กรุงเทพฯ 18 ก.พ.-นี่คือภาพเหตุการณ์ขณะตำรวจนครบาล ชุดควบคุมฝูงชุมเข้าควบคุมตัว นายประสิทธิชัย หนูนวล หม่อมหลวงรุ่งคุณ กิติยากร และนายอัครเดช ฉายจินดา 3 แกนนำกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ ขณะชุมนุมอยู่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยทั้งหมดถูกนำขึ้นรถตู้ไปสอบสวน ที่กองทัพภาคที่ 1 หรือมณทลทหารบกที่ 11 เนื่องจากขัดต่อประกาศ คสช. เรื่องการห้ามชุมนุนในที่สาธารณะเกิน 5 คน และพระราชบัญญัติการชุมนุมในที่สาธารณะ ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น เนื่องจากมีผู้ชุมนุมบริเวณนอกรั้วกั้นเชิงสะพานชมัยมรุเชฐบางส่วนพยายามเข้ามาสมทบ แต่ก็ถูกตำรวจผลักดันออกไป อย่างไรก็ตามหลังแกนนำถูกจับกุม มีผู้ชุมนุมบางส่วนแจ้งความจำนงขอเดินทางกลับภูมิลำเนา
ช่วงบ่ายตำรวจนำตัวแกนนำต้านโรงฟ้าไปสอบปากคำเพิ่มที่กองบังคับสายตรวจ และปฎิบัติการพิเศษ อีก 2 คน คือนายบรรจง นะแส และธัชพงศ์ แกดำ ซึ่งชุมนุมอยู่ในสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนหรือกพ. และนำแผงเหล็กมากั้นถนนหน้า กพ. ทั้งเจรจาขอให้ผู้ชุมนุมซึ่งเหลืออยู่ไม่ถึง 10 คนเดินทางกลับ โดยมีรถตู้มาจอดรอรับส่งถึงหน้าประตู ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถเคลียร์ผู้ชุมนุมออกจากสำนักงาน กพ.ได้ทั้งหมด
ส่วนบริเวณสะพานชมัยมรุเชษ ผู้ชุมนุมพยามรวมตัวเป็นกลุ่มขึ้นใหม่ และการชุมนุมเริ่มมีสีสัน หลังมีการแต่งตั้งแกนนำรุ่นใหม่ประกาศเดินหน้าคัดค้านต่อ โดยเตรียมเปิดเวทีใหญ่วันพรุ่งนี้ เพื่อระดมความเห็นของนักวิชาการเข้ามาสนับสนุนคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้า และมีบางส่วนรวมตัวชุมนุมอย่างสงบ บริเวณถนนพิษณุโลก หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพาณิชยการพระนคร
หลังแกนนำหน้าทำเนียบรับฐาลถูกจับกุม เครือข่ายประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ปกป้องสิทธิชุมชน และสิ่งแวดล้อมเพื่อสันติภาพ หรือเปอร์มา ตามาส และเครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานี ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินประกาศยกระดับการเคลื่อนไหว ระบุนโยบายไม่ใช่ความต้องการของประชาชน และมองว่าเป็นโครงการที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ทั้งเชื่อว่ารัฐบาลจะต้องเดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาต่อแน่นอน หลังจากนี้จะนัดรวมพลครั้งใหญ่ รวมทั้งหารือกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหว
ขณะเดียวกัน หน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ กลุ่มเครือขายภาคประชาชนจังหวัดกระบี่กว่า 500 คน นำโดยนายดำรัส ประทีป ณ ถลาง เดินทางมารวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อขอบคุณและให้กำลังใจ หลังมติที่ประชุม กพช. เห็นชอบให้ กฟผ. เดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ และท่าเทียบเรือบ้านคลองรั้วตามขั้นตอนของกฎหมาย ทั้งแสดงให้เห็นว่ายังมีมวลชนในพื้นที่สนับสนุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานในอนาคต และเชื่อว่าเทคโนโลยีที่นำมาใช้เป็นทันสมัยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม.-สำนักข่าวไทย