กรุงเทพฯ 27 ธ.ค. – อีกไม่กี่วันก็จะปีใหม่แล้ว คุณผู้ชมหาซื้อของขวัญให้ตัวเองหรือคนที่รักหรือยัง มาดูกันว่า เทรนด์ของสินค้าเทคโนโลยีที่มาแรงในปีใหม่นี้คืออะไร
Gadgets สำหรับสวมใส่ที่ให้ข้อมูลด้านสุขภาพขณะออกกำลังกาย คือ สินค้าเทคโนโลยียอดฮิตที่คนอเมริกันนิยมซื้อให้กันเป็นของขวัญปีใหม่ปีนี้
ผลสำรวจข้อมูลการตลาดพบว่า อุปกรณ์เทคโนโลยีจะมีมูลค่าตลาดทั่วโลกสูงแตะระดับ 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2020 หรืออีก 4 ปีข้างหน้า และอุปกรณ์ไร้สายประเภทสวมใส่ เช่น สายรัดข้อมือ (Wristband) และนาฬิกาข้อมือแบบ Smart Watch ที่ใช้งานได้เหมือน Smart Phone ซึ่งบันทึกข้อมูลด้านสุขภาพขณะออกกำลังกาย คือ สินค้าที่กำลังมาแรงที่สุดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2
อุปกรณ์ไฮเทคประเภทสวมใส่นี้ ช่วยให้ผู้ใช้ทราบถึงข้อมูลส่วนบุคคล เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ ระยะทางหรือเส้นทางที่เราวิ่ง หรือขี่จักรยานในแต่ละวัน และช่วยให้เรากำหนดไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้ง่ายขึ้น
ร้านขายสินค้าเทคโนโลยี ชื่อ Target ในย่าน West Hollywood ที่ California บอกว่า มีลูกค้าทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็ก ผู้ใหญ่ จนถึงวัยรุ่นคุณพ่อคุณแม่ ส่วนยี่ห้อสินค้าก็มีหลากหลาย ทั้งค่าย Fitbit, Garmin, Samsung และ Apple ซึ่งปีนี้นาฬิกาข้อมือ Apple Watch Series 2 รุ่นขายดี ราคาเริ่มต้นที่เกือบ 370 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 13,000 บาท
ส่วนของ Fitbit ก็มีให้เลือกหลายรุ่น ทั้งแบบที่บันทึกข้อมูลการเผาผลาญพลังงาน รวมถึงรูปแบบการนอนหลับว่าสนิทนิทราแค่ไหน ราคาเริ่มต้นที่เกือบ 130-200 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4,550-7,000 บาท
ที่ย่อมเยาลงมาหน่อย เป็นของยี่ห้อ Garmin เริ่มต้นที่ประมาณ 80 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2,800 บาทเท่านั้น
อุปกรณ์สวมใส่ข้อมือแบบนี้ ถือเป็นพัฒนาการที่ต่อยอดมาจาก Smart Phone ทำให้เราสามารถเช็กอีเมล ส่งข้อความ รวมถึงรับโทรศัพท์ได้สะดวกง่ายดายมากขึ้น แม้ขณะกำลังวิ่งออกกำลังกาย หรืออยู่ในฟิตเนส โดยไม่ต้องล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋า
ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงธุรกิจ ระบุว่า ในไตรมาส 3 ของปี 2016 ตลาดอุปกรณ์สวมข้อมือเติบโตขึ้น 3.1% ซึ่งเป็นอัตราเติบโตสูงสุดในบรรดากลุ่มสินค้าสำหรับการออกกำลังกาย โดยยี่ห้อที่ได้รับความนิยมมากจะต้องตอบโจทย์การใช้งานที่สะดวกง่ายดาย และราคาไม่แพงเกินไป นอกจากนี้ ยังต้องออกแบบให้ดูดี สีสวย และสวมใส่เข้ากับชุดออกกำลังกาย
คาดกันว่าในอนาคต อุปกรณ์สวมใส่ข้อมือจะยังคงเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีต่อไปไม่หยุดยั้ง โดยน่าจะสามารถเชื่อมต่อข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้แม้ขณะที่เรากำลังนอนหลับ รวมถึงสามารถบันทึกข้อมูลด้านโภชนาการ โรคภัยไข้เจ็บเรื้อรัง รวมถึงความร้อนแรงของแสงอาทิตย์ได้ เป็นต้น. – สำนักข่าวไทย