ศาลปกครอง 14 ก.พ. – นายกสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย รวมตัวภิกษุสงฆ์วัดลาดพร้าว 24 รูป -อุบาสก อุบาสิกา 72 ราย ยืนฟ้อง “ผอ.เขตลาดพร้าว -ผู้ว่าฯ กทม.- เจ้าอาวาสวัดลาดพร้าว” กระทำการต่อศาสนสมบัติไม่ชอบ ไม่ถามความเห็นเกี่ยวข้อง ก่อนโค่นต้นไม้-รื้อศาลาที่พักริม สร้างเขื่อนริมคลอง
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และพระสงฆ์24 รูป อุบาสกอุบาสิกา ที่อยู่ในชุมชนรอบวัดลาดพร้าว 72 คน ยื่นฟ้อง ผู้อำนวยเขตลาดพร้าว ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ เจ้าอาวาสวัดลาดพร้าว กทม. เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-4 กรณีสั่งการให้เจ้าหน้าที่ ของกทม.และ บริษัท ริเวอร์ เอนจิเนียริ่งจำกัด นำเครื่องจักรเข้ารื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้าง ศาลาที่พัก เฟอร์นิเจอร์และตัดโค่นต้นไม้ภายในบริเวณวัดลาดพร้าว ซึ่งเป็นศาสนาสมบัติของวัด ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2560 จนถึงวันที่ยื่นฟ้อง
โดยผู้ถูกฟ้องที่ 1-3 ระบุถึงเหตุการรื้อถอนว่า เข้ามาดำเนินการก่อสร้างเขื่อนหรือกำแพงริมตลิ่งเพื่อประโยชน์ในการระบายน้ำ แต่การเข้ามาดำเนินการดังกล่าว ไม่ได้จัดให้มีการประชุมประชาคมหรือทำการชี้แจงใด ๆ เพื่อขอความเห็นต่อภิกษุ คณะสงฆ์ หรือผู้จัดประโยชน์ของวัด หรือผู้ฟ้องคดีโดยรอบวัด ขณะที่ทางวัดลาดพร้าวได้จัดเทปูนขั้นบันไดลักษณะคล้ายเขื่อนหรือกำแพงตลิ่งริมคลองไว้นานแล้ว พื้นที่ริมชายคลองในพื้นที่ของวัดลาดพร้าว จึงไม่ใช่ปัญหาหรืออุปสรรคในการระบายน้ำ หรือการบริหารจัดการน้ำของ กทม. และการจัดการศาสนสมบัติของวัด ยังต้องเป็นไปตามวิธีการที่กำหนดในพระราชบัญัติสงฆ์พ.ศ.2505 และกฎกระทรวง
ผู้ฟ้องทั้ง 97 คน จึงขอให้ศาลปกครองกลาง วินิจฉัยว่า ผอ.เขตลาดพร้าว ผู้ถูกฟ้องที่ 1 ผอ.สำนักระบายน้ำ ผู้ว่าฯ กทม. ผู้ถูกฟ้องที่ 1 -3 กระทำการขัดต่อสิทธิชุมชนตามรัฐธรรมนูญฯ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฯ และ พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 และมีคำพิพากษาให้ ผอ.เขตลาดพร้าว ผู้ถูกฟ้องที่ 1 หรือ ผอ.สำนักระบายน้ำหรือ ผู้ว่าฯ กทม. ผู้ถูกฟ้องที่ 2-3 หรือผู้เกี่ยวข้องในการก่อสร้าง ให้ฟื้นฟูสภาพต้นไม้ที่ถูกทำลาย และอาคารสิ่งปลูกสร้าง ศาลาที่พัก ให้กลับคืนมาในสภาพเดิมหรือไม่ด้อยกว่าเดิม หรือใกล้เคียงสภาพเดิม
และขอให้ศาลสั่งเจ้าอาวาสวัดลาดพร้าว ผู้ถูกฟ้องที่ 4 ปกป้องศาสนสมบัติของวัดลาดพร้าวให้กลับคืนสภาพเดิม และปฏิบัติตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์ฯ ที่จะต้องบำรุงรักษาวัดจัดกิจการและศาสนสมบัติของวัดให้เป็นไปด้วยดี พร้อมเปิดเวทีรับฟังความเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด และในการยื่นฟ้องครั้งนี้ ได้ขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อกำหนดวิธีการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษาด้วย เนื่องจากขณะนี้การก่อสร้างยังดำเนินอยู่ต่อไป.-สำนักข่าวไทย