ธปท.เปิดข้อมูลธนบัตรที่ระลึกในรัชกาลที่ ๙ อันทรงคุณค่า

กทม. 15 พ.ย.- เฟซบุ๊ก ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดรายละเอียดความหมาย-ข้อมูลของสัญลักษณ์ และภาพที่ปรากฏอยู่บนธนบัตรที่ระลึกในรัชกาลที่ 9 ทั้ง 3 ชุด ได้แก่ ธนบัตรที่ระลึก 50 ปี ครองราชย์, ธนบัตรที่ระลึก 84 พรรษา รัชกาลที่ 9 และ ธนบัตรที่ระลึก 70 ปีที่ทรงครองราชย์


► ธนบัตรที่ระลึก 50 ปี ครองราชย์

นับตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2489 ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ของปวงชนชาวไทย พระองค์ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจและที่สรรเสริญยกย่องของประชาชนทุกหมู่เหล่า ด้วยเพราะพระองค์ทรงเป็นแบบอย่างของมหาราชกษัตริย์ ซึ่งดำรงอยู่ในธรรมาภิบาล เพียบพร้อมด้วยคุณูปการและพระปรีชาสามารถ อีกทั้งยังทรงยึดถือความเป็นอยู่ที่ดีของพสกนิกรเป็นที่ตั้ง โดยทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยตลอดมา ดังนั้น ในปี 2539 แบงก์ชาติจึงได้จัดพิมพ์ธนบัตรที่ระลึกขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี และเป็นสิ่งย้ำเตือนให้ประชาชนได้ระลึกถึงพระราชกรณียกิจและพระอัจฉริยภาพของพระองค์


15036701_356706484678785_9000456387639960589_n

ธนบัตรที่ระลึกแบบพิเศษ ชนิดราคา 500 บาท เริ่มจ่ายแลกเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2539 จำนวน 1,000,000 ฉบับ ทุกฉบับมีเลข 50 นำหมวดเลขหมาย ซึ่งหมายถึง 50 ปีแห่งการครองราชย์ และเป็นธนบัตรที่มีการพิมพ์บนวัสดุพอลิเมอร์เป็นครั้งแรก

14956503_356706488012118_4114905770031869983_n


จุดที่ 5 ผนึกฟอยล์สีทองพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ ล้อมรอบด้วยพื้นที่ใสซึ่งมองทะลุผ่านได้ โดยปริมณฑลหลังพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์จะเปลี่ยนสีสะท้อนแสงวาววับเมื่อพลิกธนบัตรไปมา เรียกว่า Optically Variable Device (OVD) นับเป็นครั้งแรกที่นำมาใช้เพื่อเพิ่มความสวยงามและเป็นลักษณะพิเศษต่อต้านการปลอมแปลง ความสุกสว่างของ OVD สีทองสื่อความหมายแห่งพระราชพิธีกาญจนาภิเษก ภายในเนื้อวัสดุ มีรูปตราจักรีซ่อนอยู่ที่เบื้องขวาของพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ มองเห็นได้ทั้งสองด้านเมื่อยกธนบัตรขึ้นส่องดูกับแสงสว่าง

14991786_356706528012114_2596711527909234054_n

การดูแลทุกข์สุขของราษฎรทั่วราชอาณาจักรเป็นพระราชภาระที่สำคัญ ในการเสด็จทรงงานแต่ละครั้ง พระองค์จึงทรงใช้อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อบันทึกข้อมูลและติดตามสถานการณ์ ได้แก่ แผนที่ ดินสอ กล้องถ่ายรูป และวิทยุสื่อสาร

ทรงมีความเชื่อมั่นว่า เมื่อใดที่สามารถแก้ไขหรือบรรเทาความเดือดร้อนในเรื่องน้ำเพื่อการบริโภคและอุปโภคแล้ว เมื่อนั้นราษฎรย่อมจะมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม พระองค์จึงโปรดให้จัดตั้งโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศเกือบพันโครงการ

15037316_356706544678779_9145861408798916791_n

 จุดที่ 10 ด้วยพระองค์ทรงตระหนักถึงปัญหาความเสื่อมโทรมของผิวดิน จึงมีพระราชดำริในการใช้ประโยชน์จากหญ้าแฝก ทำให้สามารถใช้ที่ดินนั้นทำการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ได้ ทั้งยังเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำด้วย และเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2536 ธนาคารโลกได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลรากหญ้าแฝกชุบทองสำริด ซึ่งเป็นรางวัลสดุดีพระเกียรติคุณในฐานะผู้อนุรักษ์ดินและน้ำดีเด่น

จุดที่ 11 ทรงริเริ่มให้มีการพัฒนาที่ดินว่างเปล่าเพื่อจัดสรรให้แก่เกษตรกรที่ขาดแคลนที่ดินทำกิน รวมทั้งโปรดให้จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาเพื่อหาวิธีการเพาะปลูกให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ ทรงเน้นให้เพาะปลูกพืชที่เป็นที่นิยมของตลาด เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศของท้องถิ่น ควบคู่กับการเลี้ยงสัตว์เพื่อบริโภคและจำหน่ายเป็นรายได้เสริม

14991815_356706551345445_7250832093510844166_n

► ธนบัตรที่ระลึก 84 พรรษา รัชกาลที่ 9

ในปี 2554 แบงก์ชาติได้พิมพ์ธนบัตรธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ชนิดราคา 100 บาท จำนวน 9,999,999 ฉบับ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและร่วมเผยแผ่พระเกียรติคุณ พระบุญญาธิการของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช การออกแบบมีความสวยงาม โดดเด่น และมีความพิเศษแตกต่างจากธนบัตรทั่วไป คือ ขนาดธนบัตรกว้าง 84 มิลลิเมตร หมายถึงพระชนมพรรษา 84 พรรษา ยาว 162 มิลลิเมตร เมื่อบวกตัวเลขความยาวธนบัตร (1+6+2) ผลรวมจะเท่ากับ 9 หมายถึง รัชกาลที่ 9

14956636_357322134617220_555891746803973685_n

ธนบัตรด้านหน้ามีภาพประธาน เป็นพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบนลายพื้นสีเหลือบทอง ธนบัตรทุกฉบับมีเลข 9 นำหน้าหมวดอักษรไทย ธ ซึ่งหมายถึง พระมหากษัตริย์ ตามด้วยเลขหมายจำนวน 7 หลัก

15032128_357322034617230_6378561285755589618_n

14925753_357322074617226_4849392113392617067_n

จุดที่ 4 ทรงเห็นความสำคัญในการอนุรักษ์และพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของราษฎร ดังกระแสพระราชดำรัส “…หลักสำคัญว่าต้องมีน้ำบริโภค น้ำใช้ น้ำเพื่อการเพาะปลูก เพราะว่าชีวิตอยู่ที่นั่น ถ้ามีน้ำคนอยู่ได้ ถ้าไม่มีน้ำคนอยู่ไม่ได้ ไม่มีไฟฟ้าคนอยู่ได้ แต่ถ้ามีไฟฟ้าไม่มีน้ำ คนอยู่ไม่ได้…”

จุดที่ 5 ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรเพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุข ทรงพัฒนาพื้นที่บนเขาโดยเฉพาะจังหวัดเชียงราย ที่เป็นแหล่งปลูกฝิ่น ให้เป็นพื้นที่การเกษตร สนับสนุนและอบรมให้กลุ่มชาวเขาปักหลักอยู่กับที่ หยุดการทำไร่เลื่อนลอย เลิกการปลูกฝิ่น และหันมาปลูกพืชเศรษฐกิจแบบเมืองหนาวแทน

15032885_357322137950553_7370008119431432388_n

จุดที่ 6 ทรงศึกษาดนตรีมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ทั้งยังทรงเครื่องดนตรีได้หลายชนิดตั้งแต่เปียโน กีตาร์ ฟลุต ไวโอลิน ฯลฯ แต่ที่โปรดมาก คือ แซ็กโซโฟน คลาริเน็ต และทรัมเป็ต นอกจากนี้ ยังทรงพระปรีชาสามารถในการพระราชนิพนธ์ทำนอง คำร้อง เป็นบทเพลง ทรงพระราชนิพนธ์บทเพลงที่ไพเราะยิ่งกว่า 40 เพลง ด้วยพระอัจฉริยภาพด้านดนตรีอันเป็นที่ประจักษ์ สถาบันการดนตรีและศิลปะการแสดงแห่งกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย จึงได้ทูลเกล้าฯ ถวายประกาศนียบัตรเกียรติคุณชั้นสูง โดยให้ทรงดำรงตำแหน่งสมาชิกกิตติมศักดิ์ และจารึกพระปรมาภิไธยบนแผ่นหินอ่อนของสถาบัน เมื่อพุทธศักราช 2507 นับว่าทรงเป็นชาวเอเชียพระองค์แรกที่เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของสถาบันการดนตรีที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นอกจากนี้ คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้น้อมเกล้าฯ ถวายพระราชสมัญญา “อัครศิลปิน” ในฐานะที่ทรงเป็นเลิศในศิลปะทั้งปวง เมื่อพุทธศักราช 2529

15032324_357322194617214_100719107487030759_n

จุดที่ 9 ฝนหลวง เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระราชดำริขึ้น เมื่อพุทธศักราช 2498 ในขณะที่เสด็จเยี่ยมประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทรงพบเห็นความทุกข์ยากของราษฎรอันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนของฝนธรรมชาติ จึงทรงคิดวิธีการแก้ไขปัญหาด้วยการทำฝนหลวง ทรงคิดประดิษฐ์ภาพตำราฝนหลวง และเทคนิคการโจมตีเมฆแบบใหม่ที่เรียกว่า “ซูเปอร์แซนด์วิช” ซึ่งเป็นวิธีที่ทำให้เกิดฝนตกอย่างหนักและได้ปริมาณน้ำฝนมากยิ่งขึ้น และโครงการพระราชดำริฝนหลวงนี้ยังได้รับรางวัลเหรียญทองเชิดชูเกียรติ และหนังสือประกาศเกียรติคุณในฐานะเป็นโครงการดีเด่นด้านสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน จากงานแสดงนิทรรศการและการประกวดนวัตกรรมทางเทคโนโลยี Brussels Eureka 2001 ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อพุทธศักราช 2544

จุดที่ 8 โครงการเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นโครงการเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรในพื้นที่ลุ่มน้ำแควน้อยตอนล่าง จ.พิษณุโลก รวมถึงพื้นที่บางส่วนของ จ.พิจิตร ที่ต้องประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง ทั้งยังเจอปัญหาอุทกภัยรุนแรงที่สร้างความเสียหายให้พื้นที่เพาะปลูกและพื้นที่เศรษฐกิจของ จ.พิษณุโลกเป็นประจำทุกปี “เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน” เป็นชื่อพระราชทาน มีความหมายว่า เขื่อนแควน้อยที่ทำให้มีความเจริญขึ้นในเขตพื้นที่

14915276_354074158275351_4729603269369879390_n

► ธนบัตรที่ระลึก 70 ปีที่ทรงครองราชย์

แบงก์ชาติได้จัดพิมพ์ธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 ชนิดราคา 70 บาท จำนวน 20 ล้านฉบับ และจ่ายแลกในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ด้วยแนวคิดการออกแบบ “จากวันนั้น…ถึงวันนี้ 70 ปี ที่ทรงครองราชย์” เพื่อน้อมนำจิตใจของปวงชนชาวไทยให้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติเป็นอเนกประการตลอด 70 ปี ทั้งยังเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรทั่วทุกแห่งของประเทศ แม้ในถิ่นทุรกันดาร เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนและหาแนวทางในการบำบัดทุกข์บำรุงสุข จนเป็นที่ประจักษ์แก่พสกนิกรชาวไทยและทั่วโลกว่า ประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์ที่ทรงปกป้องคุ้มครองประเทศชาติและประชาชนให้ร่มเย็นเป็นสุขเสมอมา และพระองค์จะทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งแผ่นดินตราบนิรันดร์

11224681_354074144942019_2750108617262901384_n

14900539_354074171608683_5885999468251006344_n

ภาพประธานแสดงถึงความสง่างาม ความเป็นพระมหากษัตริย์ พระบุญญาบารมี และมีความใกล้เคียงกับช่วงพระชนมพรรษาในขณะนั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงยืนเบื้องหน้าพระที่นั่งภัทรบิฐ ภายใต้พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ

พระที่นั่งภัทรบิฐเป็นพระราชอาสน์ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชประทับทรงรับการถวายสิริราชสมบัติและเครื่องสิริราชกกุธภัณฑ์ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

พระที่นั่งไพศาลทักษิณเป็นพระที่นั่งสำคัญซึ่งใช้เป็นสถานที่ประกอบการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ภายในพระที่นั่งประดิษฐานพระราชอาสน์สำหรับการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกโดยเฉพาะ ได้แก่ พระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ภายใต้สัปตปฎลเศวตฉัตร และพระที่นั่งภัทรบิฐภายใต้พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร

14908246_354074208275346_1825613972044690820_n

พระบรมสาทิสลักษณ์ที่งดงามนี้วาดขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2503-2505 จึงแสดงถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเมื่อครั้งที่ทรงเจริญ พระชนมพรรษา 33-35 พรรษา ทรงยืนเบื้องหน้าพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ พระบรมสาทิสลักษณ์นี้วาดด้วยสีน้ำมัน มีขนาด 272 X 150 เซนติเมตร ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง

พระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์เป็นพระราชอาสน์ที่พระมหากษัตริย์ประทับในงานสำคัญ เช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นต้น ทำด้วยไม้แกะสลักหุ้มทองทั้งองค์ มีรูปเทพนมและครุฑประดับ 2 ชั้น พระที่นั่งองค์นี้สามารถเชิญไปทอดบนพระแท่นราชบัลลังก์ในพระที่นั่งต่าง ๆ ได้ และยังใช้เป็นพระราชยานในการเสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนพยุหยาตราสถลมารค เรียกว่า พระที่นั่งราชยานพุดตานทอง

พระบรมสาทิสลักษณ์นี้วาดโดย ระเด่น บาซูกิ อับดุลลาห์ (Raden Basoeki Abdullah) ศิลปินชาวอินโดนีเซีย เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชสนพระราชหฤทัยในงานศิลปะสมัยใหม่ โดยเฉพาะด้านจิตรกรรม พระองค์จึงมีพระราชประสงค์ให้มีจิตรกรประจำราชสำนัก ดังนั้น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ระเด่น บาซูกิ อับดุลลาห์ เดินทางเข้ามาเป็น จิตรกรประจำราชสำนักไทย ระหว่างพุทธศักราช 2503-2513 โดยปฏิบัติงานทั้งในพระบรมมหาราชวังและพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เนื่องจากศิลปินท่านนี้มีแนวการสร้างสรรค์งานเป็นแบบแนวเหมือนจริง จึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้เขียนพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระฉายาสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศ์ไว้เป็นจำนวนมาก

14956462_354074264942007_6373347774961475000_n

อักษรพระปรมาภิไธย ภปร. สีเหลืองนวลทอง เป็นสีประจำวันพระบรมราชสมภพ ขอบริมอักษรสีทองบนพื้นสีขาบเข้ม (น้ำเงินแก่) เป็นสีประจำสถาบันพระมหากษัตริย์ ภายในกรอบลายทองปนนากมีลายเนื่องสีทองมากกว่า 70 ดวง เป็นการถวายพระพร ให้ทรงสถิตดำรงในสิริราชสมบัติมากกว่าปีที่ 70 ให้สถาพรโดยสวัสดีเป็นอเนกอนันต์ ยิ่งกว่าพระมหากษัตริย์พระองค์ใด

14937273_354074261608674_3579419225410077807_n  14956559_354074294942004_6312360593476898457_n

14963372_354074328275334_2776443145824537060_n

14956379_354074334942000_989022209625957852_n

ข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Bank of Thailand 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ

18 ส.ค. – ปมร้อน “หลวงพ่ออลงกต” ขอลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เปิดทางให้ตรวจสอบวัด ล่าสุด “หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออก ขอเวลาจัดการทุกเรื่อง คาด 1 เดือนชัดเจน วันนี้ (18 ส.ค.) มีกระแสข่าวว่า “พระราชวิสุทธิประชานาถ” หรือ “หลวงพ่ออลงกต” ประกาศลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อรับผิดชอบต่อสถานการณ์และเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบดำเนินไปอย่างโปร่งใส ขณะที่ นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยกับทีมข่าวสำนักข่าวไทยว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ กำลังติดตามข่าวดังกล่าว แต่ยังไม่ได้รับหนังสือขอลาออกอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะเกิดความชัดเจนในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) ส่วนเหตุผลที่หลวงพ่ออลงกตลาออก คาดว่าเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบเดินหน้าได้ พศ.แจ้งวัดหักลดหย่อนเงินบริจาคต้องผ่านระบบ e-Donation ผอ.พศ. ยังกล่าวถึงกรณีอธิบดีกรมสรรพากรทำหนังสือแจ้งมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา แจ้งว่ากำหนดให้การบริจาคให้แก่วัด มูลนิธิ สมาคม กองทุน และองค์การต่างๆ ซึ่งผู้บริจาคได้รับสิทธิหักลดหย่อนเงินบริจาค ต้องใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากรเท่านั้น โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 […]

“ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย ลั่นไม่เคยพูดยุบ ศบ.ทก.

ทำเนียบ 18 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย​ ต้องรอผลประชุม​ RBC​-GBC มอบตำรวจภูธร​ภาค​ 3 รับเรื่องร้องทุกข์​ประชาชน-​ราชการ​ ส่งอัยการสั่งฟ้องแพ่ง​-อาญา​ “กัมพูชา” ส่วนฟ้อง “ฮุนเซน​” หรือ​ “ฮุน​ มาเนต​” ให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย​ ไม่ตอบจัดการเครือข่ายนักการเมืองในไทย​ ชี้​หากทำก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเปิดเผย​ ลั่น​ไม่เคยพูดสักคำ​ ยุบ ศบ.ทก. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ว่า ขณะนี้สถานการณ์บริเวณชายแดนไทยกัมพูชายังต้องเฝ้าระวัง จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องการเจรจาเขตแดนทั้งหลายยังไม่จบง่ายๆ และยังรอการประชุม ตามกรอบต่างๆ ซึ่งการประชุม RBC จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 25-27 สิงหาคมนี้ ขณะที่วันที่ 8-10 กันยายนจะเป็นการประชุม GBC ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ทั้งนี้ได้สั่งการให้หน่วยราชการติดตามข่าวสาร และประสานงานกันอย่างมีเอกภาพ โดยเฉพาะในเรื่องข่าวสารที่สร้างความสับสนและความเข้าใจผิดให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมยอมรับว่าขณะนี้มีกระบวนการไอโอ จึงขอช่วยกัน อย่าตกเป็นเหยื่อของเรื่องนี้ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลยึดผลประโยชน์ประเทศชาติอธิปไตยของประเทศทรัพย์สินและชีวิตของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง จึงขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ขณะเดียวกันที่ประชุม สมช.ยังมีการพิจารณาเรื่องการดำเนินคดีตามกฎหมาย กรณีกัมพูชาใช้กำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ในการคุกคามอธิปไตยของไทย […]

ทบ.แจงบ้านหนองจานอยู่ในเขตไทย เดิมเป็นที่ลี้ภัยชาวเขมร

กองทัพบก 18 ส.ค.- ทบ. แจงพื้นที่บ้านหนองจาน อยู่ในเขตประเทศไทย เดิมเคยเป็นที่ช่วยเหลือชาวกัมพูชาลี้ภัยจากการสู้รบชั่วคราว ภายหลังพบมีการขยายชุมชน ละเมิด MOU43 แม้ฝ่ายไทยมีการประท้วงอย่างต่อเนื่อง จากกรณีที่มีชาวกัมพูชาได้ออกมาร้องเรียนเรื่องการวางรั้วลวดหนามของทหารไทยบริเวณบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว โดยกล่าวอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนของตนนั้น พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าแท้จริงแล้วพื้นที่ดังกล่าวเป็นอาณาเขตของประเทศไทย ซึ่งอยู่บริเวณบ.หนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รอยต่อแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างหลักเขตแดนที่ 46 และ 47 นอกจากนี้ยังพบว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยการสนับสนุนให้ราษฎรมาสร้างถิ่นฐานอย่างถาวร ทั้งในบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ และนอกบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ในฝั่งประเทศไทย ซึ่งกองทัพบก โดยกองกำลังบูรพา ได้ดำเนินการประท้วงร้องเรียนฝ่ายกัมพูชาในเวทีต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งระดับหน่วยทหารในพื้นที่ และผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน แต่ฝ่ายกัมพูชากลับนิ่งเฉย ไม่มีการชี้แจงในรายละเอียด หรือแก้ไขใดๆ จึงยืนยันได้ว่าฝ่ายไทยได้ใช้การแก้ปัญหาโดยสันติวิธีมาตลอด โฆษกกองทัพบก กล่าวต่อว่าสำหรับปัญหา ณ ปัจจุบัน ฝ่ายกัมพูชา มีเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ พยายามจะใช้ประชาชนให้เป็นผู้ออกหน้าในการรุกล้ำพื้นที่อธิปไตยประเทศไทยในบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ อาจเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับฝ่ายทหารโดยตรง ทำให้เข้าใจได้ว่า […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งรับ มท.3

สงขลา 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งให้นายอำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกมากล่าวถึงเรื่องที่มีหนังสือคำสั่งทางราชการให้นายอำเภอของจังหวัดสงขลาทั้ง 16 อำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง และจัดห้อง VIP พร้อมอาหารว่าง ต้อนรับ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง ซึ่งรายละเอียดในหนังสือกล่าวว่าให้นายอำเภอเมืองสงขลาปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 คือในวันนี้ ว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้ออกหนังสือฉบับนี้ เพราะหนังสือที่ตนลงนามฉบับสุดท้ายในวันนั้นคืองานประชุม ส่วนความจริงตอนนี้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว แต่ให้ข้อคิดว่าหนังสือที่จะขอใช้พื้นที่หน่วยงานจากท่าอากาศยาน ก็ต้องเป็นลายเซ็นของผู้ว่าราชการเท่านั้น ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงหรือทางหนังสือปลอมขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่จะให้ได้ความจริงให้เร็วที่สุด เมื่อมีการสอบถามเรื่องความขัดแย้งของจังหวัดสงขลาราชการจังหวัดสงขลากล่าวว่าท่านไม่น่าจะมีความขัดแย้งกับใคร เพราะไม่เคยทำงานในพื้นที่มาก่อน เพิ่งมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาในครั้งแรก ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังกล่าวอีกว่า วันและเวลาดังกล่าวที่มีการออกหนังสือ ตนก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ไปธุระส่วนตัวงานแต่งงานของญาติที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่จะให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหาความจริงเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเพราะถือว่าเป็นการทำผิดอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย