เชียงใหม่ 27 ก.พ.- สาวเชียงใหม่หันหลังให้กับงานดีไซเนอร์ หันมาปลูกมะเดื่อฝรั่ง เพียง 2 ปีก็ประสบความสำเร็จ สามารถเปิดตลาดผู้บริโภคในเชียงใหม่ ที่เริ่มรู้จักไม้ผลเศรษฐกิจชนิดนี้
แม้จะไม่เคยอยู่ในแวดวงเกษตรมาก่อน แต่ด้วยใจรักก็ทำให้ นาถกนก นิธิศิริภัค อดีตดีไซเนอร์ เริ่มต้นใหม่กับงานเกษตรด้วยการปลูกไม้ผลอย่างมะเดื่อฝรั่งจนประสบความสำเร็จ 2 ปี ก่อนลองปลูกมะเดื่อฝรั่ง เพราะเห็นว่าเป็นไม้ผลเศรษฐกิจตัวใหม่ ที่ยังไม่แพร่หลายมากนัก โดยนำต้นกล้าพันธุ์มาจากโครงการหลวง ปลูกในโรงเรือนแบบปิด บนพื้นที่เกือบ 2 ไร่ โดยใช้วิธีปลูกในกระถางซีเมนต์ เพื่อควบคุมการเจริญเติบโต ให้น้ำด้วยระบบสปริงเกอร์ วันละ 3 ครั้ง จากต้นพันธุ์ต้นเล็กๆ ต้นมะเดื่อฝรั่งเติบโต ลำต้นสูง 3 เมตร มีผลสุกให้เก็บเกี่ยวภายในระยะเวลาเพียง 6 เดือน
มะเดื่อฝรั่งจะออกผลตามลำต้น ตั้งแต่ช่วงโคนจนถึงส่วนยอด ผลที่สุกพร้อมเก็บเกี่ยวจะมีสีแดงเข้ม 1 ต้นจะให้ผลผลิตเฉลี่ย 100-200 ลูก เก็บผลผลิตทุก 2 วัน ผลผลิตส่วนใหญ่ส่งขายซูเปอร์มาเก็ตในตัวเมืองเชียงใหม่ และมีลูกค้าเข้ามาซื้อถึงสวน ราคาหน้าสวนกิโลกรัมละ 250 บาท แต่ละเดือนสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 40,000 บาท
แม้จะลงทุนสูง 1 โรงเรือน ใช้งบถึง 700,000 บาท แต่ถือเป็นพืชทางเลือกตัวใหม่ที่มีอนาคตไกล เพราะเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพ เริ่มเป็นที่นิยม แต่พื้นที่ยังมีผู้ปลูกไม่มากนัก การปลูกและดูแลก็ไม่ยุ่งยากจนเกินไป ปลูกแล้วสามารถเก็บผลผลิตขายได้ทั้งปี
นอกจากจำหน่ายผลผลิตสดๆ แล้ว สาวเจ้าของสวนยังต่อยอดเพาะขยายต้นกล้าพันธุ์มะเดื่อฝรั่งจำหน่ายเป็นรายได้อีกทาง และเปิดกว้างให้ผู้ที่สนใจเข้ามาเที่ยวชมสวน แลกเปลี่ยนเรียนรู้การปลูกต้นมะเดื่อฝรั่ง ไม้ผลเศรษฐกิจตัวใหม่ ซึ่งเริ่มเป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพมากขึ้น. -สำนักข่าวไทย