กรุงเทพฯ 16 ม.ค. – รองนายกรัฐมนตรีประชุมแผนผลักดันมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐ เสนอหลักการตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาเอสเอ็มอี 20,000 ล้านบาท ต่อ ครม.พรุ่งนี้
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำแนวทางบูรณาการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ตามแนวทางประชารัฐ ซึ่งมีหน่วยงานภาครัฐจากกระทรวงคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม และภาคธนาคาร สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ร่วมหารือ เพื่อจัดทำรายละเอียดการสนับสนุนและเงินช่วยเหลือจากกองทุนเพื่อพัฒนาเอสเอ็มอีในแนวประชารัฐให้ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ได้ย้ำถึงการขับเคลื่อนเอสเอ็มอีให้สอดคล้องกับนโนบายพัฒนากลุ่มจังหวัดของรัฐบาลที่จะต้องปรับโครงสร้างองค์กรแต่ละพื้นที่ให้มีบทบาทในการสนับสนุนเอสเอ็มอีตามกองทุนเพื่อพัฒนาเอสเอ็มอีในแนวประชารัฐ โดยไม่เน้นเพียงการปล่อยสินเชื่อเท่านั้น แต่จะต้องสร้างเศรษฐกิจบนพื้นฐานของผู้ประกอบการ เน้นกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่ทำธุรกิจ และช่วยให้อยู่รอดในวงจรธุรกิจ ขณะที่การปล่อยสินเชื่อ ต้องขยายไปสู่ธุรกิจที่เข้ามามีบทบาทกับประเทศมากขึ้นนอกเหนือจากภาคการผลิต เช่น เอสเอ็มอีในภาคเกษตรและภาคบริการที่ขยายตัวตามการท่องเที่ยว
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน โดยจะดึงเม็ดเงินจากกองทุนเพื่อพัฒนาเอสเอ็มอีในแนวทางประชารัฐ วงเงิน 20,000 ล้านบาท เน้นช่วยเหลือเอสเอ็มอี 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มเริ่มก่อตั้งกิจการ หรือผู้ประกอบการที่ยังไม่มีเงินทุน กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มที่ต้องการปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจไปสู่ยุค 4.0 และกลุ่มสุดท้าย คือ กลุ่มที่มีศักยภาพแต่เริ่มประสบปัญหาในการทำธุรกิจเป็นเป้าหมายหลักที่จะดำเนินการ ซึ่งเอสเอ็มอีที่ได้รับการช่วยเหลือจะผ่านการคัดกรองจากกลุ่มจังหวัดในรูปแบบประชารัฐ ส่วนรายละเอียดการช่วยเหลืออยู่ระหว่างหารือ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 2 สัปดาห์ และเสนอหลักการตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาเอสเอ็มอีในแนวทางประชารัฐต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (17 ม.ค.) ก่อนที่จะวางแผนงานกองทุนที่คาดว่าจะเสร็จภายใน 2 เดือน.-สำนักข่าวไทย