กรุงเทพฯ 20 ม.ค. – นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. กล่าวว่า คืนนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของโลก คือ การสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเชื่อว่าจะมีนโยบายหลายเรื่องที่สร้างความผันผวนให้กับเศรษฐกิจโลกและตลาดเงิน ตลาดทุนมากขึ้น ซึ่งจะมีทั้งผลบวกและลบต่อเศรษฐกิจไทย โดย ธปท.จะติดตามใกล้ชิด เพื่อนำมาประเมินผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย
อย่างไรก็ตาม การที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐจะทำให้ไทยได้รับอานิสงส์จากเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีขึ้น ขณะเดียวกันยังต้องติดตามนโยบายกีดกันทางการค้า เพราะจะมีผลกระทบมาถึงประเทศคู่ค้าของไทย เนื่องจากระบบเศรษฐกิจแบบเปิด และมีผลลบการส่งออกของไทยด้วยเช่นกัน ส่วนนโยบายการลดภาษีของสหรัฐจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายในประเทศ ทำให้เกิดภาวะการขาดดุลเพิ่มขึ้น ดังนั้น การกู้ยืมจากในประเทศเพิ่มขึ้นตามไปด้วย สะท้อนได้จากอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรระยะยาวปรับขึ้น ซึ่งจะมีผลต่ออัตราดอกเบี้ยทั่วโลกและอัตราดอกเบี้ยของไทยด้วย
นายวิรไท กล่าวด้วยว่า ความไม่แน่นอนจากนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ทราบผลการเลือกตั้งสหรัฐเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เห็นได้จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นในช่วงปลายปี และกลับมาอ่อนค่าในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่ง ธปท.มีแนวทางดูแลความผันผวนที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด และสามารถดูแลไม่ให้มีความผันผวนมากจนเกินไป อย่างไรก็ตาม ย้ำว่าภาคเอกชนต้องดูแลตัวเอง บริหารและป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนด้วย .- สำนักข่าวไทย