ทำเนียบฯ 8 มี.ค.-ประธานกรรมการด้านกิจการการค้าและการลงทุนของบริษัท Airbus เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ระบุ ขอให้บริษัทฯ มั่นใจประเทศไทยจะกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตย รัฐบาลวางรากฐานตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ไว้ในรัฐธรรมนูญ
พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการหารือ ระหว่างนายฟาบริซ เบรฌิเยร์ (Fabrice Brégier) ประธานกรรมการด้านกิจการการค้าและการลงทุนของบริษัท Airbus ที่เข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ห้องสีม่วง ทำเนียบรัฐบาล ว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับการมาเยือนไทยของประธานกรรมการด้านกิจการการค้าและการลงทุนของบริษัท Airbus ในครั้งนี้ พร้อมยินดีที่ประธานฯ ได้ไปบรรยายพิเศษที่กระทรวงการต่างประเทศ ในหัวข้อ “Airbus Vision for Aviation in the Region and Thailand’s Role” รวมทั้งเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ไทยเพิ่งจัดงาน “Opportunity Thailand 2017” ไป ซึ่งครั้งนั้นประธาน ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของ Airbus ได้ร่วมบรรยายเกี่ยวกับโครงการประเทศไทย 4.0 ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังได้ชี้แจงถึงสถานการณ์ทางการเมืองของไทยว่า ตั้งแต่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ได้แก้ไขปัญหาเร่งด่วนและอุปสรรคในด้านต่าง ๆ เพื่อวางรากฐานในการพัฒนาประเทศและระบบประชาธิปไตยที่ยั่งยืน รัฐบาลเสนอแก้ไขปรับปรุงกฎหมายให้ได้มาตรฐานสากล จึงขอให้บริษัทฯ มั่นใจว่า ประเทศไทยจะกลับไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย และนโยบายต่าง ๆ ที่รัฐบาลชุดนี้ได้วางรากฐานไว้จะยังคงดำเนินไป ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่จะกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
พล.ท.วีรชน กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเรื่องนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของไทย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ารัฐบาลให้ความสำคัญต่อการวางระบบโครงสร้างพื้นฐานโครงข่ายด้านคมนาคมทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ และยังมีโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก โดยภายใต้โครงการดังกล่าวจะมีการพัฒนาและขยายท่าอากาศยานอู่ตะเภาเพื่อให้รองรับผู้โดยสารได้มากขึ้น มีการสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน รวมทั้งศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานด้วย นายกรัฐมนตรีจึงยินดีหากบริษัทฯจะเข้ามาลงทุนในโครงการดังกล่าว
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประธานกรรมการด้านกิจการการค้าและการลงทุนของบริษัท Airbus กล่าวว่า บริษัทฯ มีความร่วมมือกับประเทศไทยมาโดยตลอด ประเทศไทยได้สั่งซื้อเครื่องบินของบริษัทฯทั้งในเชิงพาณิชย์และทหารมาอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ ยังยินดีที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับนโยบายประเทศไทย 4.0 โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอากาศยานและการบิน ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรม New S-Curve ของไทย สอดคล้องกับแนวทางของ บริษัทฯ ซึ่งมองว่าอุตสาหกรรมนี้มีความสำคัญมากในปัจจุบันและจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย