ธปท.เปิดข้อมูลธนบัตรที่ระลึกในรัชกาลที่ ๙ อันทรงคุณค่า

กทม. 15 พ.ย.- เฟซบุ๊ก ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดรายละเอียดความหมาย-ข้อมูลของสัญลักษณ์ และภาพที่ปรากฏอยู่บนธนบัตรที่ระลึกในรัชกาลที่ 9 ทั้ง 3 ชุด ได้แก่ ธนบัตรที่ระลึก 50 ปี ครองราชย์, ธนบัตรที่ระลึก 84 พรรษา รัชกาลที่ 9 และ ธนบัตรที่ระลึก 70 ปีที่ทรงครองราชย์


► ธนบัตรที่ระลึก 50 ปี ครองราชย์

นับตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2489 ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ของปวงชนชาวไทย พระองค์ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจและที่สรรเสริญยกย่องของประชาชนทุกหมู่เหล่า ด้วยเพราะพระองค์ทรงเป็นแบบอย่างของมหาราชกษัตริย์ ซึ่งดำรงอยู่ในธรรมาภิบาล เพียบพร้อมด้วยคุณูปการและพระปรีชาสามารถ อีกทั้งยังทรงยึดถือความเป็นอยู่ที่ดีของพสกนิกรเป็นที่ตั้ง โดยทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยตลอดมา ดังนั้น ในปี 2539 แบงก์ชาติจึงได้จัดพิมพ์ธนบัตรที่ระลึกขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี และเป็นสิ่งย้ำเตือนให้ประชาชนได้ระลึกถึงพระราชกรณียกิจและพระอัจฉริยภาพของพระองค์


15036701_356706484678785_9000456387639960589_n

ธนบัตรที่ระลึกแบบพิเศษ ชนิดราคา 500 บาท เริ่มจ่ายแลกเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2539 จำนวน 1,000,000 ฉบับ ทุกฉบับมีเลข 50 นำหมวดเลขหมาย ซึ่งหมายถึง 50 ปีแห่งการครองราชย์ และเป็นธนบัตรที่มีการพิมพ์บนวัสดุพอลิเมอร์เป็นครั้งแรก

14956503_356706488012118_4114905770031869983_n


จุดที่ 5 ผนึกฟอยล์สีทองพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ ล้อมรอบด้วยพื้นที่ใสซึ่งมองทะลุผ่านได้ โดยปริมณฑลหลังพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์จะเปลี่ยนสีสะท้อนแสงวาววับเมื่อพลิกธนบัตรไปมา เรียกว่า Optically Variable Device (OVD) นับเป็นครั้งแรกที่นำมาใช้เพื่อเพิ่มความสวยงามและเป็นลักษณะพิเศษต่อต้านการปลอมแปลง ความสุกสว่างของ OVD สีทองสื่อความหมายแห่งพระราชพิธีกาญจนาภิเษก ภายในเนื้อวัสดุ มีรูปตราจักรีซ่อนอยู่ที่เบื้องขวาของพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ มองเห็นได้ทั้งสองด้านเมื่อยกธนบัตรขึ้นส่องดูกับแสงสว่าง

14991786_356706528012114_2596711527909234054_n

การดูแลทุกข์สุขของราษฎรทั่วราชอาณาจักรเป็นพระราชภาระที่สำคัญ ในการเสด็จทรงงานแต่ละครั้ง พระองค์จึงทรงใช้อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อบันทึกข้อมูลและติดตามสถานการณ์ ได้แก่ แผนที่ ดินสอ กล้องถ่ายรูป และวิทยุสื่อสาร

ทรงมีความเชื่อมั่นว่า เมื่อใดที่สามารถแก้ไขหรือบรรเทาความเดือดร้อนในเรื่องน้ำเพื่อการบริโภคและอุปโภคแล้ว เมื่อนั้นราษฎรย่อมจะมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม พระองค์จึงโปรดให้จัดตั้งโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศเกือบพันโครงการ

15037316_356706544678779_9145861408798916791_n

 จุดที่ 10 ด้วยพระองค์ทรงตระหนักถึงปัญหาความเสื่อมโทรมของผิวดิน จึงมีพระราชดำริในการใช้ประโยชน์จากหญ้าแฝก ทำให้สามารถใช้ที่ดินนั้นทำการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ได้ ทั้งยังเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำด้วย และเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2536 ธนาคารโลกได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลรากหญ้าแฝกชุบทองสำริด ซึ่งเป็นรางวัลสดุดีพระเกียรติคุณในฐานะผู้อนุรักษ์ดินและน้ำดีเด่น

จุดที่ 11 ทรงริเริ่มให้มีการพัฒนาที่ดินว่างเปล่าเพื่อจัดสรรให้แก่เกษตรกรที่ขาดแคลนที่ดินทำกิน รวมทั้งโปรดให้จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาเพื่อหาวิธีการเพาะปลูกให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ ทรงเน้นให้เพาะปลูกพืชที่เป็นที่นิยมของตลาด เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศของท้องถิ่น ควบคู่กับการเลี้ยงสัตว์เพื่อบริโภคและจำหน่ายเป็นรายได้เสริม

14991815_356706551345445_7250832093510844166_n

► ธนบัตรที่ระลึก 84 พรรษา รัชกาลที่ 9

ในปี 2554 แบงก์ชาติได้พิมพ์ธนบัตรธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ชนิดราคา 100 บาท จำนวน 9,999,999 ฉบับ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและร่วมเผยแผ่พระเกียรติคุณ พระบุญญาธิการของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช การออกแบบมีความสวยงาม โดดเด่น และมีความพิเศษแตกต่างจากธนบัตรทั่วไป คือ ขนาดธนบัตรกว้าง 84 มิลลิเมตร หมายถึงพระชนมพรรษา 84 พรรษา ยาว 162 มิลลิเมตร เมื่อบวกตัวเลขความยาวธนบัตร (1+6+2) ผลรวมจะเท่ากับ 9 หมายถึง รัชกาลที่ 9

14956636_357322134617220_555891746803973685_n

ธนบัตรด้านหน้ามีภาพประธาน เป็นพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบนลายพื้นสีเหลือบทอง ธนบัตรทุกฉบับมีเลข 9 นำหน้าหมวดอักษรไทย ธ ซึ่งหมายถึง พระมหากษัตริย์ ตามด้วยเลขหมายจำนวน 7 หลัก

15032128_357322034617230_6378561285755589618_n

14925753_357322074617226_4849392113392617067_n

จุดที่ 4 ทรงเห็นความสำคัญในการอนุรักษ์และพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของราษฎร ดังกระแสพระราชดำรัส “…หลักสำคัญว่าต้องมีน้ำบริโภค น้ำใช้ น้ำเพื่อการเพาะปลูก เพราะว่าชีวิตอยู่ที่นั่น ถ้ามีน้ำคนอยู่ได้ ถ้าไม่มีน้ำคนอยู่ไม่ได้ ไม่มีไฟฟ้าคนอยู่ได้ แต่ถ้ามีไฟฟ้าไม่มีน้ำ คนอยู่ไม่ได้…”

จุดที่ 5 ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรเพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุข ทรงพัฒนาพื้นที่บนเขาโดยเฉพาะจังหวัดเชียงราย ที่เป็นแหล่งปลูกฝิ่น ให้เป็นพื้นที่การเกษตร สนับสนุนและอบรมให้กลุ่มชาวเขาปักหลักอยู่กับที่ หยุดการทำไร่เลื่อนลอย เลิกการปลูกฝิ่น และหันมาปลูกพืชเศรษฐกิจแบบเมืองหนาวแทน

15032885_357322137950553_7370008119431432388_n

จุดที่ 6 ทรงศึกษาดนตรีมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ทั้งยังทรงเครื่องดนตรีได้หลายชนิดตั้งแต่เปียโน กีตาร์ ฟลุต ไวโอลิน ฯลฯ แต่ที่โปรดมาก คือ แซ็กโซโฟน คลาริเน็ต และทรัมเป็ต นอกจากนี้ ยังทรงพระปรีชาสามารถในการพระราชนิพนธ์ทำนอง คำร้อง เป็นบทเพลง ทรงพระราชนิพนธ์บทเพลงที่ไพเราะยิ่งกว่า 40 เพลง ด้วยพระอัจฉริยภาพด้านดนตรีอันเป็นที่ประจักษ์ สถาบันการดนตรีและศิลปะการแสดงแห่งกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย จึงได้ทูลเกล้าฯ ถวายประกาศนียบัตรเกียรติคุณชั้นสูง โดยให้ทรงดำรงตำแหน่งสมาชิกกิตติมศักดิ์ และจารึกพระปรมาภิไธยบนแผ่นหินอ่อนของสถาบัน เมื่อพุทธศักราช 2507 นับว่าทรงเป็นชาวเอเชียพระองค์แรกที่เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของสถาบันการดนตรีที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นอกจากนี้ คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้น้อมเกล้าฯ ถวายพระราชสมัญญา “อัครศิลปิน” ในฐานะที่ทรงเป็นเลิศในศิลปะทั้งปวง เมื่อพุทธศักราช 2529

15032324_357322194617214_100719107487030759_n

จุดที่ 9 ฝนหลวง เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระราชดำริขึ้น เมื่อพุทธศักราช 2498 ในขณะที่เสด็จเยี่ยมประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทรงพบเห็นความทุกข์ยากของราษฎรอันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนของฝนธรรมชาติ จึงทรงคิดวิธีการแก้ไขปัญหาด้วยการทำฝนหลวง ทรงคิดประดิษฐ์ภาพตำราฝนหลวง และเทคนิคการโจมตีเมฆแบบใหม่ที่เรียกว่า “ซูเปอร์แซนด์วิช” ซึ่งเป็นวิธีที่ทำให้เกิดฝนตกอย่างหนักและได้ปริมาณน้ำฝนมากยิ่งขึ้น และโครงการพระราชดำริฝนหลวงนี้ยังได้รับรางวัลเหรียญทองเชิดชูเกียรติ และหนังสือประกาศเกียรติคุณในฐานะเป็นโครงการดีเด่นด้านสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน จากงานแสดงนิทรรศการและการประกวดนวัตกรรมทางเทคโนโลยี Brussels Eureka 2001 ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อพุทธศักราช 2544

จุดที่ 8 โครงการเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นโครงการเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรในพื้นที่ลุ่มน้ำแควน้อยตอนล่าง จ.พิษณุโลก รวมถึงพื้นที่บางส่วนของ จ.พิจิตร ที่ต้องประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง ทั้งยังเจอปัญหาอุทกภัยรุนแรงที่สร้างความเสียหายให้พื้นที่เพาะปลูกและพื้นที่เศรษฐกิจของ จ.พิษณุโลกเป็นประจำทุกปี “เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน” เป็นชื่อพระราชทาน มีความหมายว่า เขื่อนแควน้อยที่ทำให้มีความเจริญขึ้นในเขตพื้นที่

14915276_354074158275351_4729603269369879390_n

► ธนบัตรที่ระลึก 70 ปีที่ทรงครองราชย์

แบงก์ชาติได้จัดพิมพ์ธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 ชนิดราคา 70 บาท จำนวน 20 ล้านฉบับ และจ่ายแลกในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ด้วยแนวคิดการออกแบบ “จากวันนั้น…ถึงวันนี้ 70 ปี ที่ทรงครองราชย์” เพื่อน้อมนำจิตใจของปวงชนชาวไทยให้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติเป็นอเนกประการตลอด 70 ปี ทั้งยังเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรทั่วทุกแห่งของประเทศ แม้ในถิ่นทุรกันดาร เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนและหาแนวทางในการบำบัดทุกข์บำรุงสุข จนเป็นที่ประจักษ์แก่พสกนิกรชาวไทยและทั่วโลกว่า ประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์ที่ทรงปกป้องคุ้มครองประเทศชาติและประชาชนให้ร่มเย็นเป็นสุขเสมอมา และพระองค์จะทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งแผ่นดินตราบนิรันดร์

11224681_354074144942019_2750108617262901384_n

14900539_354074171608683_5885999468251006344_n

ภาพประธานแสดงถึงความสง่างาม ความเป็นพระมหากษัตริย์ พระบุญญาบารมี และมีความใกล้เคียงกับช่วงพระชนมพรรษาในขณะนั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงยืนเบื้องหน้าพระที่นั่งภัทรบิฐ ภายใต้พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ

พระที่นั่งภัทรบิฐเป็นพระราชอาสน์ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชประทับทรงรับการถวายสิริราชสมบัติและเครื่องสิริราชกกุธภัณฑ์ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระที่นั่งไพศาลทักษิณเป็นพระที่นั่งสำคัญซึ่งใช้เป็นสถานที่ประกอบการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ภายในพระที่นั่งประดิษฐานพระราชอาสน์สำหรับการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกโดยเฉพาะ ได้แก่ พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ภายใต้สัปตปฎลเศวตฉัตร และพระที่นั่งภัทรบิฐภายใต้พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร

14908246_354074208275346_1825613972044690820_n

พระบรมสาทิสลักษณ์ที่งดงามนี้วาดขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2503-2505 จึงแสดงถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเมื่อครั้งที่ทรงเจริญ พระชนมพรรษา 33-35 พรรษา ทรงยืนเบื้องหน้าพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ พระบรมสาทิสลักษณ์นี้วาดด้วยสีน้ำมัน มีขนาด 272 X 150 เซนติเมตร ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง

พระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์เป็นพระราชอาสน์ที่พระมหากษัตริย์ประทับในงานสำคัญ เช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นต้น ทำด้วยไม้แกะสลักหุ้มทองทั้งองค์ มีรูปเทพนมและครุฑประดับ 2 ชั้น พระที่นั่งองค์นี้สามารถเชิญไปทอดบนพระแท่นราชบัลลังก์ในพระที่นั่งต่าง ๆ ได้ และยังใช้เป็นพระราชยานในการเสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนพยุหยาตราสถลมารค เรียกว่า พระที่นั่งราชยานพุดตานทอง

พระบรมสาทิสลักษณ์นี้วาดโดย ระเด่น บาซูกิ อับดุลลาห์ (Raden Basoeki Abdullah) ศิลปินชาวอินโดนีเซีย เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชสนพระราชหฤทัยในงานศิลปะสมัยใหม่ โดยเฉพาะด้านจิตรกรรม พระองค์จึงมีพระราชประสงค์ให้มีจิตรกรประจำราชสำนัก ดังนั้น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ระเด่น บาซูกิ อับดุลลาห์ เดินทางเข้ามาเป็น จิตรกรประจำราชสำนักไทย ระหว่างพุทธศักราช 2503-2513 โดยปฏิบัติงานทั้งในพระบรมมหาราชวังและพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เนื่องจากศิลปินท่านนี้มีแนวการสร้างสรรค์งานเป็นแบบแนวเหมือนจริง จึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้เขียนพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระฉายาสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศ์ไว้เป็นจำนวนมาก

14956462_354074264942007_6373347774961475000_n

อักษรพระปรมาภิไธย ภปร. สีเหลืองนวลทอง เป็นสีประจำวันพระบรมราชสมภพ ขอบริมอักษรสีทองบนพื้นสีขาบเข้ม (น้ำเงินแก่) เป็นสีประจำสถาบันพระมหากษัตริย์ ภายในกรอบลายทองปนนากมีลายเนื่องสีทองมากกว่า 70 ดวง เป็นการถวายพระพร ให้ทรงสถิตดำรงในสิริราชสมบัติมากกว่าปีที่ 70 ให้สถาพรโดยสวัสดีเป็นอเนกอนันต์ ยิ่งกว่าพระมหากษัตริย์พระองค์ใด

14937273_354074261608674_3579419225410077807_n  14956559_354074294942004_6312360593476898457_n

14963372_354074328275334_2776443145824537060_n

14956379_354074334942000_989022209625957852_n

ข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Bank of Thailand 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“เสธ.เบิร์ด” ชี้เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” ถือเป็นภัยคุกคาม

26 ก.ค.- “เสธ.เบิร์ด” ชี้ เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” วิถีไกล 130 กม. ถือเป็นภัยคุกคาม มองไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากกรณีกองทัพภาคที่ 2 เตือนเฝ้าระวังกัมพูชายิงขีปนาวุธ PHL-03 วิถีไกล 130 กม. เพื่อพุ่งเป้าหมายพื้นที่ยุทธศาสตร์และที่ตั้งทหารนั้น ล่าสุด พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวว่า การขยับขีปนาวุธ PHL-03 เป็นการขู่ และถือเป็นภัยคุกคาม ดังนั้นถ้าไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากการที่กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยใช้ปฏิบัติการทางอากาศเกินกว่าเหตุนั้น เราไม่ทำเกินกว่าเหตุ แต่สิ่งที่เราทำนี้เป็นเหตุผล เพราะฝ่ายกัมพูชา เคลื่อนกำลังจำนวนมากมาประชิดชายแดน ใช้อาวุธยิงระยะไกลทำร้ายประชาชนของไทย ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีบริการน้ำมัน ทำให้ประชาชนชาวไทยบาดเจ็บ และเสียชีวิต จากการมีภาพข่าวการเคลื่อนอาวุธยิงระยะไกล ถือว่าเป็นการข่มขู่คุกคามความมั่นคงของไทยอย่างชัดเจน ดังนั้นการปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อลดการสูญเสีย สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้การปฏิบัติการทางอากาศของไทยทำลายเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และมีความแม่นยำ -สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านลดต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย

น่าน 26 ก.ค.- สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองน่าน ลดลงต่อเนื่อง ส่วนอีกหลายจุดยังอ่วม ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย ย่านการค้าและเศรษฐกิจสำคัญของเมืองน่าน บริเวณถนนสุมณเทวราช ซึ่งเคยน้ำท่วมสูงเกือบถึงคอ แต่ตอนนี้น้ำลดลงเหลือประมาณหน้าขา เท่ากับลดไปราว 1 เมตร แต่บริเวณโดยรอบยังมีน้ำท่วมเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำ ยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจความเสียหายของโรงแรงแห่งหนึ่งกลางเมืองน่าน ซึ่งสภาพภายในเต็มไปด้วยคราบโคลน รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ที่จอดไว้เสียหายจำนวนมาก ขณะที่เจ้าของร้านค้าย่านนี้ เริ่มสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือที่โรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมสูงเต็มพื้นที่ 40 ไร่ บางจุดท่วมเกือบมิดหัว ตอนนี้น้ำลดแล้ว แต่ตามอาคารต่างๆ น้ำทะลักท่วมยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ได้รับความเสียหาย แต่ผู้ป่วยใน ราว 3 ร้อยคน ยังปลอดภัย คุณหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาด เพื่อให้โรงพยาบาลกลับมาเปิดบริการตามปกติให้เร็วที่สุด ช่วงสายที่ผ่านมา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายใจกลางเขตเศรษฐกิจเมืองน่านด้วย -สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงย้ำเวทีโลกกัมพูชาเปิดฉากโจมตีก่อน UNSC แนะเจรจาสันติวิธี

กระทรวงการต่างประเทศ 26 ก.ค.- “มาริษ” เผยเวที UNSC ให้ไทยกัมพูชายับยั้งชั่งใจ เจรจา 2 ฝ่ายสันติวิธียุติขัดแย้ง ย้ำแจงเวทีโลกแล้วกัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย-เปิดฉากโจมตีก่อน บอกสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ได้เป็นการคุกคามสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ สั่งกรมสนธิฯ พิจารณายื่นศาลอาญาโลกฟ้องเขมรฐานอาชญากรสงคราม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี ค.ศ. 2025 (High-Level Political Forum on Sustainable Development 2025) หรือ HLPF2025 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์กว่า ในห้วงการประชุมดังกล่าว ตนเองได้ใช้โอกาสนี้ พบหารือกับผู้แทนระดับสูงจากสหประชาชาติ และผู้แทนระดับสูงประเทศต่าง ๆ เพื่อชี้แจงพัฒนาการชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งตนเองได้ยืนยันให้ทุกประเทศ และผู้แทนระดับสูงของสหประชาชาติได้รับทราบมาโดยตลอดการปฏิบัติภารกิจว่า การปะทะกันเมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม ฝ่ายกัมพูชา เป็นผู้เริ่มโจมตีก่อน พร้อมแสดงความกังวล ต่อการโจมตีในสถานที่ที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร เช่น โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งสะท้อนการโจมตีพื้นที่พลเรือนไทย […]

องคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทาน ศูนย์อพยพ จ.ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 26 ก.ค.- สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนศรีสะเกษ ดุเดือดกว่าทุกวัน ขณะองคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทานแก่ประชาชนที่ศูนย์อพยพ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีเดินทางมายังที่พักอาศัยของผู้อพยพ จ.ศรีสะเกษ มอบสิ่งของพระราชทานให้กับประชาชน พร้อมแจ้งให้ทราบถึงกระแสความห่วงใย หลังทราบข่าวประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทรงมีความห่วงใยประชาชนและไม่ประสงค์ที่จะเห็นมีการบาดเจ็บล้มตายเพิ่มอีก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่เรียบร้อย ขอให้ประชาชนอยู่ในพื้นที่อพยพไปอีกสักระยะ ขณะเดียวกัน พยาบาลจากคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ให้บริการตรวจดูแลสุขภาพเบื้องต้นและปฏิบัติการทางจิตรฉรีญาพร้อมมอบสิ่งของให้กับผู้อพยพหลังต้องจากบ้านมาวันนี้เป็นวันที่ 3 แล้ว ซึ่งตามหลักบางรายอาจเกิดความเครียดสะสมขึ้นได้ ปกติแล้วบริเวณศูนย์อพยพแห่งนี้ซึ่งห่างจากชายแดนประมาณ 40 กิโลเมตร จะไม่ได้ยินเสียงปืนใหญ่ แต่วันนี้แม้จะอยู่ที่ศูนย์อพยพก็สามารถได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้น ไม่น้อยกว่า 9 นัดแล้วในขณะนี้ -สำนักข่าวไทย