ม.หอการค้าไทยคาดส่งออกปีนี้ขยายตัวร้อยละ 1.3-4.2

ราชบพิธ  11 ม.ค. –  มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยคาดส่งออกปีนี้ขยายตัวร้อยละ 1.3-4.2  ปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว  เงินบาทอ่อนค่า และราคาน้ำมันปรับขึ้น  ส่วนปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจจีนชะลอตัว และนโยบายกีดกันการค้าของทรัมป์ ประเมินผลกระทบน้ำท่วม 15,000-20,000 ล้านบาท


นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการ ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ  มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ทิศทางการส่งออกปี 2560 เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่องเป็นปีที่  2 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 1.3-4.2 หรือเฉลี่ยประมาณร้อยละ 2.8  มูลค่าส่งออก 218,403-224,635 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  หรือเฉลี่ยประมาณ 221,583 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  คาดว่าจะขยายตัวได้ดีในตลาดสหรัฐ  ญี่ปุ่น  ซึ่งญี่ปุ่นคาดว่าจะขยายตัวมากสุดในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่ปี 2555  อาเซียน รวมถึงตะวันออกกลาง

สำหรับโอกาสการส่งออกปี 2560 มีปัจัยจัยสนับสนุนจากการที่หลายสำนักคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัว การอ่อนลงของค่าเงินบาท ส่งผลให้ไทยมีความได้เปรียบด้านราคาส่งออกมากขึ้น คาดว่าค่าเงินจะแกว่งตัวประมาณ 36-37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ  หากนายโดนัล ทรัมป์ ใช้นโยบายเงินดอลลาร์อ่อนค่าเงินบาทอาจจะแตะระดับ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินในภูมิภาคเอเชียมีทิศทางอ่อนค่าลง  ส่วนหยวนก็อ่อนค่าลงจากปัจจัยเงินทุนไหลออก  นอกจากนี้ ราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น  แต่ยังคงอยู่ระดับต่ำ ส่งผลให้ไทยส่งออกไปประเทศส่งออกน้ำมันมากขึ้น  รวมถึงราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลดีต่อสินค้าเกษตรไทย คาดว่าส่งออกข้าวจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากผลผลิตที่เพิ่มขึ้นและสตอกข้าว คาดส่งออกไปจีนมากขึ้นตามสัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจี  คาดว่าจีนและฟิลิปปินส์จะนำเข้าข้าวไทยมากขึ้น


นอกจากนี้  การค้าชายแดนและผ่านแดนรวมมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง  คาดว่าการส่งออกของการค้าชายแดนปี 2560 จะขยายตัวร้อยละ 3.6  หรือคิดเป็นมูลค่าส่งออกประมาณ 17,858 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถ้านับรวมการส่งออกชายแดนและผ่านแดนรวมคาดว่าขยายตัวร้อยละ 3.9  มูลค่า  20,305  ล้านดอลลาร์สหรัฐ  สินค้าดาวเด่นของการค้าชายแดนส่งไปมาเลเซีย คือ ยางพารา  คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ไม้แปรรูป  สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร รถยนต์และอุปกรณ์  ขณะที่เมียนมาร์ ลาว และกัมพูชา สินค้าได้รับความนิยม คือ เครื่องอุปโภคบริโภคโดยเฉพาะเครื่องดื่ม  ยานยนต์ วัสดุก่อสร้าง และเครื่องสำอาง  ทั้งนี้ ตลาดการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านคู่ค้าอันดับแรก คือ มาเลเซีย รองลงมาลาว  กัมพูชา และเมียนมาร์

ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงของการส่งออก คือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน  ไทยส่งออกไปจีนหดตัวต่อเนื่องติดต่อกัน 4 ปี  ตั้งแต่ปี 2557 สินค้าได้รับผลกระทบ คือ ยางพาราและผลิตภัณฑ์   การกีดกันทางการค้าของนายโดนัล ทรัมป์  ส่งผลทางตรงไทยมีโอกาสทำตลาดในสหรัฐมากขึ้นกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร และยางพารา  ทางอ้อม คือ  ไทยส่งออกไปตลาดจีนลดลง ในกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องจักร ขณะที่สินค้าจีนก็ทะลักเข้าไทยด้วยเช่นกัน  นอกจากนี้  ยังมีความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจยุโรป  และการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเฉลี่ย 5-10 บาท  ไม่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตและการดำเนินธุรกิจมาก เพราะเพิ่มเพียงร้อยละ 2 เฉลี่ย 7 บาทต่อวัน  แตกต่างจากปี 2556 ที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 40 ในอัตรา 300 บาททั่วประเทศ  แต่ยอมรับว่าอาจกระทบอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเป็นหลักบ้าง

นายอัทธ์ ประเมินผลกระทบเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ประมาณ  15,000-20,000 ล้านบาท ผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ เกษตรกร  นักท่องเที่ยว  โรงงาน  และภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ  สินค้าได้รับผลกระทบ คือ ยางพารา  บางพื้นที่น้ำเริ่มลด แต่ยังห่วงพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพราะน้ำยังสูง  คาดว่าภายใน 1-2 เดือน สถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายและเข้าสู่ภาวะปกติ  ทั้งนี้  ต้องเร่งฟื้นฟูความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ เนื่องจากไม่มีสินค้าอุปโภคบริโภคน้ำดื่ม  ภาคเกษตร  ถนน สินค้าและบริการ  ขณะที่ภาคท่องเที่ยวต้องเร่งฟื้นฟูให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ  มั่นใจไม่กระทบการขยายตัวของจีดีพี  ซึ่งมีมูลค่า  13-14  ล้านล้านบาทต่อปี  อยากให้รัฐบาลพิจารณามาตรการบริหารจัดการน้ำ เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาน้ำท่วมระยะยาวอย่างยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมตัวเมืองน่าน-เขตเศรษฐกิจขยายวงกว้าง

น่าน 23 ก.ค. – ตอนนี้น้ำท่วมตัวเมืองน่าน รวมทั้งเขตเศรษฐกิจ ยังเพิ่มสูงขึ้นและแผ่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ หลังระดับน้ำท่วมสูงเกิน 9 เมตร และทะลักเข้าท่วม .-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

ตอบโต้เขมร! ปิด 4 ด่าน หลังทหารเหยียบกับระเบิดขาขาดอีก 1 ราย

23 ก.ค.- ศบ.ทก. เห็นชอบให้ทัพภาค 2 ปิดด่านชายแดน-สถานที่ท่องเที่ยว 4 จังหวัดอีสานใต้ ตั้งแต่พรุ่งนี้ (24 ก.ค.) หลังล่าสุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดอีกราย จากกระแสข่าวมีทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดบริเวณแนวชายแดนไทยกัมพูชาเมื่อเวลา 16.55 น. นั้น ล่าสุด แหล่งข่าวจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงโดยกองทัพภาคที่ 2 ได้ปรึกษามาที่ ศบ.ทก. เพื่อขออนุญาตปิดด่านในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวชายแดน เพื่อเป็นการประท้วงกัมพูชา จากการลักลอบวางทุ่นระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่ง ศบ.ทก. เห็นชอบ ขณะเดียวกันจะส่งหนังสือประท้วงโดยใช้กลไก RBC และรายงานกระทรวงต่างประเทศ เพื่อประท้วงต่อไป ดังนั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) จะปิดด่านชายแดนทั้งหมดในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้ของไทย หลังจากที่ฝั่งไทยมีการกำหนดเวลาเปิด-ปิด และในส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง 3 ปราสาท คือ ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย […]

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย