เปิดเวทีเสวนา เศรษฐกิจไทยกำลังจะดีแรงงานก็มีอนาคต

กรุงเทพฯ 18 ม.ค.-ในเวทีเสวนา “เศรษฐกิจไทยกำลังจะดี เเรงงานก็มีอนาคต” นักวิจัยเผยต้องเพิ่มเเรงงานฝีมืออีกกว่า 14 ล้านคน เเละต้องสอดคล้องกับทิศทางตลาดเเรงงานใหม่เพื่อไม่ให้อัตราคนว่างงานเพิ่มขึ้น


 

มูลนิธิพิพิธภัณฑ์เเรงงานไทย จัดเวทีสัมมนาวิชาการเศรษฐกิจกับเเรงงานปี2560  “เศรษฐกิจไทยกำลังจะดี เเรงงานก็มีอนาคต” เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเเละกำหนดทิศทางในการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลังภาครัฐมีนโยบายในการพัฒนาเศรษฐกิจเเละเเรงงานอาทิ เเผนพัฒนาเศรษฐกิจเเละสังคมเเห่งชาติฉบับที่ 12  พ.ศ.2560-2564  รวมทั้งเเผนเเม่บทด้านเเรงงานพ.ศ.2560-2564  ซึ่งนโยบายเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อเเรงงาน ทุกภาคอุตสาหกรรมได้อย่างไร


 

นายยงยุทธ เเฉล้มวงษ์ ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาเเรงงาน สถาบัน วิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย  กล่าวว่า เมื่อวิเคราะห์เศรษฐกิจปี 2560 พบว่ายังคงผันผวน จะมีเเนวโน้มการขยายตัวใกล้เคียงปี 2559 คือร้อยละ 3.2 สำหรับเศรษฐกิจไทยปีนี้ มีการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป  ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมเเละบริการที่เน้นนวัตกรรมเเละเทคโนโลยีจะเริ่มเข้ามามีบทบาทในภาคเศรษฐกิจมากขึ้น ดังนั้นจึงต้องยกระดับเเรงงานเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการเเข่งขันของประเทศ เเต่ไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ กำลังเเรงงานที่มีอยู่มีเเนวโน้มลดลงในอนาคต เเต่จำนวนเเรงงานในปีนี้เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ร้อยละ 1.14 เนื่องจากเเนวโน้มของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะเเรงงานในภาคอุตสาหกรรม

 


นายยงยุทธ กล่าวต่อว่า ด้านคุณภาพของเเรงงานมีอัตราการเติบโตต่ำ ขาดเเคลนเเรงงานในระดับล่าง(ระดับมัธยมศึกษาหรือต่ำกว่า)เป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถสร้างงานให้เเรงงานระดับอุดมศึกษาได้ ซึ่งสาเหตุหลักมาจากภาคการศึกษาไม่สามารถผลิตกำลังคนที่ตรงกับความต้องการได้ อีกทั้งเเรงงานไทยมีอายุเฉลี่ยที่สูงเป็นอันดับสองในอาเซียน ทั้งมีจำนวนเเรงงานสูงเป็นอันดับสี่ของอาเซียนเเต่ทักษะกลับต่ำกว่าประเทศสิงคโปร์เเละมาเลเซียที่มีจำนวนเเรงงานน้อยกว่า จึงเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนธุรกิจที่เน้นนวัตกรรม พัฒนาทักษะเเรงงานอย่างต่อเนื่อง ภาคการศึกษา เน้นพัฒนาด้านสะเต็มศึกษา ซึ่งจะส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของเงินเดือน

 

ทั้งนี้ ในปีนี้คาดเงินเดือนเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณร้อยละ 5.5-6 อีกทั้งให้ปฏิรูปประกันสังคมให้มีความยืดหยุ่น ปฏิรูปกฎหมายค่าจ้างขั้นต่ำ เเละกฎหมายคุ้มครองเเรงงาน ควรบังคับให้สถานประกอบกลางขนาดกลางเเละใหญ่มีโครงสร้างเงินเดือนภาคบังคับ เเละสนับสนุนให้เเรงงานสามารถทำงานได้อย่างน้อย 60 ปี เพื่อบรรเทาปัญหาเเรงงานลดลง

 

ขณะที่ความท้าทายด้านเเรงงายตามนโยบายไทยเเลนด์ 4.0 คือต้องยกระดับเเรงงานฝีมือให้ได้ร้อยละ 48 หรือมากกว่า 18 ล้านคนซึ่งปัจจุบันมีเพียง 5.47 ล้านคน เพราะหากไม่ได้รับการเพิ่มทักษะให้สอดคล้องกับทิศทางตลาดเเรงงานใหม่ในที่สุดก็จะกลายเป็นคนว่างงาน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล