กรุงเทพ 2 ม.ค.-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เชื่อภาพลักษณ์ไทยในเวทีโลกปี 60 ยังดีต่อเนื่อง ชูแนวทาง“การทูต 5 S”จับมือทุกภาคส่วนเสริมงานด้านต่างประเทศ
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงนโยบายด้านการต่างประเทศในปี 2560 ว่า กระทรวงการต่างประเทศยังเดินหน้างานการต่างประเทศตามแนวทางที่ได้ทำมาตลอดซึ่งทำให้ประเทศไทยมีบทบาทในเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศในหลายระดับทวิภาคีและพหุภาคี ซึ่งความร่วมมือต่างๆเป็นไปอย่างราบรื่น แม้รัฐบาลไทยในปัจจุบันตกเป็นเป้าสายตาในแง่ของประชาธิปไตยหรือแง่มุมอื่นๆ เช่น สิทธิมนุษยชน เป็นต้น แต่ได้รับการยอมรับมากขึ้นจากหลายประเทศ ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศต่างๆในแต่ละภูมิภาคดีขึ้นเรื่อยๆ อาทิ ประเทศสหรัฐอเมริกาที่ตอนนี้มีการเปลี่ยนผ่านผู้บริหารประเทศ ซึ่งไทยกำลังรอดูว่าจะเป็นอย่าง ไร แต่ตนเชื่อว่าความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯที่มีมานาน 183 ปี จะเป็นหลักประกันที่ดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างกันต้องเดินหน้าต่อไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ประเทศในทวีปยุโรปก็ดีขึ้น มีท่าทีที่เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดหลังจากการลงประชามติของไทย เมื่อวันที่ 7 ส.ค.2559 ซึ่งตามหลักสากลถือว่าเป็นการออกเสียงโดยประชาชน เป็นไปอย่างโปร่งใสและเชื่อถือได้ ก็สามารถเรียกความเชื่อมั่นจากนานาประเทศ ส่วนประเทศซาอุดิอาระเบียนั้น ได้เชิญพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ให้ไปเยือน หลังจากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศซาอุดิอาระเบียได้มาที่ประเทศไทยเพื่อร่วมการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย(เอซีดี) เมื่อเดือน ตุลาคม 2559 ซึ่งในครั้งนั้นยังได้เข้าพบกับนายกรัฐมนตรีของไทย โดยมีนายกรัฐมนตรีบาห์เรนเข้าร่วมด้วย
นายดอน กล่าวอีกว่า จากปรากฏการณ์เหล่านี้ในปี 2559 ทำให้กระทรวงการต่างประเทศ เชื่อมั่นว่าความก้าวหน้าในเรื่องของความร่วมมือระหว่างไทยกับนานาชาติในปี 2560 จะยิ่งแจ่มใสมากขึ้น สำหรับแนวทางการทูตของไทยในปีใหม่นี้ เรียกว่า “การทูต 5 เอส (S)” คือ 1.Security-ความมั่นคงที่เป็นพื้นฐานสำคัญของงานการต่างประเทศทั่วโลก โดยความมั่นคงในยุคนี้เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่ไม่ใช่แค่การใช้กองกำลังหรืออาวุธยุทโธปกรณ์มาสู้รบกัน แต่เป็นภัยในรูปแบบโรคภัย ภัยธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ การระบาดของยาเสพติด การก่อการร้าย การขาดแคลนพลังงานหรืออาหาร
2.Sustainability-ความยั่งยืนในด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 3.Standard-มาตรฐาน ซึ่งไทยต้องยกระดับการดำเนินงานหลายอย่างให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล เช่น การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ การทำประมง การบินพลเรือนระหว่างประเทศ เป็นต้น 4.Status-สถานภาพของประเทศที่นอกจากประเทศเราต้องยกระดับคุณภาพพื้นฐานที่เรามีแล้ว ยังต้องเพิ่มบทบาทความร่วมมือกับนานาประเทศ รวมถึงต้องมีความพร้อมทางด้านเทคนิค
5.Synergy-บูรณาการ โดยหน่วยงานภาครัฐต้องทำงานร่วมกับภาคธุรกิจ ภาคประชาชน และองค์กรแนวร่วมต่างๆ ดังนั้น การทำภารกิจต่างๆของเราต่อจากนี้ไปจะขัดเจนและครอบคลุมหลายด้านที่จะทำให้มีพลังเติมเต็มในการนำพาประเทศให้รุดหน้า นอกจากนี้ แนวทางการทูตดังกล่าวจะสนับสนุนงานภาครัฐทุกประเภท โดยมีภาคส่วนต่าง ๆ เชื่อมโยงกัน.-สำนักข่าวไทย