กรุงเทพฯ 15 ส.ค.-KKP ชี้ภาษี 19% เป็นข่าวดีระยะสั้น แต่ระยะยาวโลกการค้าเสรีกำลังหมดอายุ ต้องใช้จุดอับเป็นโอกาสปรับโครงสร้าง คาด GDP ปีนี้ยังโตใกล้เคียงคาดการณ์เดิมที่ 1.6% คาด กนง.อาจลดดอกเบี้ยแตะระดับ 1% ในไตรมาส 1/69 หากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กระทบความมั่นใจนักลงทุน
ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) ประเมินเศรษฐกิจครึ่งหลังปี 2568 มีแนวโน้มชะลอตัวลงและยังมีความเสี่ยงด้านต่ำ แม้เศรษฐกิจเติบโตได้ดีกว่าคาดในช่วงครึ่งแรกของปีจากปัจจัยชั่วคราว โดยเฉพาะการเร่งส่งออกไปสหรัฐฯ ก่อนที่นโยบายภาษีนำเข้าจะมีผลบังคับใช้ ในขณะที่ภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่องจากปัญหาด้านความปลอดภัยของการท่องเที่ยวในไทย
ซึ่ง 2 ส่วนนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แต่การที่ไทยได้อัตราภาษี 19% น่าจะเป็นข่าวดีแค่ระยะสั้น เพราะหลังภาษีที่มีผลในเดือนสิงหาคม การส่งออกในครึ่งปีหลังน่าจะชะลอลง ดังนั้น รัฐบาลอาจต้องมีมาตรการมาดูแลผลกระทบ และใช้โอกาสนี้ในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจและการลงทุนของไทย โดยอาจเน้นไปที่การดึงเงินลงทุนโดยตรง ธุรกิจอาหาร เฮลธ์แคร์ และการท่องเที่ยวที่ยังน่าจะดี
หากพิจารณาจากข้อมูลเบื้องต้น ผลกระทบภาษีการค้าสหรัฐน่าจะมีใน 3 ส่วน คือ สินค้าทั่วไปที่จะถูกเรียกเก็บภาษี 19% จากที่ไม่เคยเสียภาษี, สินค้าที่นำเข้ามูลค่าต่ำที่พึ่งวัตถุดิบจากจีน อาจถูกเก็บภาษีสูงขึ้น และสินค้าสวมสิทธิ์ (transshipment) ที่อาจถูกเก็บอัตราภาษีนำเข้าสูงถึง 40% โดยมีข้อมูลสะท้อนว่า สินค้าส่งออกของไทยไปสหรัฐฯ จำนวนมากมีการสร้างมูลค่าเพิ่มในภาคการผลิตค่อนข้างต่ำ และอาจส่งผลให้มีความเสี่ยงที่สินค้าจำนวนมากจะถูกคิดภาษีถึง 40%
เบื้องต้นยังประเมิน GDP ของไทยปีนี้จะขยายตัวใกล้เคียงเดิมที่คาดไว้ 1.6% โดยภาษีสหรัฐจะกระทบ GDP ทั้งปีราว 0.3-09% และในกรณีที่หากสหรัฐฯ ยกเลิกรายการสินค้าที่ได้รับการยกเว้นจะทำให้ผลกระทบสูงขึ้นเป็น 0.7 – 1.1% และคาดว่าการส่งออกจะหดตัวลงแรง หลังจากเร่งส่งออกก่อนมาตรการมีผลบังคับใช้หลังเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตาม หากสภาพัฒน์ฯ รายงาน GDP ไตรมาส 2 ปีนี้ ออกมาดีในระดับ 3% ทาง KKP น่าจะมีการปรับเพิ่มประมาณการ GDP ปีนี้ โดย KKP คาด GDP ไตรมาส 2 ปีนี้ไว้ที่ 2.2%
ขณะที่การลดดอกเบี้ยของ กนง. ส่งผ่านนโยบายเต็มที่ถึงแบงก์พาณิชย์ลดดอกเบี้ยเงินกู้ มองว่าจะช่วยลดต้นทุนธุรกิจ เป็นผลดีกับธุรกิจซื้อขายบ้านและรถ ที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น ประเมินมีความเป็นไปได้ที่ กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงไปถึงระดับ 1% ภายในไตรมาส 1 ปี 2568
ส่วนปัญหาสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา มองว่าจะส่งผลกระทบในระยะสั้น แต่หากยืดเยื้อก็จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน.-516.-สำนักข่าวไทย