fbpx

ส.อ.ท.ฟันธงเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 3.5-4 ดีกว่าปีที่ผ่านมา

กรุงเทพฯ 2 ม.ค.-นายเจนนำ ชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีนี้ว่า ภาคเอกชนมองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีนี้ด้วยความหวังว่า ภาคธุรกิจหรือเศรษฐกิจไทยในภาพรวม น่าจะมีแนวโน้มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยสนับสนุนทั้งจากเศรษฐกิจในประเทศที่การซื้อเริ่มฟื้นตัวจากราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้นเช่น ยางพาราเป็นต้น สะท้อนจากยอดขายจำหน่ายรถยนต์ในประเทศและดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีขึ้น และตลาดต่างประเทศก็มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นเช่นกัน และในปีนี้เศรษฐกิจไทยยังได้รับปัจจัยการโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐที่จะส่งผลทำให้เศรษฐกิจมีแนวโน้มที่ดีขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมา ส.อ.ท.จึงประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 3.5-4 ปรับตัวดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาที่ขยายตัวรอ้ยละ 3.2-3.3 ส่วนการส่งออกปีนี้คาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวของการส่งออกจะอยู่ที่ร้อยละ 0 ถึงบวกร้อยละ 2 ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่การส่งออกติดลบร้อยละ 1


ปัจจัยเสี่ยงในปีนี้คือ ปัจจัยภายนอกประเทศ ได้แก่ แนวโน้มนโยบายใหม่ ๆ จากต่างประเทศ ที่จะเข้ามาเช่น นโยบายใหม่ของรัฐบาลสหรัฐ ขณะที่สหภาพยุโรปหลายประเทศจะมีการเลือกตั้ง จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป ขณะเดียวกัน จะต้องจับตาการจับกลุ่มทางการค้าได้ ซึ่งในส่วนของความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ TPPคงชะลอตัวไป ขณะที่การเจรจาเปิดเสรีในกรอบความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ระดับภูมิภาค หรือ RCEP ที่มีสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ กับคู่เจรจา 6 ประเทศ ได้แก่ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์จะกลับมามีบทบาทมากขึ้นเป็นสิ่งที่ดีที่ประเทศไทยจะเข้าไปเจรจาอย่างใกล้ชิด
ส่วนระดับราคาน้ำมันไม่น่าเป็นห่วงมากนะ โดยระดับราคาน้ำมันที่เป็นอยู่ในปัจจุบันประมาณ 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น่าจะเป็นระดับราคาที่เหมาะสม และระดับราคาน้ำมันก็ไม่น่าเป็นห่วงว่าจะกลับขึ้นไปอยู่ในระดับ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลอีก อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ ด้านกำลังซื้อของประเทศในตะวันออกกลางน่าจะปรับตัวดีขึ้นส่งผลให้การส่งออกสินค้าของไทยในหลายตัวดีขึ้น เพราะเชลล์ออยล์พร้อมที่จะผลิตหากราคาน้ำมันปรับตัวดีขึ้นและผลิตออกสู่ตลาด ส่งผลทำให้ระดับราคาน้ำมันในตลาดโลกไม่อาจจะสูงขึ้นไปได้ โดยระดับราคาน้ำมันปีนี้คาดว่า จะอยู่ที่ประมาณ 50-65 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเท่านั้น
ส่วนปัจจัยอัตราแลกเปลี่ยน ในช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีความผันผวน อย่างไรก็ตาม จะต้องรอความชัดเจนในนโยบายของธนาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนใหม่ก่อน ก็จะช่วยให้เห็นทิศทางที่ชัดเจนขึ้น เพราะสิ่งที่ตกเป็นข่าวที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจนถึงขณะนี้ ทั้งหมดยังคงเป็นเพียงนโยบายหาเสียงอยู่ ยังไม่ใช่นโยบายที่ออกมาจริงๆ ของประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ แต่เมื่อนโยบายออกมาจริงและชัดเจนแล้ว ประเทศไทยก็จะต้องมาปรับทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้สอดคล้องต่อไป -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้อพยพจากไทยคว้าแจ็กพอตเพาเวอร์บอล

ผู้อพยพจากไทยไปใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐดวงเฮง คว้ารางวัลแจ็กพอตลอตเตอรี่เพาเวอร์บอล ได้เงินรางวัลสูงถึง 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

“ซูเปอร์โพล” เผยผลสำรวจสเปก “ผบ.ตร.คนใหม่” ต้องซื่อสัตย์สุจริต

“ซูเปอร์โพล” เผยผลสำรวจสเปก “ผบ.ตร.คนใหม่” ต้องซื่อสัตย์สุจริต ชี้ประชาชนเบื่อมากข่าวนายตำรวจระดับสูง ควรเร่งทำงานสร้างความปลอดภัยให้ประชาชน

นายกฯ บอกขอโทษ “ปานปรีย์” แล้ว ไม่ขัดแย้ง

นายกฯ เผยขอโทษ “ปานปรีย์” แล้วหลังหลุดรองนายกฯ รับมีทั้งคนพอใจ ไม่พอใจ ยันสัมพันธ์ลูกเป็นเพื่อนกัน ไม่ขัดแย้ง เชื่อคนใหม่สานต่องานได้  

“ปานปรีย์” รับยื่นลาออก หลังถูกปรับพ้นรองนายกฯ

“ปานปรีย์” ยอมรับยื่นลาออก หลังถูกปรับออกจากรองนายกฯ ชี้หากไม่มีตำแหน่งพ่วงอาจทำงานไม่ราบรื่น ลั่นหากมีคนอื่นเหมาะสมกว่าให้มาทำงานแทน

ข่าวแนะนำ

โปรดเกล้าฯ “มาริษ” รมว.กต.คนใหม่

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้ง “มาริษ” เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่ แทน “ปานปรีย์” ที่ลาออกจากตำแหน่ง มีผลทันที

นายกฯ ย้ำไม่ลืมคำมั่นเพิ่มค่าแรง ชี้ต้องเพียงพอดำรงชีวิต

เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความไม่ลืมคำมั่นเพิ่มเงินเดือนและค่าแรงขั้นต่ำ ย้ำเงินเดือนต้องเพียงพอในการดำรงชีวิต

ข้าราชการบรรจุใหม่เฮ! ปรับขึ้นเงินเดือน 1 พ.ค.67-68

รัฐบาลขึ้นเงินเดือนข้าราชการกลุ่มบรรจุใหม่ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (1 พฤษภาคม 2567) หลังจัดงบประมาณไว้รองรับแล้ว ส่วนปี 2568 พร้อมขึ้นเงินเดือนปริญญาตรี แตะ 18,000 บาท