ตลท. 1 มี.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดการซื้อขายวันนี้ (1 มี.ค.) ที่ระดับ 1,567.19 จุด เพิ่มขึ้น 7.63 จุด หรือร้อยละ 0.49 มูลค่าการซื้อขาย 42,038.64 ล้านบาท โดยดัชนีเคลื่อนไหวแดนบวกตลอด ดัชนีสูงสุดของวันที่ระดับ 1,567.36 จุด และต่ำสุดที่ 1,559.85 จุด ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียตอบรับการแถลงต่อสภาคองเกรสของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ โดยเฉพาะแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการลดภาษีนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ช่วงเดือนมีนาคมนี้ตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ 1530-1590 จุด มูลค่าการซื้อที่เบาบาง โดยประเด็นสำคัญกดดันตลาด คือ กระแสเม็ดเงินต่างชาติในตลาดพันธบัตรที่เริ่มติดลบ จากการที่นักลงทุนต่างชาติเริ่มมีสัญญาณขายสุทธิทั้งในตราสารหนี้ระยะสั้นและยาว ขณะเดียวกันเริ่มเห็นสัญญาณการปรับลดประมาณการกำไรของนักวิเคราะห์บางอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับอุปสงค์ในประเทศ หลังแนวโน้มการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนภาครัฐชะลอตัว ประกอบกับ ความผันผวนทางปัจจัยการเมืองในยุโรป
นอกจากนี้ เดือนนี้ต้องติดตามการลงมติของรัฐสภาอังกฤษต่อร่างกฎหมายการแยกตัวออกจากยุโรป (Brexit) ซึ่งหากผ่านความเห็นชอบจะเริ่มต้นกระบวนการ Brexit ทันที และกระแสความนิยมของนางมารีน เลอ แปน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสฝ่ายขวาจัด ที่มีจุดยืนในการนำฝรั่งเศสแยกตัวจากสหภาพยุโรป สำหรับปัจจัยบวกเดือนนี้ คือ การคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีมติคงดอกเบี้ยร้อยละ 0.50-0.75 ในการประชุมวันที่ 14-15 มีนาคมนี้ ดังนั้น แนะนำทยอยซื้อหุ้นเมื่อตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมาในบริเวณ 1,530-1,550 จุด
ด้านประเภทนักลงทุน สถาบัน ซื้อสุทธิ 1,604.27 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 544.75 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 938.32 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศ ขายสุทธิ 1,210.70 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย