ทำเนียบรัฐบาล 17 ม.ค. – นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบมาตรการสนับสนุนไทยเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับโลก เนื่องจากอุตสาหกรรมอัญมณีฯ ขยายตัวและมูลค่าสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยปี 2558 มูลค่าการส่งออกถึง 371,000 ล้านบาท ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ ฮ่องกง สวิตเซอร์แลนด์ และสหรัฐ นอกจากนี้ ไทยยังเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 8 ของโลก ซึ่งการจ้างงานกว่า 900,000 คน ผู้ประกอบการกว่า 37,000 ราย ทั้งนี้ มีมาตรการยกเว้นอากรขาเข้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ 32 ประเภทย่อย มีผลบังคับภายในวันที่ 20 มกราคม 2560 เพื่อผู้ประกอบการสามารถนำเข้าสินค้าได้ทันเทศกาลตรุษจีน
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการทางภาษีกำหนดให้ผู้ประกอบการสามารถหักรายจ่ายได้ 2 เท่าของรายจ่ายประเภทเงินเดือน และค่าจ้างแรงงานที่เป็นช่างเครื่องประดับประเภทผลิตด้วยมือหรือผลิตด้วยมือร่วมกับการใช้งานเครื่องจักรที่ไม่ซับซ้อน หรือผลิตคนเดียวตลอดกระบวนการผลิต โดยให้หักรายจ่าย 2 เท่า เป็นเวลา 3 รอบ ระยะเวลาบัญชี มาตรการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ โดยกำหนดตราสัญลักษณ์กลางที่ใช้รับประกันคุณภาพและประกวดออกแบบเครื่องประดับนานาชาติ รวมทั้งมาตรการยกระดับฝีมือแรงงานในอุตสาหกรรมด้วยการจัดตั้งโรงเรียนเฉพาะทาง เพื่อส่งเสริมและพัฒนาช่างศิลป์ และพัฒนาให้เกิดทายาทช่างฝีมือเพื่ออนุรักษ์การผลิตที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย
พร้อมขยายระยะเวลามาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักรและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยสามารถขอสินเชื่อภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2560 หรือจนกว่าจะหมดวงเงิน นอกจากนี้ จัดงานด้านการตลาดเพื่อให้มีการซื้อขายอัญมณีและเครื่องประดับเพิ่มขึ้น จัดสื่อประชาสัมพันธ์ย่านการค้าที่สำคัญ เช่น สีลม เจริญกรุง จันทบุรี อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก คาดว่ามาตรการทั้งหมดรัฐบาลจะสูญเสียรายได้ประมาณ 324 ล้านบาท แต่จะทำให้ไทยมีมูลค่าส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับเพิ่มขึ้นเป็น 17,024 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2562 .-สำนักข่าวไทย