ร.11 รอ. 10 มี.ค.-“พล.อ.ประวิตร” เป็นประธานพิธีทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดย 8 หน่วยงานผนึกกำลังทำลายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้ว 300 ตัน มูลค่ากว่า 1,700 ล้านบาท ระบุการทำลายของกลาง ถือเป็นการขั้นตอนสุดท้ายของการปราบปราม เพื่อสร้างความมั่นใจเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาว่าจะไม่มีสินค้าละเมิดทรัพย์สินกลับไปสู่ท้องตลาด
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้ว ณ ลานอเนกประสงค์ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ บางเขน (ร.11รอ.) ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐที่ทำหน้าที่ด้านการป้องกันและปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ประกอบด้วย กรมทรัพย์สินทางปัญญา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมประชาสัมพันธ์ และภาคเอกชนเจ้าของทรัพย์สิน โดยมีของกลางที่รวบรวมจากทั่วประเทศทั้งสิ้น 3,639,679 ชิ้น คิดเป็นน้ำหนักประมาณ 300 ตัน มูลค่ารวม 1,756 ล้านบาท ประกอบด้วย เสื้อผ้า กระเป๋า เข็มขัด รองเท้า นาฬิกา โทรศัพท์มือถือ แผ่นซีดี ดีวีดี แว่นตา เครื่องสำอาง หมวก ผ้าผ่ม
พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ว่า สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเหล่านี้เป็นของผิดกฎหมาย จะต้องนำมาทำลาย ซึ่งการทำลายของกลางที่คดีถึงที่สุดแล้ว ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการปราบปรามที่จะต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ทั้งพันธกรณีภายใต้ข้อตกลงด้านทรัพย์สินทางปัญญาขององค์การการค้าโลก หรือ TRIPS รวมทั้งกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาว่าจะไม่มีสินค้าละเมิดทรัพย์สินกลับไปสู่ท้องตลาด หรือส่งออกไปยังต่างประเทศ
“ซึ่งการทำลายของกลางในครั้งนี้ มีจำนวนมากที่สุดตั้งแต่ดำเนินการมา ซึ่งหากสามารถดำเนินการได้ทั้งหมด จะทำให้สหรัฐฯ พิจารณาอันดับประเทศที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยปลดไทยออกจากบัญชีจับตามองพิเศษ” พล.อ.ประวิตร กล่าว.-สำนักข่าวไทย