กรุงเทพฯ 17 มี.ค. – ก.อุตฯ ระบุ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกจะทำให้เกิดการลงทุนครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปี วงเงินลงทุน 5 ปีแรก 1.5 ล้านล้านบาท
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในการสัมมนา “อนาคตลงทุน เพิ่มขีดแข่งขันไทย” EEC STRATEGY THAILAND’S COMPETTIVE TRANSFORMATION ว่า EEC หรือโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก บนพื้นที่ จังหวัดชะเชิงเทรา ชลบุรี และจังหวัดระยอง โดยระบุว่า โครงการนี้จะเป็น springboard สำหรับการลงทุนครั้งใหญ่เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย สู่ประเทศไทย 4.0 ที่มีขนาดการลงทุนและระยะเวลา ที่ไม่ได้เกิดขึ้นมาในประเทศไทยเป็นเวลานานถึงกว่า 30 ปีที่แล้ว ถ้าทำได้ภายใน 5 ปีจะเกิดการลงทุนในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 1.5 ล้านล้านบาท ใน 5 โครงการหลักที่จะเริ่มในปีนี้ ได้แก่ มหานครแห่งการบินภาคตะวันออก(อู่ตะเภา) รถไฟความเร็วสูง ประตูตะวันออกสู่เอเซีย ผู้นำอุตสาหกรรมเป้าหมาย และตะวันออกเมืองแห่งอนาคต โดยเป็นการขับเคลื่อนตามแนวประชารัฐที่เป็นความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยการลงทุนร้อยละ 80 เป็นการลงทุนโดยภาคเอกชน ส่วนอีกร้อยละ 20 เป็นการลงทุนโดยภาครัฐ โดยในวันที่ 5 เมษายนนี้ คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานจะประชุนในพื้นที่ เพื่อพิจารณาภาพรวมโครงการ
ทั้งนี้ EEC จะเน้นการพัฒนาใน 4 ด้านหลักได้แก่ โครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมเป้าหมาย การท่องเที่ยว และเมืองใหม่และชุมชน ผ่านโครงกรลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ที่ใช้เทคโนโลยระดับสูง โดยสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจแบบมีส่วนร่วมใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย สำหรับอุตสาหกรมที่จะเข้ามาลงทุนได้แก่ ยานยนต์แห่งอนาคตหรือ (EV/AV) อุตสาหกรรมการบิน หุ่นยนต์ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ปิโตรเลียมและเคมีชีวภาพขั้นสูง การแพทย์ครบวงจร การท่องเที่ยว เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการตั้ง EECi เป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรม และEECd โครงการ Digital Park Thailand ที่ศรีราชาที่เป็นการเชื่อมโยงด้านการสารสนเทศและการสื่อสาร โดยมีต่างชาติเข้ามาร่วมลงทุน-สำนักข่าวไทย