ทำเนียบ 20 มิ.ย.-“ดอน” แจงเร่งนัดหารืออาเซียนแก้ปัญหาภายในเมียนมา เพื่อรักษาประโยชน์ประเทศ ชี้ ผลประโยชน์ประเทศไม่สามารถรอได้
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การจัดการประชุมพบปะแบบสนทนาอย่างไม่เป็นทางการของกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อหารือถึงสถานการณ์ของประเทศเมียนมา วานนี้ (19 มิ.ย) ไม่มีปัญหาอะไร ทุกประเทศที่เข้าร่วมประชุมพอใจและต้องการให้จัดการประชุมลักษณะนี้อีก ซึ่งยืนยันการจัดประชุมนี้มีเหตุและผล อีกทั้งเคยออกแถลงการณ์ว่าจะดำเนินการให้ปัญหาของเมียนมาลุล่วง เปิดโอกาสให้หาวิธีการต่างๆ ซึ่งเคยจัดมาแล้ว 2 ครั้ง และได้ประโยชน์ด้วย
นายดอน กล่าวว่า สำหรับผลลัพธ์การของประชุม ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นข้อตกลงกันไว้แล้ว แต่ขอให้รับรู้ว่าเป็นประโยชน์ อีกทั้งได้พูดถึงเรื่องที่ไม่เคยพูดมาก่อนด้วย และถือว่ามีพัฒนาการ ทุกฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันหาทางออก และเมียนมาก็พยายามดำเนินการต่างๆ ให้มีความคืบหน้าและมีโอกาสเห็นทางออก ซึ่งเมื่อครั้งที่เมียนมารัฐประหาร ก็ยืนยันมีทางออกด้วยการจัดการเลือกตั้ง
“ดังนั้นย้ำว่าในส่วนของไทย ภาครัฐพยายามดูแลผลประโยชน์ของประเทศ และคนไทย ซึ่งถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดที่จะดำเนินการในเรื่องนี้ เพื่อหาทางออกที่เหมาะสม โดยพวกเรามองข้ามตรงนี้ไปทั้งหมด นึกว่าต้องเดินตามแนวทางของอาเซียนเพียงอย่างเดียว ซึ่งอาเซียนมาแนวทาง 5 ข้อ แต่ใน 5 ข้อนั้น ไม่มีทางออก แต่เนื่องจากไทยมีพรมแดนติดต่อเมียนมากว่า 2,400 กิโลเมตร ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ในอาเซียนไม่มีพรมแดนติดเมียนมา ก็ไม่ได้เดือดร้อน และไม่ได้จำเป็นต้องรีบหาทางออก แต่ปัญหานี้กระทบต่อประเทศไทย ผลผระโยชน์ชองคนไทย พ่อค้าไทย และนักลงทุนต่างประเทศที่สนใจมาลงทุนในไทย ดังนั้นต้องมองประเด็นเหล่านี้ด้วย ย้ำว่าทุกอย่างอยู่บนผลประโยชน์ของประเทศและคนไทย” นายดอน กล่าว
รมว.ต่างประเทศ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีปัญหาค้ามนุษย์ ยาเสพติด ค้าอาวุธ และแสกมมิ่งต่างๆ จึงต้องเร่งแก้ไขปัญหา เพราะฉะนั้นมีประเทศไทยเพียงประเทศเดียว ที่ทุกฝ่ายรวมถึงอาเซียนรับรู้ว่าต้องการหาทางออกจากปัญหานี้โดยเร็วที่สุด เพราะได้รับผลกระทบมากที่สุด จึงขอให้มองมุมนี้ด้วย เนื่องจากอาเซียนว่าไปตามหลักการ
โดยประเทศอาเซียนมาเข้าร่วมประชุม 7 ประเทศ ซึ่งมากกว่าการประชุม 2 ครั้งที่ผ่านมา และยังมีอีก 2 ประเทศที่ได้รับผลกระทบเพราะมีชายแดนติดต่อเมียนมา คือ อินเดียและจีน เนื่องจากต้องการทราบว่าจะแก้ไขปัญหากันอย่างไร ส่วนเรื่องนี้ต้องส่งต่อให้รัฐบาลชุดใหม่ดำเนินการหรือไม่ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นการดูแลผลประโยชน์ของประเทศไทย ซึ่งสิ่งใดที่เป็นผลประโยชน์ ผู้ที่เกี่ยวข้องและมีหน้าที่รับผิดชอบก็จะต้องดูแลกันต่อไป และทุกคนควรรับรู้ว่าปัญหาส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง อย่ารับฟังเฉพาะข่าวสารที่อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ ดังนั้นต้องให้ข่าวที่ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์
ส่วนการลี้ภัยของชาวเมียนมาเข้ามาในไทย ก็ปฏิบัติตามหลักสากล ดูแลให้การรักษาและให้กลับประเทศ แต่สิ่งที่ไม่ต้องการคือไม่อยากให้มีการสู้รบ เพราะหากบานปลาย ยืดเยื้อ กระทบต่อไทยทั้งหมด การค้าชายแดนเสียหาย จนกว่าสถานการณ์จะสงบเรียบร้อย
ทั้งนี้ รมว.ต่างประเทศ ย้ำว่าผลประโยชน์ของประเทศไทยรอไม่ได้ และครั้งนี้ไม่มีการลงนามข้อตกลง เป็นการรับรู้ร่วมกันเพื่อหาแนวทางที่เหมาะสม.-สำนักข่าวไทย