นนทบุรี 1 มี.ค. – กรมพัฒนาธุรกิจการค้าตั้งเป้าดันผู้ประกอบการรากหญ้า 1,800 ราย เข้าตลาดอี-คอมเมิร์ซ ขยายการลงทุนในตลาดอี-มาร์เก็ตเพลส
น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวถึงทิศทางและแนวโน้มตลาดอี-คอมเมิร์ซ ทั้งในไทยและทั่วโลก ว่า มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันกับกระแสและความต้องการ พร้อมทั้งหาเครื่องมือและช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง
ปัจจุบันธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ในไทยมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดและมีการแข่งขันมากขึ้น ผู้ประกอบการต้องมีความเข้าใจและสามารถตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้ตรงจุด ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน โดยจะเห็นได้จากผู้ให้บริการออนไลน์ต่างประเทศหลายรายเข้ามาขยายการลงทุนในประเทศไทย เช่น อูเบอร์อีท อาลีบาบา และอีเลฟเว่นสตรีท เนื่องจากเห็นอัตราการเติบโตการใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ของไทย ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงนับเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ประกอบการไทยในการก้าวเข้าสู่ตลาด อี-คอมเมิร์ซ ในระดับสากล
น.ส.บรรจงจิตต์ กล่าวว่า กรมฯ ต้องการผลักดันธุรกิจเอสเอ็มอีเข้าสู่ตลาดอี-คอมเมิร์ซ ด้วยการเพิ่มช่องทางการตลาดผ่านอี-มาร์เก็ตเพลส ทักษะการทำตลาดผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค อินสตราแกรม ไลน์ สร้างโอกาสทางการซื้อขายสินค้าและบริการทางอินเทอร์เน็ต ช่วยลดต้นทุนและเกิดการขยายทางการตลาด ผู้ประกอบการจะได้รับการพัฒนาทักษะให้เกิดความเชี่ยวชาญและสามารถสร้างเว็บไซต์ออนไลน์สำเร็จรูปและบริการอื่น ๆ เป็นของตนเอง ทำให้ผู้บริโภคเชื่อถือร้านค้าที่มีการซื้อขายบนเว็บไซต์มากกว่าการซื้อขายผ่านโซเชียลมีเดียโดยเฉพาะผู้ซื้อในต่างประเทศ
สำหรับปี 2560 กรมฯ มีเป้าหมายผลักดันผู้ประกอบการกลุ่มรากหญ้าทั่วประเทศ 1,800 ราย เข้าสู่ระบบ อี-คอมเมิร์ซ โดยเน้นการพัฒนาเกี่ยวกับเทคนิคการตลาดออนไลน์ การสร้างเรื่องราวให้สินค้า การบริหารจัดการการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ การทำอี-มาร์เก็ตเพลส รวมถึงการใช้นวัตกรรมมาผสานความคิดเชิงสร้างสรรค์ เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าและบริการของตนเอง.-สำนักข่าวไทย