กรุงเทพฯ 17 ก.พ.-รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์เตรียมหามาตรการปกป้องความเป็นเจ้าของศิลปะวัฒนธรรมไทยหวั่นต่างชาติเป็นเจ้าของแทน พร้อมแนะกลุ่มเอสเอ็มอีใช้วัฒนธรรมและบริการไทยทำตลาดการค้า
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ศิลปวัฒนธรรม และธุรกิจด้านบริการคือจุดแข็งของไทย ที่จะต้องเร่งหามาตรการจดลิขสิทธิ์เป็นเจ้าของ ซึ่งได้หารือกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา และตัวแทนองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก หรือ ไวโป้ เพื่อร่วมกันหาแนวทาง ในการปกป้องกลุ่มศิลปวัฒธรรมและบริการที่จะสามารถต่อยอดในทางการค้าของกลุ่มเอสเอ็มอีไทยโดยผ่านศิลปวัฒนธรรมและธุรกิจด้านบนิการได้ ซึ่งศิลปวัฒนธรรมของไทยนับวันจะเป็นที่ยอมรับของตลาดโลก เช่น ศิลปมวยไทย รำไทย รวมทั้งการให้บริการรถตุ๊กตุ๊ก
ทั้งนี้ ที่ผ่านมายังไม่มีมาตรการในการดูแลหรือแสดงความเป็นเจ้าของที่แท้จริง หากไม่มีการกำหนดมาตรการหรือการจดลิขสิทธิ์ที่ชัดเจนในการแสดงความเป็นเจ้าของ อาจทำให้ต่างชาติ นำศิลปะเหล่านี้ไปจดเป็นเจ้าของได้ ดังนั้นการประชุมร่วมกันในครั้งนี้เพื่อกำหนดแนวทางในการปกป้องทุนทางวัฒนธรรมของไทยให้อยู่คู่กับคนไทยไปควบคู่กับกลุ่มภาคธุรกิจเอสเอ็มอีของไทย
นอกจากนี้ยังใช้เวทีในงานสัมมนา พลิกโฉมธุรกิจสู่ยุค SME 4.0 ซึ่งจัดโดยธนาคารกสิกรไทย ในการกระตุ้นให้เอสเอ็มอีไทยเกิดแรงตื่นตัว ในการพัฒนาสินค้าและบริการให้สอดคล้องกับยุค SME 4.0 โดยรัฐบาลตั้งเป้าหมายที่จะผลักดันจีดีพีของเอสเอ็มอีให้มีสัดส่วนร้อยละ 50 ของจีดีพีประเทศ ภายในปี 2564 จากปัจจุบันที่จีดีพีเอสเอ็มอีมีสัดส่วนร้อยละ 42 ของจีดีพีประเทศ เนื่องจากในประเทศที่เจริญแล้ว จะมีสัดส่วนจีดีพีเอสเอ็มอี ร้อยละ50 ขึ้นไป ทำให้เศรษฐกิจประเทศไม่ต้องพึ่งพิงรายใหญ่เท่านั้น รัฐจึงต้องสร้างความแข็งแรง มั่นคงให้กับเอสเอ็มอีไทย ด้วยนโยบาย SME 4.0 ภายใต้การค้าขายที่เปลี่ยนไปตามเทคโนโลยี และใช้ประโยชน์จากประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้น พร้อมทั้งนำเศรษบกิจสร้างสรรค์ ทุนทางวัฒธรรม บริการ มาปรับใช้เพิ่มเติม.-สำนักข่าวไทย