หญิงชรากระโดดนอนตัดหน้ารถพบสติไม่ดี

 


บึงกาฬ 15 ก.พ.-หญิงชรากระโดดตัดหน้ารถและทิ้งตัวลงนอนบนถนน ที่ปรากฏในโซเชียล ตรวจสอบพบเป็นคนสติไม่ดี

15-2-2560 22-26-23 15-2-2560 22-29-58


สมาชิกเฟซบุ๊กชื่อ Pattanakitr Punkot ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ขณะกำลังขับรถกลับบ้าน ความเร็วประมาณ 60-70 กม./ชม. ก็เห็นคุณยายทำท่าเหมือนจะข้ามถนน แต่ก็ไม่ข้าม คนขับเลยชะลอรถเพื่อรอให้ยายเดิน แต่ที่ไหนได้ แกกลับทำในสิ่งที่คาดไม่ถึง คือเมื่อรถขับเข้ามาไกล้ๆ ก็กระโดดเข้าใส่และทิ้งตัวลงพื้นถนนทันที กะระยะให้รถหยุดให้ทันตอนถึงตัวพอดี แต่โชคดีที่หยุดรถได้ทัน เหตุการณ์เกิดขึ้นที่บ้านท่ากกต้อง อ.เซกา จ.บึงกาฬ

เมื่อคลิปถูกแชร์ในโลกออนไลน์ก็มีชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก ว่าเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ อีกทั้งตัวยายที่ก่อเหตุก็เสี่ยงมากว่าอาจได้รับบาดเจ็บถึงชีวิต

ผู้สื่อข่าวได้ลงไปยังพื้นที่เหตุตามภาพในคลิป พบกับนายแดง ผันทะยศ อายุ 45 ปี และนางราตรี คำมาทิศ อายุ 38 ปี ชาวบ้านท่ากกต้อง ได้พาไปดูที่เกิดเหตุพบว่ายังมีรองเท้าแตะหนึ่งคู่ของหญิงชราคนดังกล่าววางไว้อยู่พงหญ้าข้างทาง พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เช้าวันที่ 10 ก.พ.60 ช่วงเช้าประมาณ 05.00 น. ได้ยินเสียงหมาเห่าเยื้องหน้าบ้านแต่เช้า จึงเดินออกไปดู พบหญิงชราคนหนึ่งอายุ 60 กว่าปี นั่งอยู่ข้างทาง พอสายมาหญิงชราคนดังกล่าวยังนั่งอยู่ที่เดิม แต่ปรากฏว่าไม่ได้นั่งอยู่เฉยๆ พอมีรถวิ่งมาก็ตั้งท่ากระโจนและวิ่งเข้าไปกลางถนนทันทีตามภาพที่ปรากฏในคลิป ไม่รู้ว่าตั้งใจจะฆ่าตัวตาย หรือแกล้งให้รถชนเพื่อตกทรัพย์เรียนแบบพฤติกรรมที่พบเห็นในคลิปของประเทศจีน ทั้งรถพ่วง รถกระบะ รถเก๋ง ต่างพากันเบรกอย่างจ้าละหวั่น โชคดีไม่มีรถคันไหนชนเข้า ซึ่งหญิงชราคนดังกล่าววิ่งเข้าถนน ถึง 4 ครั้ง


นางราตรี คำมาทิศ กล่าวอีกว่า เกรงว่าจะอันตรายจึงรีบประสานผู้ใหญ่บ้าน และ อปพร.มาตรวจสอบ พอสอบถามก็พูดไม่รู้เรื่อง วกไปวนมา และไม่มีใครทราบว่าหญิงชราคนดังกล่าวมาจากที่ไหน จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลพรเจริญ อ.เซกา จ.บึงกาฬ นำตัวไปตรวจเช็กอาการทางประสาท

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านโนนสวาท หมู่ที่ 4 ต.วังชมพู อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ซึ่งเป็นบ้านของยายทองใส สุกสีกรี อายุ 73 ปี เป็นบุคคลที่อยู่ในคลิปดังกล่าว โดยพบว่ายายทองใส อาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวเพียงลำพังเนื่องจากสามีได้เสียชีวิตไปนานแล้ว ส่วนลูกชายก็ไปทำงานต่างจังหวัดและจากการพูดคุยกับนางหนูเตือน ขำจิต หลานสาวของยายทองใส ที่บ้านอยู่ใกล้เคียงได้ความว่า ยายทองใส เป็นผู้ป่วยทางจิตเวช และมีโรคความจำเสื่อมด้วย สืบเนื่องจากอายุมากแล้ว มักมีอาการหลงๆ ลืมๆ ตลอดเวลา และในช่วงที่ยาหมดอาการของยายทองใส ก็จะกำเริบ และมักจะออกจากบ้านเป็นประจำไม่ว่าจะเป็นกลางวัน หรือกลางคืน

ด้าน พ.ต.อ.อนุสรน์ มั่งมี ผกก.สภ.เซกา เจ้าของท้องที่ที่เกิดเหตุได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่หลายคนในโลกโซเซียลวิพากษ์วิจารณ์ว่าบุคคลดังกล่าวเป็นแก๊งมิจฉาชีพแกล้งทำทีให้รถชนแล้วหวังเงินจากผู้เสียหายนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน จากการสอบสวนและลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เซกา นั้นจนทราบว่าบุคคลดังกล่าวคือยายทองใส สุกสีกรี มีอาการทางปราสาทหรือผู้ป่วยทางจิตเวช ประกอบกับยายอายุมากและอยู่บ้านพียงลำพัง จึงไม่มีคนคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

ทาง สภ.เซกาจึงได้กำชับให้ลูกหลานที่อยู่ใกล้เคียงยายทองใส ให้หมั่นดูแลยายและกำชับให้กินยาอย่างต่อเนื่อง ทั้งเฝ้าระวังไม่ให้ยายออกไปเดินตามถนนหนทางเหมือนเดิมเพราะเกรงจะได้รับอันตรายจากรถที่สัญจรไปมา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน

พระยันตระ

ปิดตำนาน “อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตในวัย 73 ปี ที่สหรัฐ

“อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 73 ปี ที่วัดในสหรัฐอเมริกา ปิดตำนานอดีตพระภิกษุที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดรูปหนึ่งของวงการสงฆ์ไทย

อดีตผู้บังคับบัญชา “ผู้กำกับโจ้” เผยสมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร

อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดประวัติอดีตผู้กำกับโจ้ สมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร เชื่อได้รับผลกรรมที่ทำแล้ว

ข่าวแนะนำ

Exclusive! เปิดห้องขังแดน 5 “อดีต ผกก.โจ้”

กรมราชทัณฑ์ เปิดห้องขัง แดน 5 ของ “อดีต ผกก.โจ้” ให้สังคมได้เห็นสภาพความเป็นจริงอีกด้าน พบด้านในยังรักษาพื้นที่ และข้าวของเครื่องใช้ของอดีต ผกก.โจ้ เอาไว้ เผื่อเจ้าหน้าที่จะเข้ามาเก็บหลักฐานเพิ่มเติม

รัฐบาลเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน

รัฐบาลเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน ปี ฮ.ศ. 1446 ขณะที่นายกรัฐมนตรี ร่วมส่งใจให้พี่น้องชาวมุสลิมตั้งจิตมุ่งมั่นปฏิบัติศาสนกิจถือศีลอด ในช่วงเวลาแห่งเดือนอันศักดิ์สิทธิ์

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท