สืบพยานรื้อคดีครูจอมทรัพย์ มุ่งประเด็นรถกระบะเทียบเคียงข้อมูลวันเกิดเหตุ


นครพนม 8 ก.พ.-การสืบพยานฝั่งผู้ร้องดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ในช่วงบ่ายพยานที่ขึ้นเผชิญสืบมีหัวหน้าคณะผู้ตรวจสอบกระทรวงยุติธรรม และผู้เชี่ยวชาญปัญหารถยนต์โตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทย โดยประเด็นหลักที่น่าสนใจในการสืบพยาน จะเน้นไปที่รถกระบะโตโยต้า MIGHTY-X

k1 k2


ประเด็นหลักที่มีการนำสืบทางหัวหน้าคณะตรวจสอบกระทรวงยุติธรรมก็ได้กล่าวถึงความสูงของทะเบียนรถกับพื้น จากพื้นด้านล่างไปถึงขอบทะเบียนล่างของรถ จากการตรวจสอบอยู่ที่ 36 ซม. และจากด้านล่างไปถึงขอบทะเบียนรถอยู่ที่ 51 ซม. ซึ่งแตกต่างจากข้อมูลในครั้งที่เกิดเหตุ ครั้งนั้นมีการวัดจากพื้นล่างไปจนถึงขอบล่างทะเบียนอยู่ที่ 40 ซม. และจากพื้นล่างไปจนถึงขอบด้านบนอยู่ที่ 55 ซม. ในประเด็นนี้อัยการก็ยื่นซักค้านบอกว่าความเปลี่ยนแปลงของระดับความสูงนี้อาจจะเกิดจากการเปลี่ยนโช้ก หรือลมยางที่ไม่เท่ากัน

k3 า4

ประเด็นต่อมาคือก่อนหน้านี้เมื่อครั้งเกิดเหตุทางวิทยาการนครพนมบอกว่าไม่พบรอยบุบที่ป้ายทะเบียนรถ ทางหัวหน้าคณะตรวจสอบข้อเท็จจริง ก็ยกประเด็นนี้ขึ้นมาแล้วก็บอกว่าครั้งนั้นอัยการก็ได้สั่งฟ้องโดยระบุว่า รถมีความเร็วสูงขณะที่แล่นไปชนจักรยาน เป็นไปตามคำที่มีการสั่งฟ้องก็มีข้อสงสัยเกิดขึ้นว่าทำไมไม่มีรอยบุบที่ทะเบียน ประเด็นนี้ทางอัยการนครพนมก็มีการซักค้านว่า ถ้าเกิดวัตถุที่ไปกระทบมีน้ำหนักเบาก็อาจจะไม่มีรอยบุบเกิดขึ้น แต่ทางหัวหน้าตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงยุติธรรมก็บอกว่า ถ้าดูจากน้ำหนักจักรยานรวมน้ำหนักคนรวมกันก็น่าจะมีส่วนที่ทำให้เกิดรอยบุบขึ้นได้


สำหรับอีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ทางหัวหน้าคณะตรวจสอบข้อเท็จจริงกระทรวงยุติธรรม ก็ได้มีการส่งป้ายทะเบียนตรวจสอบไปที่กรมขนส่งทางบกและพบว่าแต่ละทะเบียนจะมีเลขทะเบียนอยู่หลังแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งพบว่าหมายเลขตรงกับหมายเลขทะเบียนที่มีการบันทึกไว้เมื่อปี 48 ที่มีเหตุเกิดขึ้น ขนส่งยืนยันว่าเป็นทะเบียนที่ไม่เคยเปลี่ยน และตรงกับข้อตรวจสอบของมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี ที่ยืนยันตรงกันว่าทะเบียนนี้ไม่เคยมีการซ่อมมาก่อน อัยการมีการซักค้านว่าป้ายทะเบียนดูใหม่กว่าเมื่อปี 48 นอกจากนี้บริษัทโตโยต้าได้มีการใช้เครื่องตรวจสอบเม็ดสีพบว่าหนาแน่นเท่ากันทั้งคัน ยืนยันว่ารถคันนี้ไม่เคยทำสีหรือเปลี่ยนสีมาก่อน ล่าสุดตอนนี้เป็นการสืบพยานปากที่ 5 ของเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสืบพยาน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ