กระทรวงกลาโหม 14 ก.พ.-โฆษกกระทรวงกลาโหม เผยจะแถลงข่าวผลการหารือระหว่างพรรคการเมืองและคณะอนุกรรมการฯ ปรองดองในวันพุธและวันศุกร์เท่านั้น ขณะที่การหารือนัดแรกเป็นไปด้วยดี ด้านพรรคความหวังใหม่ เสนอนิรโทษกรรมไม่ใช่ทางออก แต่ต้องมีประชาธิปไตยโดยเร็ว ด้านพรรคคนธรรมดาฯ เสนอให้ปลดล็อกคำสั่ง คสช.ห้ามชุมนุมทางการเมือง
พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า กระทรวงกลาโหมจะแถลงข่าวผลการหารือระหว่างพรรคการเมืองและคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ในวันพุธและวันศุกร์เท่านั้น เนื่องจากการเผยแพร่ผลการหารือทุกวันจะเป็นการจำกัดกรอบความคิดของพรรคการเมืองอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้เดินทางมาหารือ พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้มีข้อห้ามให้พรรคการเมืองให้ข่าวกับสื่อมวลชน เพียงแต่ต้องการให้ข้อมูลมีความสมบูรณ์มากกว่า
“การพูดคุยทำให้เกิดประโยชน์กับคนไทย และเปิดกว้างทุกฝ่าย ไม่มีมุบมิบ ไม่มีอคติ หรือเงื่อนไขใด ทำอย่างจริงใจ ยืนยันว่ามีความโปร่งใสในกระบวนการสร้างความปรองดอง และเปิดกว้างให้สามารถพูดคุยได้นอกเหนือ 10 ประเด็นที่ตั้งไว้” พล.ต.คงชีพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่บรรยากาศการพูดคุยตั้งแต่เวลา 09.00-13.00 น. เป็นไปด้วยดี เปิดกว้างให้พรรคการเมืองได้แสดงความเห็นอย่างเต็มที่โดยที่คณะกรรมการไม่ได้ตั้งคำถามใด ๆ
ด้านนายชิงชัย มงคลธรรม หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ เปิดเผยว่า การปรองดองคือต้องให้เป็นประชาธิปไตยโดยเร็ว และต้องสร้างความสามัคคีในชาติให้ได้ด้วยการนำประชาธิปไตยมาเป็นตัวสร้าง หากเป็นเผด็จการ ก็จะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ต้องคืนอำนาจอย่างรู้และเข้าใจ ย้ำว่าการนิรโทษกรรมไม่ใช่แนวทางแก้ปัญหา แต่เป็นการกระทำความผิดของเฉพาะคนและเฉพาะกลุ่ม อีกทั้งความผิดทางอาญาก็ไม่สามารถนิรโทษกรรมได้ ยืนยันว่าบรรยากาศการหารือในวันนี้ (14 ก.พ.) เป็นไปด้วยดี ทางฝ่ายทหารก็เข้าใจและพร้อมรับฟัง
ขณะที่นายธนพร ศรียากูล หัวหน้าพรรคคนธรรมดาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้เสนอว่าให้การหารือ ไม่ควรเป็นเรื่องของนักการเมืองหรือแกนนำ เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากที่เดือดร้อน และอยากสะท้อนปัญหามาถึงรัฐบาล ทั้งนี้ ตนได้เสนอให้ยกเลิกคำสั่ง คสช.ที่ห้ามชุมนุมทางการเมืองมากกว่า 5 คนขึ้นไป และเสนอให้เปิดเวทีในระดับจังหวัด ซึ่งเวทีดังกล่าว ขอให้ยกเลิกการเชิญคนมาร่วม แต่เปิดให้เป็นการลงทะเบียนเข้ามาโดยสมัครใจ ให้ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นได้ และรวบรวมความเห็นทั้งหมดกลับมาให้พรรคการเมืองจัดทำเป็นนโยบายการเลือกตั้งครั้งต่อไป หากพรรคใดที่ยอมรับ ขอให้ทำเป็นข้อตกลง และรวมถึงต้องกำหนดวันเลือกตั้งให้ชัดเจน เพื่อจะทราบว่าอนาคตจะเดินไปในทิศทางใด ส่วนตัวไม่ค่อยเชื่อมั่นในการพูดคุยเช่นนี้ เพราะไม่แตกต่างจากรัฐบาลที่ผ่านมาที่เชิญตัวแทนมาให้ข้อมูล แต่ไม่ได้เกิดผลใด ๆ.-สำนักข่าวไทย