมด ก่อนใช้รถเครนดึงซากคานเหล็กที่หักออกมา เพื่อนำไปคำนวณตรวจสอบว่าสามารถรองรับน้ำหนักรถบรรทุกได้กี่กิโลกรัม โดยชุดปฏิบัติการได้ปิดถนนตั้งเเต่เวลา 23.00 น.
หลังจากนี้จะส่งมอบคานเหล็กให้ วสท. ดำเนินการคำนวณจากความสูง ความยาว ข้อมูลทางกายภาพ และปัจจัยต่างๆ นำไปประมวลผลคำนวณย้อนกลับ รวมทั้งฝาบ่อที่ใช้ปิด ส่วนเหตุผลที่ชุดปฏิบัติการไม่เข้ามากู้ซากคานเหล็กตั้งแต่แรก เนื่องจากต้องการคืนผิวจราจรให้ประชาชนสัญจรได้ตามปกติก่อน
ด้านพันตำรวจเอก วิทวัฒน์ ชินคำ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เชิญชุดปฏิบัติการเข้ามาร่วมกู้คานเหล็ก เพื่อเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติม รวมทั้งที่มีภาพคนงานของบริษัทรถบรรทุกแอบถ่ายเทน้ำมันออก อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน หากว่ามีความผิดจะแจ้งข้อกล่าวหาในภายหลัง
ขณะที่กลางดึกที่ผ่านมา (10 พ.ย.) กรุงเทพมหานคร ร่วมกับกรมทางหลวง สนธิกำลังตรวจสอบรถบรรทุกน้ำหนักเกิน บริเวณถนนเทพรักษ์ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน พบรถบรรทุกสิบล้อ 2 คัน ต้องสงสัย คันแรกเป็นรถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียนสมุทรปราการ มีนายประพันธ์ อายุ 56 ปี เป็นคนขับ และคันที่ 2 รถบรรทุกฮีโน่ สีขาว ทะเบียนสมุทรปราการ มีนายสังวาลย์ อายุ 59 ปี เป็นคนขับ
จากการชั่งน้ำหนักพบว่าทั้ง 2 คัน บรรทุกดินน้ำหนักเกิน โดยมีดินเต็มรถ คันแรกน้ำหนัก 34 ตัน และคันที่ 2 น้ำหนัก 28 ตัน จากการสอบถามทั้งสองคนขับรถมาจากไซต์งานก่อสร้างในกรุงเทพฯ เพื่อนำไปถมที่ดินในไซต์งานก่อสร้างย่านปริมณฑล จึงคุมตัวคนขับรถทั้งสองคน และของกลางรถบรรทุก ส่ง สน.บางเขน เพื่อดำเนินคดี
ต่อมาเวลาเที่ยงคืนเศษ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. มาตรวจสอบการจับกุมรถบรรทุกดินทั้ง 2 คัน การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นการทำงานแบบไร้รอยต่อ สนธิกำลังร่วมกัน ซึ่งคนขับรถบรรทุกมีความผิดตาม พ.ร.บ.ทางหลวง มาตรา 61 บรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด มีโทษปรับ 1,000 บาท โดยต้องยึดรถไว้ก่อน ต่อไปอาจต้องเพิ่มโทษถึงเจ้าของรถบรรทุกด้วย.-สำนักข่าวไทย